เงียบงัน

เงียบงัน 

ระบบนี้คืออะไรครับ มีประโยชน์อย่างไรครับ  มือใหม่ครับ

drive ที่จะวางข้อมูล ที่สำรองครับ  และส่วนตัวแนะนำ  ตัวเลือกบรรทัด  Skip check free space


grant super ให้สมบูรณ์ กับ  sa     sa

ตอนนี้ โปรแกรม   BMSxtradb   ผมเก็บไว้ที่โน๊ตบุ๊ค    C:\BMSxTraBackupGUI\backup เนื้อที่ไดร์ C เหลือ 71 G ครับ 
 
ตัวเลือกบรรทัด  Skip check free space   grant super ให้สมบูรณ์ กับ  sa     sa >>>>  คืออะไรครับ 

ผมจะทำการbackup ข้อมูลโดยใช้  BMSxTrabackup  จะต้องตั้งค่าอะไรอย่างไรบ้างครับ  ลองไปเรื่อยๆมันขึ้นดังภาพครับต้องทำอย่างไรต่อ   ลองอ่านในกระทู้แล้วยังไม่เข้าใจครับ  มือใหม่ครับ  รบกวนชี้แนะด้วย ขอบคุณครับ

แล้วผมไม่ได้แบ่งพาติชั่นเลย จะเป็นไรไหมครับ  พอดีทำไม่เป็นเลยลงทั้งหมดเลย เห็นอ่านจากกระทู้อื่นแล้วอ.ชัยพร แนะนำให้มีการแบ่งพาติชั่นตอนติดตั้ง CentOs ครับ

แรม 16 G ประมาณ 30 เครื่องครับ

ขอบคุณครับ 

รบกวนช่วยดูคำสั่งด้วยครับ ว่าผิดตรงไหน  ทำให้ไม่สามารถหาค่าได้ครับ

select distinct cid as CardID, p.birthdate, body_weight as weight, height, if(sex='1','M', 'F') as Gender,

                        if(sex='1','ชาย', 'หญิง') as GenderName, nutrition_date as UpdDate, nutrition_date as TransactionDate,

                        school_name as SchoolID, '' ClassroomID, 0 RoomNumber

                        from person as p

                        inner join person_epi as pe on p.person_id=pe.person_id

                        inner join person_epi_nutrition as pen on pen.person_epi_id=pe.person_epi_id

                        left outer join village_student as vt on p.person_id=vt.person_id

                        left outer join village_school as vs on vs.village_school_id=vt.village_school_id

                        left join village_school_room as vsm on vs.village_school_id=vsm.village_school_id

                        where p.cid is not null and body_weight <> 0 and height <> 0

                        and pen.nutrition_date>=?1 and pen.nutrition_date<=?2

                        union

                        select distinct cid as CardID, p.birthdate, body_weight as weight, height, if(sex='1','M', 'F') as Gender,

                        if(sex='1','ชาย', 'หญิง') as GenderName, screen_date as UpdDate, screen_date as TransactionDate,

                        school_name as SchoolID,

                        if(village_school_class_name='อนุบาล1','อ.1',if(village_school_class_name='อนุบาล2','อ.2',

                        if(village_school_class_name='อนุบาล3','อ.3',if(village_school_class_name='ประถม1','ป.1',

                        if(village_school_class_name='ประถม2','ป.2',if(village_school_class_name='ประถม3','ป.3',

                        if(village_school_class_name='ประถม4','ป.4',if(village_school_class_name='ประถม5','ป.5',

                        if(village_school_class_name='ประถม6','ป.6',if(village_school_class_name='มัธยม1','ม.1',

                        if(village_school_class_name='มัธยม2','ม.2',if(village_school_class_name='มัธยม3','ม.3',

                        if(village_school_class_name='มัธยม4','ม.4',if(village_school_class_name='มัธยม5','ม.5',

