ผมมีใช้ทั้ง 2 วงจร, Leaseline (via Fiber) 10Mbps ในประเทศ 2 Mbps ต่างประเทศ กับ Fiber Cable Modem 20/3Mbps (Down/Up) อยากบอกว่า media ของทั้งสองวงจรวิ่งมาบน Fiber เส้นเดียวกันเลยครับ ถ้าถามผม ผมตอบในบริบทของรพ.ของผมนะครับ
1. ถ้าเป็นการเชื่อมต่อที่มีความสำคัญ ต้องการความรวดเร็ว และเสถียรภาพสูง หรือเซสชั่นที่ผมต้องการควบคุมเรื่องความปลอดภัยจริง ๆ ผมโยกไปวิ่งที่ wan leaseline ผมมองว่า leaseline จะมี throughput ที่น่าจะดีกว่า xDSL หรือ DOCIS ดังนั้นตอนนี้งานที่ผมใช้ผ่าน leaseline คือ การเชื่อมต่อของ server ทุกตัว, การเชื่อมต่อไปสปสช./กรมบัญชีกลาง/สปสธ., การเชื่อม VPN มาจากบ้านของบุคลากรระดับบริหารของรพ.
2. ถ้าเป็นการเชื่อมต่อทั่วไป เช่น ให้จนท.เปิดเว็บ ก็เชื่อมผ่าน Fiber Cable Modem ครับ
3. ถามว่าคุณภาพเป็นไง ผมว่าเทียบกับ leaseline ซึ่งดูว่าน่าตัวเลขความเร็วจะช้ากว่า Fiber Cable Modem แต่ขอยืนยันครับว่า Leaseline เร็วกว่า, เสถียรกว่า, ออพชั่นดีกว่า, SLA ก็ดีกว่า ผมตกลงกับ TOT เอาไว้ ห้าม down เกิน 4 ชม., ความเร็ว test ที่น่า router ห้ามตกเด็ดขาดต้องรักษาไว้ที่ 10 Mbps ตลอด) ซึ่งตั้งแต่ใช้ก็น่าจะครึ่งปีแล้ว ผมยังไม่เคยเจอ down เลยสักครั้ง เรื่องความเร็วก็โอเคนะครับ วิ่งจริง ๆ ได้เกิน 10 ด้วยซ้ำ (เห็น TOT เขาบอกว่า เขาเปิดเผื่อมาให้ประมาณ 13 - 14 Mbps) ดังนั้นผมเลือกที่จะเช่าทั้งสองวงจร แยกการใช้งานให้เหมาะสมกับงาน แล้วเช่าตามปริมาณใช้จริง เช่น ถ้าผมเป็น จขกท. ผมจะเช่า Leaseline แต่อาจจะเช่าแค่ 2 - 5 Mbps และเลือกเอาเฉพาะวงจรในประเทศเท่านั้น วงจรต่างประเทศไม่ต้องก็ได้ เพราะเราจจะเน้นใช้เฉพาะงานของโรงพยาบาลจริง ๆ ซึ่งผมว่าก็คงมีเฉพาะ server ในประเทศเท่านั้น เดือนหนึ่งคงไม่กี่พันบาท (ผมเช่า 10/2 เดือนหนึ่งหมื่นกลาง ๆ ครับ) และที่เหลือไปวิ่งจาก Fiber Cable Modem เอาแล้วกันครับ