BMS-HOSxP Community
HOSxP => นอกเรื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: กรรมกรไอที ที่ มิถุนายน 30, 2008, 10:21:26 AM
-
เรื่องมาบอกเล่ากันฟังสำหรับใครที่ใช้ Access Point ของ Linksys รุ่น WAP54G พอดีผมไปเจอเสาใหม่ใช้สำหรับ WAP54G ความแรง 9dB เลยติดต่อซื้อแล้วนำมาทดสอบติดตั้ง ปรากฏว่าสัญญาณแรงขึ้นอย่างเห็นได้ใช้ จากเดิมที่ Access Point อยู่ชั้น 4 แต่ชั้นหนึ่งจับสัญญาณไม่ได้ มาคราวนี้สัญญาณลงได้ถึงชั้นหนึ่ง :) งานนี้มีเฮครับ เลยเอาบอกเล่าให้สมาชิกคนไหนที่ใช้อยู่เผื่อสนใจ ....
-
ของผมใช้ WRT54GL แล้ว up firmware เป็นของ DD-WRT จากนั้นปรับความแรงของสัญญาณเพิ่มขึ้น เป็นแรงสุด 254 mW แล้วทำเป็น WDS เท่าที่ใช้งาน Happy ครับ แต่ยังไม่เคยเปลี่ยนเสาเลยครับ ทีแรกว่าจะเปลี่ยนเหมือนกัน แต่พอใช้การ upgrade firmware แล้วใช้งานได้เลยไม่ได้เปลี่ยนครับ
-
...ส่วนตัวนะครับ การเพิ่มความแรงของสัญญาณ AP โดยการเปลี่ยนเสาอากาศกับการเพิ่มกำลังส่งของเครื่อง ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกเปลี่ยนเสาอากาศให้มี Gain ที่สูงขึ้นก่อน(ต้องเสียเงินเพิ่ม) เพราะการเพิ่มกำลังส่งที่ตัวเครื่องยิ่งมากเครื่องก็ยิ่งทำงานหนักขึ้น อายุการใช้งานของอุปกรณ์อาจจะสั้นลงได้ครับ ยิ่งถ้าเพิ่มจนเกิน spec ของอุปกรณ์ก็อาจมีผลมากขึ้น (ไม่แน่ใจว่าการ upgrade firmware ข้ามรุ่นจะมีผลต่อการรับประกันด้วยหรือเปล่านะครับ)...
...มีอีกนิดนึงคือ กฏหมายกำหนดให้กำลังส่ง (output power) ของอุปกรณ์ย่าน 2.400 – 2.500 GHz ต้องไม่เกิน 100 mW (e.i.r.p) หรือเท่ากับ 20dB จากกำลังส่งที่ออกจากเสาอากาศนะครับ ไม่ใช่จากตัวเครื่อง
...โดยคิดง่ายๆ คือ เอากำลังส่งของเครื่องทีคิดเป็น dB แล้ว บวกกับ grain เสาอากาศ ถ้าไม่เกิน 20 dB ก็ OK ครับ เกินกว่านี้คงต้องขออนุญาต กทช. ครับ.... :D...
-
...แถมอีกหน่อย อันนี้เป็นการเทียบ dB กับ Watt แบบคร่าวๆ ครับ.... :D...
0 dBm = 1.0 mW 1 dBm = 1.3 mW
2 dBm = 1.6 mW 3 dBm = 2.0 mW
4 dBm = 2.5 mW 5 dBm = 3.2 mW
6 dBm = 4 mW 7 dBm = 5 mW
8 dBm = 6 mW 9 dBm = 8 mW
10 dBm = 10 mW 11 dBm = 13 mW
12 dBm = 16 mW 13 dBm = 20 mW
14 dBm = 25 mW 15 dBm = 32 mW
16 dBm = 40 mW 17 dBm = 50 mW
18 dBm = 63 mW 19 dBm = 79 mW
20 dBm = 100 mW 21 dBm = 126 mW
22 dBm = 158 mW 23 dBm = 200 mW
24 dBm = 250 mW 25 dBm = 316 mW
26 dBm = 398 mW 27 dBm = 500 mW
28 dBm = 630 mW 29 dBm = 800 mW
30 dBm = 1.0 W 31 dBm = 1.3 W
32 dBm = 1.6 W 33 dBm = 2.0 W
34 dBm = 2.5 W 35 dBm = 3.2 W
36 dBm = 4.0 W 37 dBm = 5.0 W
38 dBm = 6.3 W 39 dBm = 8.0 W
40 dBm = 10 W 41 dBm = 13 W
.........
-
ผมว่า มีบ้างที่ ทำอยู่
แต่ที่ไม่โดนจับ เพราะว่ามีไม่คนร้องเรียนครับ
ต้องระวังนะครับ ส่งแรงมากๆๆ ระหว่างทาง มีปัญหา เขาแจ้ง การสื่อสาร มาตรวจสอบ แล้วเจอ
จะโดนนะครับ
:)
-
ของผมใช้เสาขยายสัญาณ โดนฟ้าลงเรียบร้อยเลยครับ เจ้ง ใช้งานไม่ได้เลยครับ ถ้าเปลี่ยนเสาระวังฟ้าลงด้ายนะครับ
-
ถ้ากำลังส่งที่ออกจากเสาวัดได้เป็น dBm เท่ากัน คนตรวจจะแยกได้อย่างไรว่ากำลังส่งที่เกินขึ้นมานั้น เกิดจาก เปลี่ยนเสา หรือ เพิ่มกำลังส่ง แฮ่ะๆ แค่สงสัยน่ะครับ :D
-
ของผมใช้เสาขยายสัญาณ โดนฟ้าลงเรียบร้อยเลยครับ เจ้ง ใช้งานไม่ได้เลยครับ ถ้าเปลี่ยนเสาระวังฟ้าลงด้ายนะครับ
...ถ้าเป็นสายอากาศที่ติดภายนอกอาคาร ควรติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันฟ้าด้วยครับ จะติดเพิ่มอยู่ระหว่างสายอากาศกับสายนำสัญญาณ แล้วต่อลงกราวด์ด้วย..... :D.....