                        'ม.6')))))))))))))) as ClassroomID,

                        if(school_room_no=0,1,if(school_room_no is null,1,Cast(school_room_no as Signed))) as RoomNumber

                        from village_student_screen as vss

                        left outer join village_student as vt on vss.village_student_id=vt.village_student_id

                        left outer join village_school as vs on vs.village_school_id=vt.village_school_id

                        left outer join village_school_class as vsc on vt.village_school_class_id=vsc.village_school_class_id

                        left outer join person as p on p.person_id=vt.person_id

                        left join village_school_room as vsm on vs.village_school_id=vsm.village_school_id

                        left outer join house as h on h.house_id=p.house_id

                        left outer join village as v on h.village_id=v.village_id

                        left outer join thaiaddress as d on v.address_id=d.addressid

                        where p.cid is not null and body_weight <> 0 and height <> 0 and chwpart is not null

                        and screen_date>=?1 and screen_date<=?2

ลองดูวิธีในนี้นะครับ....ผมลอง Set RAID ตามบทที่ 4 ใช้ได้นะ......แต่ของ รพ. เป็น  IBM x3650 m3 ...แต่ก็ไม่น่าต่างกันมากหรอกครับ......(ลองดูอยู่บทที่ 4 นะครับ ต๊อบ....)
http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=438EA78C4D2I[R5HN7A4ISKVARP3CU

ถ้ามี 3 ลูกแนะนำ raid5 วิธีเซ็ต ibm กด ctrl + A ถ้าจำไม่ผิดแล้วตรวจสอบ Aray เดิมที่ถูกตั้งไว้ถ้าไม่ใช่ให้ลบออกแล้วสร้างใหม่ให้เป็น raid5 ครับต้องเซ็ตก่อนติดตั้งระบบปฏิบัติการณ์นะครับ

ขอบคุณครับ

ตกลง ก็ยังไม่ทราบวิธีตั้งค่า raid ครับ

  รอคำตอบครับ

รบกวนอาจารย์ทุกท่าน ช่วย แก้ไข my.cnf สำหรับ server   IBM x3250 m4     ram16 G   ผมลองตั้งค่าแล้วบางส่วนแต่ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องหรือยังครับ
Cent OS 5.6  +  MySQL-percona-5.1.42



[client]
port      = 3306
socket      = /var/lib/mysql/mysql.sock
default-character-set=tis620

[mysqld]
port      = 3306
socket      = /var/lib/mysql/mysql.sock
skip-locking
key_buffer = 512M
sort_buffer_size = 1M
read_buffer_size = 1M
read_rnd_buffer_size = 4M
myisam_sort_buffer_size = 512M
max_allowed_packet = 3072M
table_open_cache = 1600
thread_cache = 8
query_cache_size= 128M
thread_concurrency = 8
default-character-set=tis620
skip-name-resolve
innodb_file_per_table = 1
skip-character-set-client-handshake
init_connect = 'SET NAMES tis620'
max_connections = 300
innodb_data_home_dir = /var/lib/mysql/
innodb_data_file_path = ibdata1:10M:autoextend
innodb_log_group_home_dir = /var/lib/mysql/
innodb_buffer_pool_size = 2048M
innodb_additional_mem_pool_size = 256M
innodb_log_file_size = 256M
innodb_log_buffer_size = 10M
innodb_flush_log_at_trx_commit = 1
innodb_lock_wait_timeout = 50
innodb_thread_concurrency = 0
innodb_flush_method= O_DIRECT
innodb_doublewrite= 0
innodb_support_xa = 0
innodb_open_files = 1600
innodb_locks_unsafe_for_binlog = 1
join_buffer_size = 2M
concurrent_insert = 2
max_heap_table_size = 512M
log_bin_trust_function_creators = 1

[mysqldump]
quick
max_allowed_packet = 1024M
allow-keywords

[mysql]
no-auto-rehash
default-character-set=tis620

[isamchk]
key_buffer = 256M
sort_buffer_size = 256M
read_buffer = 2M
write_buffer = 2M

