... อืมมม ไม่ได้เข้า WEB HOSxP หลายวัน.....
... ต้องขอบคุณท่าน Terminator2009 ด้วยที่ตั้งกระทู้ ซึ่งเรื่องที่ท่าน Terminator2009 ได้ยินมา ผมเองก็คิดว่าหลายท่านคงได้ยินมาเช่นกัน
และได้เห็นคำชี้แจงของ อ.ชัยพร ที่ผมเองต้องบอกว่าอยากเห็นมานานแล้วครับ อยากให้ อ.ชัยพร ได้มีโอกาสบอกหรืออธิบายให้กับอีกหลายๆ ท่าน ได้ทราบถึงความยากลำบากของ อ.ชัยพร บ้าง
ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมกับ อ.ชัยพร ไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน เพียงแต่ชื่นชมในความเป็นคนที่เก่งมากๆ ของอาจารย์ และพอมีโอกาสได้พบได้คุยกับอาจารย์บ้าง ก็ทำให้รู้ถึงความเป็นคนใจดีและความทุ่มเทของอาจารย์ ที่มีต่อ HOSxP
แต่จากเท่าที่ได้สัมผัสกับ อ.ชัยพร มา อาจารย์แกจะเป็นคนพูดน้อยครับ เคยถามอาจารย์เหมือนกันว่า ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็มีโรงพยาบาลที่ใช้ HOSxP โดยที่ไม่ผ่านการขึ้นระบบจาก BMS แต่ก็มีการมาขอให้ช่วยเพิ่มเติม ช่วยแก้ปัญหาให้ อาจารย์รู้สึกอย่างไร แกก็แค่ยิ้มๆ แล้วบอกว่า
"ผมไม่มีอะไร" (ทุกวันนี้ อ.mn ก็เลยไม่ค่อยมีอะไรจริงๆ ครับ เรื่องเงินเรื่องทองน่ะ 555) แล้วก็บอกต่อว่า
"ผมไม่เคยแยกว่า รพ.นั้น ผ่าน BMS รพ.นี้ ไม่ผ่าน BMS" ซึ่งก็ยืนยันได้ถ้าใครที่เข้าใช้งาน WEB HOSxP บ่อยๆ ถ้าอาจารย์ว่างมาตอบกระทู้ อาจารย์จะไม่เคยเลือกโรงพยาบาลหรือว่าคำถามจากใครเลย และอาจารย์ก็ยินดีด้วยครับถ้า รพ. ใหนสามารถขึ้นระบบได้เอง และไม่เคยติดใจด้วยถ้าไปจ้าง(หรือช่วยโดยมีค่าตอบแทน)บุคคลอื่นมาขึ้นระบบให้ เพียงแต่ว่าก็ควรที่ต้องรับผิดชอบกับผลงานด้วย มีอะไรผิดพลาดก็ไม่ควรจะโยนให้ HOSxP หรือ BMS(คงยากเหมือนกันที่จะหาคนที่ยืดอกยอมรับว่าตัวเองทำผิดพลาด) ถ้าถามต่อไปอีกว่าถ้าในที่สุดแล้ว หลายสิ่งหลายอย่าง อาจารย์ไม่ไหวจริงๆ อาจารย์จะเลิกพัฒนา HOSxP หรือเปล่า คำตอบที่เคยได้ยินคือ
" HOSxP คือชีวิตของผมเหมือนกัน " .......
