1.ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2TB คือ ขนาดเริ่มต้น แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่า คือ ปีนี้ SSD น่าจะก้าวลงมาเป็นมาตรฐานใน client pc กลุ่ม hi performance และ ในกลุ่มของ vm server และมีโอกาสที่จะมีขนาดเล็กลงเหลือประมาณ 1 นิ้ว โดยมีขนาดความจุเริ่มต้นประมาณ 80 - 120 GB หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่ราคาถูกกว่าคือ Hybrid HD ซึ่งเป็นการประสานกันระหว่าง HD กับ SSD ทำให้ได้ความจุที่มากกว่าเมื่อเทียบกับ SSD แต่ได้ความเร็วที่เร็วกว่า Traditional HD ซึ่งแนวคิดของผม ปีนี้คิดว่าจะหันมาซื้อสื่อบันทึกแบบ SSD หรือ HybridHD แทนการซื้อ HD แบบเดิม
2.BroadBrand Internet ระดับ 1 Gb/s อาจไม่ไกลเกินเอื้อมแต่เฉพาะในเมืองนอกนะครับ สำหรับบ้านเราตอนนี้ True ได้เปิดให้บริการ Cable Modem ผ่านเส้นใยแก้วนำแสง ความเร็ว dl 100Mb/s ul 10Mb/s ออกมา ค่าบริการตกประมาณ 4500 บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นพัฒนาการของ BB Internet ในบ้านเรา แต่พื้นที่การให้บริการจะยังค่อนข้างจำกัดมาก แหมแต่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณทลก็ยังไม่กว้างมากเท่าไร (ที่บ้านกะที่รพ.ก็ไม่อยู่ในเขตพท.ให้บริการ น่าเศร้ามากครับไม่งั้นจะเช่าแบบ 20/2 ซะหน่อย เพราะทุกวันนี้เช่า 12/1 ก็ราคาพอ ๆ กันเลย ) และนอกจากนี้อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจคือ VDSL ซึ่งว่ากันว่าจะเข้ามาแทนที่ ADSL ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะจะช่วยขยายความเร็วการเชื่อมต่อ BB Internet ผ่านสายทองแดงไปได้ถึง 52Mb/13Mb ก็คอยติดตามชมกันต่อไปแล้วกันนะครับ
3.เทคโนโลยี 4G สำหรับบ้านเรา 3G เริ่มจะพอเห็นเค้าลางบ้างแล้วนะครับ แต่ก็ยังไม่เป็นรูปธรรมเท่าที่ควร แต่ในอเมริกา เครือข่าย Verizon เริ่มทดสอบเทคโนโลยี 4G อย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับในบ้านเรา CAT เริ่มต้นทำการตลาด 3G อย่างจริงจังด้วยการส่งระบบ CDMA 2000 1xEV-DO ลงในพื้นที่ 52 จังหวัด ยกเว้น กลุ่มจังหวัดพท.สัมปทานของ Hutch 25 จังหวัดภาคกลางและกรุงเทพฯ และนอกจากนี้ TOT เองก็เร่งขยายเครือข่าย 3G ให้กว้างมากขึ้น โดยข่าวแว่วว่า AIS จะมาขอเป็นคนขายให้เหมือน samart ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ใครที่ใช้บริการอยู่แล้วช่วยส่งเสียงหน่อยครับ
4.USB 3.0 ตอนนี้เมนบอร์ดคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่เริ่มทยอยใส่ USB 3.0 กันออกมามากขึ้น และ HD Ext. เริ่มมีรุ่นที่เป็น USB 3.0 มากขึ้น ด้วยคุณสมบัติความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลมากกว่า 4Gb/s และใช้พลังงานต่ำกว่า USB 2.0 ก็คงเป็นคำตอบว่า ปีนี้อุปกรณ์ USB ที่จะออกมาใหม่เกือบทั้งหมดคงจะเป็นเวอร์ชั่น 3 กันหมดอย่างแน่นอน