ผมเริ่มสงสัยว่า  กรณีคนไข้ป่วยเป็นความดัน  แล้วภายหลังมาป่วยเป็นเบาหวานจะต้องคีย์อย่างไรครับ   แล้วรหัสที่ส่งออกมาจะต้องมีทั้ง เบาหวาน และความดันหรือเปล่าครับ

พอดีวันนี้ได้ทดลองคีย์ข้อมูลหลายๆแบบ
1.ใส่ diag ไว้ที่ คลินิกพิเศษ(clinic_persist_icd10) ด้วย A150  ส่วนใน บัญชี 1(person_chronic) ใส่ A190   รหัสที่ส่งออกมาในตาราง chronic เป็น A190    แสดงว่าถ้ามีการ diag เก็บไว้ทั้งสองที่ โปรแกรมจะเลือกที่  บัญชี 1(person_chronic) ใช่ไหมครับ
2.กรณีผู้ป่วยเป็นโรคความดัน โรคเดียว ใส่ I10 ไว้ทั้งคลินิกพิเศษ(clinic_persist_icd10) และ บัญชี 1(person_chronic)   รหัสที่ส่งออกมาในตาราง chronic เป็น I10
3.กรณีผู้ป่วยโรคหลักคือ ความดันโลหิตสูงI10 และภายหลังป่วยเป็นเบาหวาน E119 โรครอง  ผมคีย์ใน  คลินิกพิเศษ(clinic_persist_icd10) ด้วย I10เป็นโรคหลัก และ E119 โรครอง ส่วนใน บัญชี 1(person_chronic) ใส่ I10 และ E119  ไม่พบข้อมูลผู้ป่วยถูกส่งออกไปยังตาราง chronic   
4.กรณีผู้ป่วยโรคหลักคือ ความดันโลหิตสูงI10 และภายหลังป่วยเป็นเบาหวาน E119 โรครอง  ผมไม่คีย์ diagที่คลินิกพิเศษ(clinic_persist_icd10) ส่วนใน บัญชี 1(person_chronic) ใส่ I10 และ E119  จะพบข้อมูลผู้ป่วยถูกส่งออกไปยังตาราง chronic   

    ถ้าตามความเข้าใจของผม แสดงว่าโปรแกรม hosxp จะทำการส่งออกข้อมูลให้โดยจะดูข้อมูลจากบัญชี 1(person_chronic) เป็นหลัก  หากมีการ diag  หากมีการ diag ด้วยรหัสโรคที่ตรงกันทั้งสองตาราง ก็จะไม่มีการส่งออกข้อมูล   
    ถูกผิดยังไงรบกวน ท่านอ.ทั้งหลายช่วยชี้แนะด้วยครับ  เพราะจะต้องไปวางแนวทางการบันทึกข้อมูลให้กับผู้รับผิดชอบงานครับบบ

อิ อิ อิ อย่าเอ็ดไปป๋าเกื้อ เดี๋ยวมีใครไปบอก user ผมให้ไปใส่ข้อมูลผลการวินิจฉัยที่ clinicmember ด้วยล่ะก็จะงานเข้า ให้มันดึงมาจากบัญชี 1 น่ะดีแล้ว อุตส่าห์เคลียร์มาเป็นเดือน ๆ
 

พอดีเจ้าของคลินิกเบาหวาน ความดันของผมเค้าขยัน คีย์เรียบร้อยแล้ว ก็เลยต้องมาตามแก้ 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้โทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องการบันทึกโรคเรื้อรังในส่วนการวินิจฉัยโรคเรื้อรัง จากทาง BMS ได้คำตอบมาว่า  ในช่องวินิจฉัยให้ใส่เฉพาะรหัสโรคเรื้อรังเท่านั้น
ไม่ให้ใส่โรคร่วม   และที่สำคัญ รหัสวินิจฉัยที่จะถูกดึงออกไปยังตาราง Chronic จะต้องถูกบันทึกอยู่ที่แถวแรกเท่านั้น   ก็เลยเกิดข้อสงสัยว่า

