แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - decha

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 9
101
นอกเรื่อง / Re: ประกาศ...รับสมัครสมาชิก HOSxP on FB
« เมื่อ: มิถุนายน 13, 2011, 22:29:39 PM »
แจ้งสมาชิกทุกท่าน ปีนี้....เสื้อที่ท่านบ่อดิน(เป็นต้นคิด)จัดทำ อยากให้เป็นสีเดียวกันครับ เพื่อความเป็นเอกภาพของชุมชน เราจะเลือกจากสีที่ได้รับการ Vote มากที่สุดครับ
หากท่านใดอยากได้สีอื่น (ที่ได้รับการ Vote น้อยกว่า) ขอเป็นปีหน้าดีไหมครับ
:)


1. เลือกขนาดเสื้อ กดที่ http://www.facebook.com/home.php?sk=group_185602894792724&id=223325741020439
กด 7 More เพื่อดูขนาดอื่น ๆ ครับ

2. เลือกสีเสื้อ กดที่ http://www.facebook.com/home.php?sk=group_185602894792724&id=223463934339953

3. เลือกสีปกเสื้อ กดที่ http://www.facebook.com/home.php?sk=group_185602894792724&id=224256687594011

ปล. ดูแบบและสีเสื้อ กดที่ http://www.facebook.com/photo.php?fbid=1761895847297&set=o.185602894792724&type=1&theater

ขนาดเสื้อ ดูได้ที่ http://www.polomaker.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=10&Id=539167650

รูปเสื้อตัวอย่าง http://hphotos-snc6.fbcdn.net/244229_1944924234445_1582699786_31863786_32457_o.jpg


ถูกใจหมดครับ ไม่ขอโหวตขอสั่งด้วย 1 ตัวครับพี่โก้ เบอร์ L

102
Linux / Re: Ubuntu 10.4
« เมื่อ: มิถุนายน 10, 2011, 20:24:56 PM »
รออย่างใจจดจ่อ... ;D ;D

103
อืม..เข้าไปดูมาแล้วเหมือนกัน น่าสนใจครับ..  :)

104
Report Exchange / Re: แจก report ครับ
« เมื่อ: มิถุนายน 10, 2011, 20:12:09 PM »
แจ่มเลย...ขอบคุณครับ  ;D ;D

105
นอกเรื่อง / Re: อบรม Universal Form Design รุ่น 2
« เมื่อ: มิถุนายน 10, 2011, 19:17:33 PM »
ทำไง จะได้ไปน้อ (ทำผ้าป่าดีไหม) :D :D

ผ้าป่ายังดีครับ ยังพอมีหวัง..แต่ถ้าถึงขั้นทอดผ้าบังสกุลละแย่เลย ;D ;D

106
Development / ตารางที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน
« เมื่อ: มิถุนายน 10, 2011, 13:45:49 PM »
ตารางที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน
1. vaccine_combination
2. person_vaccine
3. wbc_vaccine
4. baby_items
5. epi_vaccine
6. student_vaccine
7. women_vaccine
8. anc_service
9. provis_vcctype (สำหรับส่งออก ขอบคุณ คนเหล็กครับ)

