... และก็ได้กลับไปยังสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเมื่อเกือบสิบปีมาแล้ว ชีวิตเคยได้มาพบความสงบในชีวิตโดยบังเอิญหรืออะไรก็ไม่ทราบ(อยู่อยุธยาแต่มาบวชอยู่วัดป่าที่ทองผาภูมิ) สถานที่ที่ผมได้นำสิ่งผมได้พบจากที่นี่ไปใช้ในวันที่ชีวิตเจอปัญหาอย่างหนัก สถานที่ที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมยังมีชีวิตอยู่เป็นตัวผมเองในวันนี้
สามเดือนกว่าที่ได้มาอาศัยความร่มเย็นอยู่ที่นี่ ฉันอาหารวันละ 1 มื้อตอนเช้า บิณฑบาตรเท้าเปล่าไปตามทางลูกรัง ซักผ้าด้วยน้ำร้อน ไม่สัมผัสวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ โดยมีหลักปฏิบัติตามแทวทางของหลวงปู่ชา แห่งวัดหนองป่าพง ได้เห็นภาพพี่น้องชาวบ้านที่มีความศรัทธาต่อพระป่าสายปฏิบัติ ซึ่งเราแทบจะไม่ได้เห็นในสังคมเมืองแล้วตอนนี้
สิ่งที่ได้กลับไปคือทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น ความใจร้อนดื้อรั้นที่เคยเป็น Properties ของตัวผมเอง ก็เปลี่ยนไป(แม้จะยังมีเหลืออยู่บ้าง
) นึกถึงคนรอบข้างมากขึ้น
เช่น เมื่ิอก่อนเวลาจะทำอะไรสักอย่างก็จะนึกถึงแค่ให้สำเร็จตามความต้องการของเรา และจะใช้วิธีการอะไรก็ได้ที่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จของเรา
แต่เดี๋ยวนี้จะทำอะไรสักอย่างนอกจากจะนึกถึงความสำเร็จตามความต้องการของเราแล้ว
ก็จะคิดด้วยครับว่า ความสำเร็จตามความต้องการของเราน่ะ จะไปทำอะไรให้คนอื่นเขาเดือดร้อนด้วยหรือเปล่า
ดีใจมากครับที่ได้พบกลับหลวงพ่อที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ใจดีมีเมตตาเสมอ ได้เห็นกุฎีที่คยได้มีโอกาสจำพรรษาอยู่ ซึ่งวันนี้ก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา หลังจากทำหน้าที่ช่วยเหลือสนับสนุนแก่ผู้ปฏิบัติชอบมานาน
มีโอกาสคงกลับมาอีกครับ ...
....