กรณี คนไข้ป่วยเป็นความดัน(I10)  ภายหลังมาเป็นเบาหวาน(E119) จะทำยังไง  เพราะไม่ว่าผมจะบันทึกรหัส I10 ก่อนและกำหนดเป็น principal  รหัสก็เรียงตามตัวอักษร จะมีผลให้ E119 อยู่แถวแรก  I10 อยู่แถวสอง  และรหัสที่ถูกส่งออกไปยังตาราง Chronic คือ E119   

จึงได้เสนอทาง  BMS ไปให้ดึงรหัสการวินิจฉัยจากช่องประเภทผลการวินิจฉัย แทน จากเดิมที่ถึงข้อมูลจากแถวแรก ครับ  เพราะนอกจากจะสามารถบันทึกโรคร่วมอื่นๆที่ป่วยเป็นนอกเหนือจากโรคเรื้อรังเพื่อเก็บเป็นข้อมูลไว้    ยังทำให้รหัสที่ส่งออกไปไม่ผิดด้วยครับ    ผิดถูกประการใดช่วยชี้แนะด้วยครับ

ตามรูปที่ผม post   รูปแรก  อาจลืมเลือกว่าเป็นการฝังรหสโรคให้กับ clinic ใดครับ  ตาราง จึงไม่เก็บรหัสคลินิก  แต่ใส่แค่  icd10

ผู้ป่วยยังไม่มีชื่ออยู่ในคลินิกเลยครับ   แต่มีประวัติการมารักษาและถูก diag ด้วยโรคเรื้อรัง ที่ patient emr ครับ จึงอยากทราบว่าโปรแกรมมีการดึงข้อมูลมารอไว้หรือเปล่า กรณีที่มีคนไข้มารักษาแล้วถูก diag โรคเรื้อรัง  เพื่อรอการเพิ่มรายชื่อเข้าคลินิกครับ

รบกวนท่านผู้รู้ด้วยครับ

อ้างจาก: teerapun_top ที่ ธันวาคม 03, 2012, 23:13:30 PM

ใช้ hosxp v. 3.55.9.3  ทำการส่งออกข้อมูลเพื่อส่ง 21 แฟ้ม ได้ตรวจสอบข้อมูลโดยใช้โปรแกรม  OP/PP NHSO V.1.3 พบว่า 
1.แฟ้ม Chronic error  CH9230  รหัสวินิจฉัยไม่เป็นรหัสโรคเรื้อรัง  ได้ทำการตรวจดูพบว่า รหัสเหล่านี้ เป็นรหัสโรคร่วมของผู้ป่วยเบาหวาน และความดัน  สรุปแล้วเราต้องใส่หรือไม่ครับ
จะมีผลต่อการคิดคะแนนหรือป่าว เรื่องความสมบูรณ์ของข้อมูล หรือต้องใส่รหัสเฉพาะ แค่ เบาหวาน และความดัน

2.เมื่อลองเปิดเข้าตาราง clinic_persist_icd ก็พบว่า มี diag แต่ช่อง clinic ว่างเปล่า เกิดจากอะไรครับ

รบกวนด้วยครับ  ข้อมูล error มาหลายเดือนแล้ว ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร

ที่เห็นๆนะครับ มีการลงรหัส E785  ซึ่งที่ผ่านมาและในปี 56 นี้ โรคนี้ ไม่ใช่โรคเรื้อรังตามนิยามครับ ลองตรวจสอบดูจาก ppt นำเสนอของ สปสช. ดูนะครับ