อ่านรายละเอียดการตั้งค่าวัคซีนได้ตามลิงค์นี้ครับ

http://loeihosxp.blogspot.com/2011/06/hosxp-1.html

107
วิชาการและทางปฏิบัติยังไปร่วมทางกันได้ครับ...แต่ก็มีแปรเปลี่ยน อันเนื่องมาจากการปฏิบัติจริงเช่นเดียวกัน...แม้ว่าทางมาตรฐานการดูแลหญิงตั้งครรภ์ ของ WHO จะเน้นไปที่มาตรฐานการได้รับวัคซินป้องกันบาดทะยักและคอตีบ เพื่อหวังผลไปยังทารกแรกเกิดด้วย...แต่ก็มีหลายครา ที่การเบิกจ่ายวัคซินมิได้เป็นไปตามมาตรฐาน เพราะเป็นการจัดซื้อโดยส่วนกลาง ที่มีการหักงบประมาณสุขภาพไว้ที่ส่วนกลาง...โดยหน่วยบริการเบิกจ่ายจาก จังหวัด ดังนั้นในช่วงที่ วัคซิน dT ขาดช่วง..ก็มีความจำเป็นขึ้นต้นในการให้บริการฝากครรภ์ของหลายระดับ หน่วยบริการ  รพ.และ รพ.สต. จำเป็นต้องฉีดวัคซิน..TT ไปก่อนครับ..เพื่อป้องกัน อ.ต.ร ที่อาจเกิดขึ้นได้...ดังนั้น ความเห็นผม  คือ ต้องยังคงมีอยู่ทั้ง 2 รายการครับ..คือทั้ง TT และ dTANC อยู่ที่ ผู้รับบริการรายใด ได้รับการฉีดวัคซินเดี่ยวหรือวัคซินรวม  ก็บันทึกบริการให้ถูกต้องตามจริงละกัน  ก็จะได้ทั้ง รหัสที่กำหนดโดย สนย. อยู่ดี..(ถ้า Map รหัสถูกต้อง) ไม่ต้องกังวลเรื่องการแสดงผลทาง Grid หรือหน้าจอมากนัก...ส่วนสำคัญของระบบ แท้จริง คือสารสนเทศด้าน Health Profile ของคนไทยที่ต้องแสดงประวัติสุขภาพที่ตรงความจริงกับที่ได้รับบริการครับ...และยังคงต้องเป็นเช่นนี้ต่อไป...อย่าไปจบปัญหาเลยครับ..เพราะทุกปัญหามีทางแก้และมีทางออกตามสถานการณ์ครับ... :D :D :D :D

ควรเป็นเยี่ยงนั้น เพราะวัคซีนหลายๆรายการที่มีลักษณะคล้ายๆกัน จำเป็นที่ควรคงไว้และเพิ่มตัวใหม่แทน ฉีดตัวไหนก็ควรลงตามจริง

108
;D ;D ;D ขอคำอธิบายข้อแตกต่างระหว่าง TT1 กับ dTANC1 หน่อยครับ ว่าจะโพสต์มาสองวันแล้วหลังจากตรวจสอบตารางวัคซีนในระบบมา ;D ;D ;D

ถ้าจำไม่ผิดนะครับ วัคซีน TT เป็นวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันบาดทะยักในในบาดแผล และหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งแต่ก่อนก็ใช้ TT ตัวเดียวนี่แหละครับ แต่ดูเหมือนว่าจะมีข้อมูลสนับสนุนทางวิชาการว่าควรกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโรคคอตีบซึ่งลดต่ำลงในผู้ใหญ่ที่ไม่มีการติดเชื้อทางธรรมชาติจึงให้ฉีด dT(ซึ่งจะทำให้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ซึ่งไม่มีแล้วมั้ง)มาตั้งแต่ปี 2548 เพื่อที่จะได้มีภูมิคุ้มกันทั้งคอตีบและบาดทะยักไว้เลย ทางสำนักงานควบคุมโรคติดต่อจึงสนับสนุนวัคซีนในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์และเด็กนักเรียน คือ วัคซีน dT แต่ในกลุ่มอื่นเช่น กรณีมีบาดแผลมาที่ห้องฉุกเฉินต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก วัคซีนตัวนี้ไม่มีสนับสนุนโรงพยาบาลจะต้องจัดซื้อเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็อาจจะจัดซื้อเป็น TT อย่างเดียว

พอจะสรุปตามความเข้าใจของผมได้ดังนี้ครับ
dT สำหรับนักเีรียน กับ หญิงตั้งครรภ์ คือวัีคซีนตัวเดียวกัน ต่างกันเพียงแค่รหัสที่ใช้เรียกและรหัสส่งออกครับ
TT เป็นวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ที่ยังใช้กันทั่วไปๆ

ุถ้่าสมมุตว่าบังเอิญ dT หมด และมีหญิงตั้งครรภ์มาใช้บริการ โรงพยาบาลก็สามารถนำ TT มาฉีดแทนได้ครับ..

เดือน มิถุนายน ของผมขึ้นนะครับ..............แล้วทำยังไงถึงจะ recal ทีเดียวได้เหมือนบัญชี 3 ครับ...............