ส่วนที่มีการพูดกันว่าค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้ BMS นั้นสูงเกินไป บางทีเป็นเพราะเราแค่โทรไปถามราคา อาจจะจาก รพ. ที่เคยขึ้นระบบกับ BMS หรือรู้ราคามาจากที่มีการพูดต่อๆ กันมา แล้วก็บอกว่าแพงจัง โดยที่ยังไม่ทราบรายละเอียดหรือได้พูดคุยกับ อ.ชัยพร เลยครับว่ารายละเอียดจริงๆ เป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าตอนนี้สำคัญที่สุดคือต้อง save เงินบำรุงไว้เป็นค่าตอบแทนของพวกเราก่อน(
)
หรืออีกด้านหนึ่ง อาจเป็นเพราะว่า HOSxP และบริการจาก BMS เราไม่สามารถมองเห็นเป็นตัวเป็นตนได้ สมมุติอย่างนี้นะ ถ้าเราจ่ายเงิน 1 แสน เพื่อซื้อ Server เราก็จะเห็นได้ว่าเรามีเครื่อง Server ตั้งอยู่ เราจ่าย 1 ล้านซื้อเครื่อง x-ray เราก็เห็นเครื่อง x-ray ตั้งอยู่
แต่ถ้าเราเปลี่ยนไปมองที่ผลของการที่เราจ่ายเงินไปว่าเราได้อะไรตอบแทนกลับมาบ้าง เราเสียเงินซื้อ server เราได้อะไรจาก server บ้าง หรือเราเสียเงินชื้อสิ่งของบางอย่าง เราได้อะไรจากของสิ่งนั้นบ้าง เราจ่ายเงินให้ BMS ไปเราได้อะไรตอบแทนกลับมาบ้าง นอกเหนือไปจากสิ่งที่โรงพยาบาลเราได้รับแล้ว การที่เราสนับสนุนคนไทยคนหนึ่ง หรือคนในวงการสาธารณสุขของเราคนหนึ่ง ที่มุ่งมั่นที่จะทำ software ดีๆ สักตัวหนึ่ง และเราก็ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ด้วย ซึ่ง Application ทางด้านสาธารณสุขของเรานั้น บางที่คนที่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมดีๆ แต่ถ้าไม่มีความเข้าใจในระบบงานสาธารณสุขของเราเป็นอย่างดี ก็ใช่ว่าจะสร้างขึ้นมาง่ายๆ นะครับ ถ้ายิ่งจะให้ใช้ประโยชน์ได้ดียิ่งลำบาก และก็ไม่สามารถที่จะหยุดการพัฒนาได้ ตราบเท่าที่ความต้องการของเราหรือผู้กำหนดนโยบายยังมีอยู่ รวมถึงสภาวการณ์ต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เราลองมองดูครับว่าตอนนี้มี Free Software กี่ตัวที่ไม่มีงบประมาณจากที่อื่นหรือหน่วยงานอื่น มาสนับสนุนในการพัฒนาเลย แต่มีความสามารถเหมือน HOSxP
ส่วนใครที่สามารถขึ้นระบบได้เอง หรือขึ้นระบบโดยเสียเงินน้อยกว่า รพ. ที่ขึ้นระบบโดย BMS ก็ขอร้องว่าอย่าได้มีการ(ขอใช้คำว่า)เสียดสี กระแนะกระแหน หรืออื่นๆ กับโรงพยาบาลที่เขาต้องจ่ายเงินมากกว่าเราเลยครับ ที่จริงเราควรจะต้องขอบคุณพวกเขาด้วยซ้ำไป เพราะโรงพยาบาลเหล่านี้ทำให้โรงพยาบาลเล็กๆ หรือโรงพยาบาลที่ฐานะทางการเงินไม่ดี ได้มีโอกาสใช้โปรแกรมที่มีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่องไปด้วย
