ตัวอย่าง...เช่น
GetDateRangeDialog(date1, date2);
ds1:=FormatDateTime('yyyy-mm-dd',date1);
ds2:=FormatDateTime('yyyy-mm-dd',date2);
w1:=GetPickupList('select name from ward where ward in("01","02") ');
w2:=GetSQLStringData('select ward from ward where name="'+w1+'" ');
GetSQLStringData(' select a.*,concat(p.pname,p.fname," ",p.lname) as ptname '+
' from ipt i '+
' left outer join an_stat a on a.an =i.an '+
' left outer join ward w on w.ward =a.ward '+
' left outer join patient p on p.hn=a.hn '+
' where a.regdate between "'+ds1+'" and "'+ds2+'" and i.ward="'+w2+'"');
1.เลือกใช้ function GetDateRangeDialog(date1, date2);
2.ไปประกาศตัวแปรที่ declaration
var
date1,date2 : datetime;
ds1,ds2,w1,w2 : string;
3.เลือกใช้ function GetSQLStringData();
แล้วเขียนคำสั่ง SQL เข้าไปครับ ถ้าต้องการแยกบรรทัด ต้องใช้ตัวเชื่อมประโยค คือ เครื่องหมาย '+' เสมอ ครับ
4.ในช่วงวันที่ที่ผมต้องการผมก็เอาค่าตัวแปรที่ผมได้ประกาศไว้มาใส่ครับ เช่น
where a.regdate between " '+ds1+' " and " '+ds2+' "
หมายเหตุ : การนำค่าตัวแปร string มาใส่ ต้องใส่ค่าตัวแปร ระหว่างเครื่องหมาย
" ' + + '
" เสมอ นะครับ