5.LightPeak ชื่อนี้อาจจะยังไม่คุ้น แต่เดียวอีกสักระยะเราคงจะคุ้นเคย เจ้า LightPeak เป็นผลงานของ Intel ที่ต้องการจะพัฒนาสื่อในการรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ เช่น เมนบอร์ดกับฮาร์ดดิสก์ โดยอาศัยเส้นใยแก้วนำแสง โดยสามารถทำความเร็วในการรับส่งได้ถึง 10Gb/s และยังใช้พลังงานต่ำกว่าสายทองแดง โดยหลักการของ LightPeak ก็จะคล้าย ๆ กับการรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์สวิตซ์โดยใช้เส้นใยแก้วนำแสงทั่วไป แต่จะมีขนาดเล็กลงมากๆ และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ยาวถึง 100m ซึ่งผมเองก็เชื่อว่า LightPeak น่าจะลงสู่ตลาดบนภายในช่วงปีนี้แน่นอน เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องความเร็วของสื่อนำสัญญาณที่ใช้สายทองแดงในปัจจุบัน เป็นปัญหาต่อการรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่
6. HDMI จะกลายเป็นมาตรฐานของสื่อการนำข้อมูลภาพ เนื่องด้วยในปัจจุบันข้อมูลที่ใช้ในการแสดงผลภาพเริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้น ภาพ 3D เริ่มเป็นนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น ดังนั้นสื่อกลางรับส่งข้อมูลภาพความเร็วสูงจึงเป็นสิ่งจำเป็น ล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว ทั้ง Intel และ AMD ประกาศภายในปี 2013 จะหยุดการสนับสนุนพอร์ต VGA ซึ่งเป็นพอร์ตที่เราใช้กันมายาวนานมากกว่า 20 ปี และอุปกรณ์ที่จะออกมาภายในปี 2015 จะเชื่อมต่อด้วย HDMI ทั้งหมด ซึ่งผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และภาพทั้งหลายต่างก็ขานรับนโยบายดังกล่าว เพราะมองเห็นถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
7.จอภาพความละเอียด 4MP กำลังจะมา ในขณะที่วันนี้ เราเริ่มหันมานิยมซื้อ LCD หรือ LED ทีวีกันมากขึ้น จนทีวีจอภาพแบบเก่าแทบไม่ต้องได้ขายกันและเริ่มสูญหายไปจากตลาด (สังเกตได้ ตอนนี้เดินไปในห้างหรูหลายแห่งไม่ปรากฏการตั้งโชว์ทีวีหลอดภาพอีกแล้ว) สิ่งหนึ่งที่เริ่มจะกลายเป็นมาตรฐานในคือ รีโซลูชั่นของจอภาพที่ความละเอียด 2 MP (1920 x 1080p60) ส่วนรีโซลูชั่นที่ 1.3 MP จะเหลือแต่รุ่นเล็ก ๆ ไม่เกิน 32 นิ้วราคาถูกเท่านั้น แต่เชื่อไหมครับไม่เกินสิ้นปีนี้ความละเอียด 2MP จะเริ่มตกกระป๋อง เพราะทีวีความละเอียด 4MP (4096×2160p24) กำลังจะมา ถ้าเราสังเกตดี ๆ ตอนนี้เริ่มมีการอ้างเทียบมาตรฐาน HDMI เวอร์ชั่น 1.4 กันแล้ว โดยเฉพาะในจอภาพ, AVR, และเครื่องเล่น BD รุ่นใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งสาย HDMI ขั้นเทพหลาย ๆ ยี่ห้อเริ่มมีการอ้างถึงมาตรฐาน HDMI 1.4 กันแล้ว ถามว่า HDMI 1.4 ต่างจาก 1.3 อย่างไร ตอบสั้น ๆ เลยครับ 1.3 ไม่สนับสนุนการแสดงผลภาพที่ความละเอียด 4MP แต่ 1.4 ออกมาเพื่อ 4MP และถามว่าทำไมต้องจอภาพ 4MP ดีกว่า 2MP มากแค่ไหน ตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ คือ ถ้าความต้องการเรื่องของแสดงผลภาพ 3D คือสิ่งที่เราต้องการต่อไปในอนาคต เทคโนโลยีจอภาพความละเอียด 4MP ก็ออกมาเพื่อรองรับการแสดงผลภาพ 3D โดยที่ผู้ใช้อาจไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตา 3D เหมือนเช่นในปัจจุบัน ตอนนี้เตรียมใจรับได้เลยครับ