แม้แต่เรื่องการจัดการอบรมจาก BMS บางครั้งเมื่อมีการไปขออนุญาต อาจมีคำพูดมาจากงานด้านการบริหารหรือการเงิน มาว่าแพงเกินไป เพราะปกติเวลาที่ จนท.ในโรงพยาบาล จะไปอบรมส่วนใหญ่จะฟรี เพราะจะมีเจ้าภาพ(เช่น สปสช.)ซึ่งเขาจะได้รับงบประมาณมาจ่ายแทนให้เราอยู่แล้ว แล้วเราก็คงไม่เคยสอบถามเขาหรอกครับว่างบประมาณต่อหัวต่อวันของเราน่ะเท่าไร ปกติการจัดการอบรมที่เป็นการให้ความรู้ เช่น อบรมการเกี่ยวกับ Linux โดยวิทยากรที่มีความรู้จริง โดยเอกชนที่เคยเห็น ค่าสมัครก็ประมาณวัันละเกือบๆ 3 พันแล้วครับ
อีกอย่างที่จะเป็นตัวบอกว่าค่าอบรมจะแพงหรือไม่แพง ก็อยู่ที่ตัวผู้เข้ารับการอบรมด้วยครับ ถ้าเราเข้าอบรมแล้วตั้งใจอบรมแล้วนำสิ่งที่ได้ มาปฏิบัติ/แสดงให้ทางโรงพยาบาลเห็นว่าสิ่งที่เราได้มา มันมีประโยชน์คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปจริง เขาก็คงเห็นได้เองครับว่าเงินที่เสียไปน่ะ ไม่แพงเลย ส่วนตัวแล้วผมชอบการอบรมเรื่อง HOSxP มาก เพราะเท่าที่ได้เข้าร่วมผู้เข้ารับการอบรมส่วนใหญ่จะตั้งใจกันมาก พักกันเดี๋ยวเดียวก็เริ่มกันต่อ เลยเวลาก็ไม่ว่ากัน เฝ้าเก็บความรู้กันเต็มๆ ส่วนการอบรมงานด้านสาธารณสุขอื่นๆ บางงาน บางทีนะต่อนบ่ายเหลืออยู่หน่อยเดียว 5555
สำหรับความคิดส่วนตัวของผมนะ ในวันนี้ถ้า อ.ชัยพร จะมีรายได้ที่มาจาก HOSxP สักสิบหรือร้อยล้าน ผมว่าคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และผมอยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ตอนนี้ ที่โรงพยาบาลก็กำลังจะใช้ระบบ Inventory ของ BMS ครับ กำัลังให้ BMS ส่งใบส่งของเพื่อทำเรื่องจ่ายเงินให้อยู่ มีคำถามเรื่องค่าใช้จ่ายจาก ผอ. เหมือนกันเนื่องจากมีใบเสนอราคาของตัวอื่นที่ราคาถูกกว่ากันอยู่มากเข้ามาที่ รพ. ด้วย แถมมีที่เป็นของฟรีอยู่อีก แต่ด้วยการอธิบายกับ ผอ. บวกกับความใจดีของ อ.ชัยพร ตอนนี้ ผอ. ผม ไม่มีความลังเลที่จะจ่ายเงินเลยครับ ทั้งที่จริงตอนนี้สภาพการเงินของ รพ. ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร
เฮ้อ ... นั่งบ่นอะไรไม่รู้ ยืดยาวเลยเรา คือส่วนตัวแล้วค่อนข้างเข้าใจและเห็็นใจ อ.ชัยพรมาก ทุกวันนี้นอกจากต้องพัฒนาปรับปรุง HOSxP แล้ว ยังต้องทำให้ BMS และน้องๆ ทีมงาน เดินต่อไปได้อีก บางครั้งก็ต้องเจอปัญหาอุปสรรคเยอะแยะมากมาย
มีคนเคยพูดทำนองว่า บางครั้งหัวหน้าหรือเจ้าของน่ะไม่มีเงินกินข้าวเพราะต้องให้ผู้ร่วมงานหรือลูกน้องมีกินก่อน โดยที่ผู้ร่วมงานหรือลูกน้องก็ไม่ได้รับทราบ บางทีลูกน้องกินในภัตตาคารด้วยซ้ำ คือจะบอกว่าคนที่เป็นหัวหน้าเขาบางครั้งต้องแบกรับอะไรมากมายโดยที่คนอื่นอาจไม่ทราบหรือเราไม่สามารถบอกให้เขาทราบก็ได้
สำหรับผมตอนนี้ก็คงทำได้แค่ มีคำพูดที่ว่า "
เป็นกำลังใจให้ อ.ชัยพร และ ทีมงาน BMS ทุกท่านเสมอครับ" และสำหรับท่าน Terminator2009 นะครับ ผมรู้สึกดีมากเลยครับ ที่ท่าน Terminator2009 ใช้คำว่า "
โปรแกรมเรา" ..
..