...แต่ถ้าโดนผ่าตรงๆ อะไรก็ช่วยไม่ไดครับ ...55555.....
-
ถ้ากำลังส่งที่ออกจากเสาวัดได้เป็น dBm เท่ากัน คนตรวจจะแยกได้อย่างไรว่ากำลังส่งที่เกินขึ้นมานั้น เกิดจาก เปลี่ยนเสา หรือ เพิ่มกำลังส่ง แฮ่ะๆ แค่สงสัยน่ะครับ :D
...ถ้า AP รุ่นเดียวกัน อันใหนสายอากาศยาวกว่า แสดงว่าใช้กำลังส่งของ AP น้อยกว่าครับอาจารย์ ...
...คือสายอากาศที่มี gain สูงกว่ามันจะยาวกว่าน่ะครับ ข้างในเสาที่เราเห็นมันจะมีสายอากาศส่วนใหญ่จะป็น แบบ 5/8 แลมด้า อาจจะเป็น 2 ชั้น(ส่วนใหญ่ 6dBi) หรือ 3 ชั้น(ส่วนใหญ่ 9dBi) ยิ่งมาก gain ยิ่งสูงครับ....
...แบบที่นักวิทยุเขาเรียกสายอากาศรอบตัว 5/8 แลมด้า หรือ V2 แบบ 2ชั้น/3ชั้น ประมาณนั้นครับ....
...แต่ถ้าจะดูเรื่องเกินกฏหมายกำหนดหรือเปล่า เคยถามที่ กทช. เขาบอกว่าใช้เครื่องมือวัดจากกำลังส่งที่ออกมาจากสายอากาศครับ ไม่ได้วัดจากตัว AP .... :D...
-
แฮ่ะๆ สงสัยเหมือนเดิมถ้าไม่เห็นเครื่องส่งและเสาล่ะครับ คนตรวจจะทราบได้อย่างไรว่า 20 dBm ที่วัดได้ (สมมติ) มาจากเสาที่มองไม่เห็น หรือมาจาก Booster (ที่ปรับให้ส่งได้เป็น 20 dBm)
-
แฮ่ะๆ สงสัยเหมือนเดิมถ้าไม่เห็นเครื่องส่งและเสาล่ะครับ คนตรวจจะทราบได้อย่างไรว่า 20 dBm ที่วัดได้ (สมมติ) มาจากเสาที่มองไม่เห็น หรือมาจาก Booster (ที่ปรับให้ส่งได้เป็น 20 dBm)
...ถ้าไม่เห็นก็คงไม่ทราบหรอกครับว่ากำลังส่งที่ตรวจพบนั้นมาจากใหนบ้าง(แต่ถ้าแหล่งที่มาของคลื่นจะมีเครื่องมือตรวจได้ครับ) ....
...Booster บ้านเราคงใช้ยากนะครับ(ถ้าจะให้ถูกกฏหมาย) เพราะส่วนใหญ่ตัว AP เองกำลังส่งก็เกือบเต็มพิกัดแล้วครับ(เหลือไว้ให้สาบอากาศนิดหน่อย) ถ้าเอา Booster มาต่อเพื่อเพิ่มกำลังส่งอีกนิดเดียวคงไม่คุ้มกับราคาของ Booster ... :D....
-
...ส่วนตัวนะครับ การเพิ่มความแรงของสัญญาณ AP โดยการเปลี่ยนเสาอากาศกับการเพิ่มกำลังส่งของเครื่อง ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกเปลี่ยนเสาอากาศให้มี Gain ที่สูงขึ้นก่อน(ต้องเสียเงินเพิ่ม) เพราะการเพิ่มกำลังส่งที่ตัวเครื่องยิ่งมากเครื่องก็ยิ่งทำงานหนักขึ้น อายุการใช้งานของอุปกรณ์อาจจะสั้นลงได้ครับ ยิ่งถ้าเพิ่มจนเกิน spec ของอุปกรณ์ก็อาจมีผลมากขึ้น (ไม่แน่ใจว่าการ upgrade firmware ข้ามรุ่นจะมีผลต่อการรับประกันด้วยหรือเปล่านะครับ)...
...มีอีกนิดนึงคือ กฏหมายกำหนดให้กำลังส่ง (output power) ของอุปกรณ์ย่าน 2.400 – 2.500 GHz ต้องไม่เกิน 100 mW (e.i.r.p) หรือเท่ากับ 20dB จากกำลังส่งที่ออกจากเสาอากาศนะครับ ไม่ใช่จากตัวเครื่อง
...โดยคิดง่ายๆ คือ เอากำลังส่งของเครื่องทีคิดเป็น dB แล้ว บวกกับ grain เสาอากาศ ถ้าไม่เกิน 20 dB ก็ OK ครับ เกินกว่านี้คงต้องขออนุญาต กทช. ครับ.... :D...
ต้องเสียเงินเพิ่มนี่แหละครับ เลยลอง upgrade firmware ก่อน แน่นอนครับว่า "ประกันหมดไปเลย" แต่เท่าที่ใช้มานี่ก็ประมาณ 1 ปีแล้ว ยังไม่มีใครมาร้องเรียน ;D และไม่มีปัญหากับตัวเครื่องใด ๆ ก็คงต้องตัดสินใจกันเองครับว่าจะเปลี่ยนเสา หรือ upgrade firmware ครับ