8.ตลาด Tablet จะระอุมากกว่านี้ แหมกระทั่งในดินแดนสยามประเทศของเรา ปีนี้จะได้เห็น Tablet ยี่ห้อต่าง ๆ ที่พาเหรดกันออกมามากยิ่งขึ้นทั้งเริ่มตั้งแต่ Apple ซึ่งประกาศจะปล่อย iPad เวอร์ชั่น 2 ออกมาในกลางปีนี้ HP, Dell, Acer, Samsung , Toshiba , Asus, Lenovo, BlackBerry ต่างก็เตรียมตัวส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองออกสู่ท้องตลาด ที่ผมได้จับตัวเป็น ๆ ก็มี Dell Streak ทั้งแบบโทรศัพท์จอ 5", tablet 7", และกำลังรอดู 10" เห็นว่าไม่เกินเดือนมีนามาแน่นอน, Samsung GalaxyTab, Cisco Zeus , iPad แต่ความรู้สึกของผมไม่รู้จะเอามาทำไม เพราะชีวิตของอยู่กับเครื่องคอมตลอดทั้งวัน ผมคิดว่า Tablet น่าจะเหมาะกับใครที่ใช้งานแค่ "Viewer" มากกว่า เพราะเท่าที่ลองใช้แล้ว ไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไร หรืออาจจะเป็นหน้าที่ Input ที่เป็นงานประจำ ไม่สลับซับซ้อนมาก แต่จำเป็นต้องเคลื่อนที่บ่อย ๆ เช่น การเอามาใช้ในหอผู้ป่วยเป็นต้น
9. ตลาด OS ผมคิดว่าตลาด OS สำหรับ PC ยังไงก็ยังคงเป็นของ MS ยิ่งบ้านเราแล้ว ผมยังไม่เห็น Linux มันจะมีที่ท่ากระเตื้องขึ้นมาเลย เกิด ๆ ดับ ๆ ยังไงไม่รู้ เอาเป็นว่ารอดู Windows 8 แล้วกันนะครับ แต่ตลาด Mobile OS นี้ซิน่าสนใจ มีการพยากรณ์ว่าปีนี้น่าจะเป็นของ Android โดยเฉพาะเมื่อ Android 3 ออกมาเมื่อไร งานนี้ Apple มีเหนื่อยครับ ส่วน Windows Phone ก็ยังจะอยู่ในกลุ่มเดิม แหมการเปลี่ยนเป็น Windows Phone 7 อาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็ยังต้านแรงของ Android3 ไม่ได้ ดังนั้นใครสนใจจะพัฒนา App บนโทรศัพท์มือถือ เตรียม Android ไว้ได้เลยครับ
10.ตลาด CPU จะเติบโตขึ้น แต่ปีนี้ยังเชื่อว่ายังน่าจะเป็นปีของ Intel ในกลุ่มตลาด PC และ Server จะเห็นได้ว่า Core i รุ่นที่ 2 ที่ออกมาจะมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น รวมถึงการที่ทั้งสองค่ายจะผนวกเอา GPU ไปไว้ใน Die เดียวกับ CPU เท่ากับแสดงให้เห็นถึงความพยายามของทั้งสองค่ายที่จะผูกขาดตลาดในอนาคต แต่สิ่งที่น่าสนใจในตลาด Processor นี้ผมกลับไปให้น้ำหนักพวก embedded processor หรือ processor พลังงานต่ำ ซึ่งจากที่ได้เคยกลายไปคราวก่อน ฝั่ง ARM ก็ประกาศชน Intel ด้วยการส่ง processor ซึ่งใช้พลังงานต่ำอย่าง Cortex ลงแข่งขันในตลาด tablet และ netbook ซึ่งทาง MS เองก็สนใจแพลตฟอร์มของ ARM อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน และอีกอย่างหากเรามองอนาคตกันดี ๆ ต้องยอมรับว่าสองปีมานี้ ตลาด tablet และ netbook หรือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเริ่มเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ด้วยข้อดีคือ ต้นทุนถูก, ขนาดเล็กน้ำหนักเบาจึงง่ายต่อการพกพา, ใช้งานง่ายมีฟังค์ชั่นไม่สลับซับซ้อน, สามารถตอบความต้องการของผู้ใช้ได้ง่าย จึงต้องยอมรับครับว่าศึกนี้ต้องรอดูอีกหลายยก