ซึ่งในทางปฏิบัติข้อมูลวันที่ฉีดไม่น่าจะขึ้นพร้อมกันทั้ง TT และ dT เพราะเป็นวัีคซีนคนละตัวและคนละ Lot ครับ แต่ถ้าจะตีความหมายว่าได้รับ dT ก็คือ ได้รับ TT ด้วย แบบวัึคซีนรวมแล้วไปกำหนดที่ตาราง Vaccine_combination ด้วย ก็จะแสดงผลทั้งสองที่ซึ่งก็น่าสนใจครับว่าควรจะกำหนดดีหรือไม่.. เพราะสร้างความสับสนพอสมควรเช่นเดียวกับ DTPHB กับ DTP และ HB  หรือ Mesale และ Mesale/MMR

อืม น่าคิด น่าคิดจริงๆ

109
สำหรับเรื่องวัคซีน มีเรื่องที่ผมต้องกลับมาทบทวนใหม่อยู่สองสามอย่าง เลยไปนั่งจับเข่าคุยกับเจ้าหน้าทีรับผิดชอบและดูวัคซีนที่ใช้กันจริงๆ ของ PCU มีประเด็นที่จะขอความเห็นจากอาจารย์ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ อย่างนี้ครับ

วัคซีนที่มีปัญหาเรื่องการแสดงผลคือ DTPHB และ Measle/MMR ซึ่งที่มาที่ไปของปัญหามันเริ่มอย่างนี้ครับ

::DTPHB::
ช่วงแรกวัคซีนที่ใช้ในกลุ่มนี้ คือ ต้องฉีด DTP และ HB ซึ่งการลงข้อมูลวัคซีนแต่ก่อนก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะลงข้อมูลตรงไปตรงมา ฉีดตัวไหนก็ลงตัวนั้น จนกระทั่งมีวัคซีนรวม DTPHB เพื่อลดจำนวนครั้งของการฉีดให้เด็กเจ็บตัวน้อยลง จึงมีการกำหนดวัคซีนรวมคือ DTPHB ในรหัสวัคซีนใหม่ คือ 091,092,093 และมีการเพิ่มข้อมูลในตารางวัคซีนที่เกี่ยวข้องของ HOSxP แต่ปัญหาในช่วงนั้นถ้าลงวัคซีน DTPHB แล้ว ปรากฏว่าข้อมูลความครอบคลุมของวัคซีนไม่ได้ ทำให้ต้องมีการมากำหนดค่าในตาราง vaccine_combination เพื่อทำการเชื่อมรหัสต่างๆ เมื่อฉีด DTPHB แล้วให้ไปแสดงในช่อง DTP และ HB ซึ่งแต่ก่อนช่องแสดงผลวัคซีน DTPHB ยังไม่มี

HOSxP ในเวอร์ชั่นหลังๆมามีการพัฒนาช่องแสดงข้อมูล DTPHB แล้วแต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีข้อมูลวันที่ฉีดวัคซีน DTPHB ไปแสดงในช่อง DTP และ HB ด้วย ตามเงื่อนของที่กำหนดในตาราง Vaccine_combintion เพื่อให้สามารถคำนวนความครอบคลุมของวัคซีนได้ถูกต้อง...

แต่ถ้าดูจากกำหนดค่าต่างๆในตารางวัคซีนของ HOSxP ในปัจจุบันเป็นไปได้ว่าคงไม่ต้องกำหนดข้อมูล DTPHB ในตาราง Vaccine_combintion อีกแล้ว...หรือเปล่า อันนี้เป็นประเด็นที่หนึ่ง

::Measles,MMR และ Measle/MMR::
แต่เดิมวัคซีนฉีดป้องกันโรคหัดสำหรับเด็กต่ำกว่า 1 ปี คือ Measle (รหัส 061) และมีการพัฒนาวัคซีนรวมที่ฉีดป้องกันโรค หัด คางทูม หัดเยอรมันในเด็ก ป.1 นั่นคือ MMR (รหัส 072) ซึ่งมีใช้มาแล้วระยะหนึ่งในเด็กนักเรียน

ประมาณปี 2553 มีวัคซีนรวมหัด คางทูม หัดเยอรมัน(MMR) สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี มาฉีดแทน Measle แต่เป็นวัคซีน  MMR คนละตัวที่ฉีดให้เด็กนักเรียน ป.1(วัคซีนป้องกันคางทูม คนละสายพันธุ์) และเหมือนว่าจะมีรหัสวัคซีน MMRs เข้ามาเป็นตัวแปรสร้างความสับสน(ของผมเอง) จึงทำให้มีการเพิ่มรหัสวัคซีน MMR (072) สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และ MMRs สำหรับนักเรียน ป. 1

จนกระทั่งเข้าใจว่าความสัปสนตรงนี้ทำให้จึงมีการกำหนดรหัสใหม่ให้ชัดเจนมากขึ้น ตามความเข้าใจของผมเป็นดังนี้ครับ (อ้างอิง http://www.thcc.or.th/download/vaccine.pdf)