ขอบคุณครับ   ในทางปฏิบัติแล้ว ผู้ป่วยเบาหวาน หรือความดัน  บางรายก็จะเจ็บป่วยด้วยโรคอื่นๆร่วมด้วย   ทั้งนี้เพื่อความสมบูรณ์ของข้อมูลและการนำไปใช้  จึงได้มีการบันทึกทั้งโรคหลักและโรคร่วมที่เป็น เช่น E785 ไขมันในเลือด   แต่ปรากฎว่า ทั้งโรคหลักและโรคร่วมถูกส่งออกไปในแฟ้ม Chronic ด้วย  เมื่อตรวจสอบด้วยโปรแกรม oppp2556 ก็จะพบการ error ของรหัสโรคร่วม  แต่โรคหลักที่ส่งไปสมบูรณ์  ก็เลยสงสัยว่า   อย่างนี้มีผลต่อการคิดเรื่องความสมบูรณ์ของข้อมูลหรือเปล่า (เม็ดเงิน)   เพราะถ้ามีการคิด  ก็คงจะต้องไปลบโรคร่วมออกครับ

ใช้ hosxp v. 3.55.9.3  ทำการส่งออกข้อมูลเพื่อส่ง 21 แฟ้ม ได้ตรวจสอบข้อมูลโดยใช้โปรแกรม  OP/PP NHSO V.1.3 พบว่า 
1.แฟ้ม Chronic error  CH9230  รหัสวินิจฉัยไม่เป็นรหัสโรคเรื้อรัง  ได้ทำการตรวจดูพบว่า รหัสเหล่านี้ เป็นรหัสโรคร่วมของผู้ป่วยเบาหวาน และความดัน  สรุปแล้วเราต้องใส่หรือไม่ครับ
จะมีผลต่อการคิดคะแนนหรือป่าว เรื่องความสมบูรณ์ของข้อมูล หรือต้องใส่รหัสเฉพาะ แค่ เบาหวาน และความดัน

2.เมื่อลองเปิดเข้าตาราง clinic_persist_icd ก็พบว่า มี diag แต่ช่อง clinic ว่างเปล่า เกิดจากอะไรครับ

รบกวนด้วยครับ  ข้อมูล error มาหลายเดือนแล้ว ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร

เรื่องที่หลายคนกังวล ในเวลานี้ คือ point + แฟ้ม..ที่เป็นข้อกำหนด เรื่อง  time ที่บริการ และส่ง...
[/quote]

ใช่เลยครับ  นอกจากจะไม่ได้ตังค์ที่สมควรได้แล้ว ยังจะถูกผู้บริหารตำหนิได้ครับ 

ขอบคุณครับ เดี๋ยวจะลองดู ได้เรื่องอย่างไร จะมาแถลงการณ์ 

ผมใช้ sumsung galaxy tab 7.0 plus ลองติดตั้งโปรแกรมแล้ว copy file hosxp2mobile.db ไว้ที่ root/extstorages/sdcard แล้ว  แต่เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วจะนำเข้าฐาน  โปรแกรมแจ้งว่าไม่พบ hosxp2mobile.db ที่ sdcard ต้องทำอย่างไรครับ

ใช้โปรแกรมแก้ค่า mac address ครับถึงจะได้

อ้างจาก: panus_t ที่ พฤศจิกายน 08, 2012, 16:00:20 PM

แล้วโปรแกรมหรือระบบ มันจะรู้ได้ไงครับว่าเราใช้การรีโมทไปเพื่อธุรกิจ   

นับจำนวนปลายทางที่เรา remote เข้าไป ถ้ามีมากมายหลายแห่ง เขาก็สันนิษฐานว่าเป็น commercial use

ใช่เลยครับ เพราะตอนแรกที่เริ่มใช้ใหม่ ผม remote กระจาย สักพักโดนเลยครับ กว่าจะหาวิธีแก้ได้ เกือบต้องลงวินโดว์ใหม่ครับ