11. WiFi 802.11n 108Mb/s จะกลายเป็นมาตรฐานแทนที่ b/g 54Mb/s ซึ่งจะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์พกพาทั้ง Notebook, Netbook, Tablet, Smartphone ที่ออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เริ่มจะติดตั้ง wireless lan มาตรฐาน 802.11n เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จึงคาดว่าปีนี้ n น่าจะต้องเป็นมาตรฐานของ WiFi
12. Social Network จะยังคงร้อนแรงต่อไป จะมีเว็บไซด์ Social Network ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ เป็นดอกเห็ด ผมยังเคยพูดเล่น ๆ กับใครต่อใครว่าอนาคต Social network อาจจะเข้ามาแทนที่การสื่อสานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ จนเราอาจไม่ต้องส่ง e-mail กันอีกแล้ว
13. Cloud Computing จะแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ในหลาย ๆ เรื่องและหลาย ๆ เทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านซอร์ฟแวร์ อย่างเช่นบริการของ social network ในอนาคตเราจะคุ้นเคยกับ SaaS กันมากยิ่งขึ้น องค์กรขนาดเล็กหรือขนาดกลางอาจไม่จำเป็นต้องทำ Data Center เอง ถ้าเทคโนโลยีเครือข่ายก้าวหน้ามากขึ้นกว่าปัจจุบัน
14. จอภาพแบบ OLED; Organic Light Emitting Diode กำลังจะมา ซึ่งด้วยคุณภาพที่บางเฉียบเหมือนกระดาษ และความสามารถในการแสดงภาพมีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ต่ำ ทำให้เทคโนโลยีจอภาพดังกล่าวเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ Samsung ในฐานะเป็นผู้ผลิตจอภาพแบบ OLED รายใหญ่ของโลกพยายามผลักดันตลาดอย่างเต็มที่จะเห็นได้จากจอภาพ AMOLED (Active - Matrix OLED ) ซึ่งตอนนี้เขาพัฒนามาสู่รุ่นที่สองซึ่งต้องชื่อเครื่องหมายการค้าว่า Super AMOLED ซึ่งอยู่ใน Samsung Galaxy S อีกสักระยะ เราคงจะได้เห็นจอภาพ OLED ออกสู่ตลาด consumer อย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งความจริงในปัจจุบันก็เริ่มออกมาแล้ว แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ยังมีราคาแพง เขาจะเน้นทำในจอภาพขนาดใหญ่ ระดับ 50 - 60 นิ้ว ซึ่งถ้าดู ๆ แล้วอะไรก็ดีไปหมดทุกอย่าง เสียอย่างเดียวก็ไอ้ราคาของมันนี้แหละ ทีวีอะไรดาวน์อัสดิสได้สบาย ๆ
15. มีเดียแบบ 3D ที่จะทยอยออกมามากขึ้น เราพูดถึงจอภาพ, สายสัญญาณกันไปแล้ว ถ้าจะไม่พูดถึงซอร์สมีเดีย ก็คงจะไม่ครบองค์ แน่นอนครับ ปีนี้ภาพยนต์ 3 มิติก็ทยอยออกมาฉาย ทั้งในรูปแบบของภาพยนต์ในโรงหนัง และในรูปของแผ่น BD มากยิ่งขึ้น เรียกว่าหนังดัง ๆ มีกันทุกเรื่อง สำหรับปีนี้โปรแกรมหนังฝรั่งดัง ๆ ทั้งหนังใหม่และหนังภาคต่อ ต่างก็จองคิวฉายในระบบ 3D กันแทบทุกเรื่อง ดังนั้นใครที่ชอบการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ และกำลังคิดจะลงทุนกับชุด HT ที่บ้าน อย่าลืมเผื่อ ๆ มาตรฐาน DBTrueHD, DTSMA , HDMI 1.4 และอุปกรณ์อย่าง Bluray Disc และ LED Monitor ไว้ด้วยนะครับ