- Measle---->Measle/MMR (รหัส 061) ซึ่งก็คือตัวเดียวกันเพียงแต่เป็นวัคซีนหัดที่มีคุณสมบัติเป็นวัคซีนรวมเพิ่มขึ้น ดังนั้นเด็กที่เคยฉีด Measle มาก่อนหน้านี้ และเด็กรุ่นใหม่ที่ฉีดวัคซีนรวม จึงให้ใช้รหัสชุดเดียวกันคือ Measle/MMR (061) (แต่เรียกกันว่า MMR  ดังนั้นถ้าจะแยกระหว่างตัวเก่าตัวใหม่จริงๆ ก็น่าจะทำรหัสวัคซีนสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เป็น Measles และ Measle/MMR เพื่อแยกระหว่างเด็กที่เคยฉีดแค่ Measle กับ Measle/MMR ...)

- ส่วน MMR(072) เพื่อให้เข้าใจที่ถูกต้อง ก็คือ เป็นวัคซีนสำหรับเด็ก ป.1 เท่านั้น..ไม่มี MMRs

ฟังเจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมอธิบายจบ..ผมรีบคุกเข่าคารวะ..ขอบคุณครับอาจารย์

แล้วเทพทุกท่านมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ...

110
ลองทำแล้วมันผลมันออกมาได้แบบนี้แหละครับ



111
จขกท..อยากขึ้นระบบเอง แบบไม่มีค่าใช้จ่าย...แต่คงไม่กล้าปรีกษา BMS น่ะครับ....เพราะจะยากส่วนโอนข้อมูลจาก MITNET

ถึงจะขึ้นระบบเอง ค่าใช้จ่ายยังไงก็ต้องมีครับ..
1. ส่งคนไปอบรมกับ BMS ก่อน เพราะถ้าอบรมแล้วจะตอบคำถามที่ถามมาได้ครับ
2. ศึกษา HOSxP จากหน้าเวปที่มี
    - คำถามที่ถามบ่อยๆ
    - คู่มือการใช้งาน
    - สัญญาอนุญาตการใช้งาน
3. ถ้าจะขึ้นระบบเอง ต้องเริ่มเรียนรู้ด้วยตัวเองก่อนครับ
   
ปล.แนะนำตัวด้วยก็ดีครับ

112
ผมมีแค่นี้ครับ..

แค่นี้จริงๆเหรอ.. ;D ;D ;D ;D

113
นอกเรื่อง / Re: ของฟรี..มีดีกว่าที่คิด
« เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2011, 14:43:34 PM »
แปะแล้วเป็นแบบนี้ครับ

ให้คลิกที่แผนภูมิที่ต้องการเผยแพร่ ด้วยนะครับ ตามรูป แล้วต้องกำหนดด้วยว่าในการแบ่งปันว่า เผยแพร่แบบสาธารณะครับ ทุกคนสามารถเข้าดูได้โดยไม่ต้องล๊อกอิน

ปล.ทำแค่กราฟเพียงอันเดียวใน sheet ครับ ไม่ต้องทำทุกอัน

114
นอกเรื่อง / Re: ของฟรี..มีดีกว่าที่คิด
« เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2011, 12:59:44 PM »
เอาโค๊ดส่วนไหนของเอกสารใน google มาใช้ครับ :) :)

1.เข้าไปที่เอกสารของ gmail นะครับ แล้วคลิกเลือกเอกสารที่ต้องการ ตัวอย่างผมใช้ สเปรดชีตใน gmail ซึ่งจะคล้าย excel ที่เราใช้งานอยู่ บันทึกข้อมูลแล้วทำ sheet อีกอันสำหรับทำกราฟ โดยอิงข้อมูลจาก sheet แรก
2.หลังจากนั้น คลิกเผยแพร่ข้อมูลทางเวป แล้วก็เลือกให้เผยแพร่ทาง html ครับ

115
นอกเรื่อง / ของฟรี..มีดีกว่าที่คิด
« เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2011, 10:31:31 AM »
ช่วงที่ผ่านมา รพ. ผมเตรียมการ Reac HA ครับ ในส่วนของงานสารสนเทศก็ต้องรับบทในการนำเสนอสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อทีมต่างๆ ช่องทางหนึ่งที่ใช้นำเสนอคือ ผ่านเวปไซด์ของโรงพยาบาล ในระบบคุณภาพปฏิเสธไม่ได้มีเรื่องของเอกสารเข้ามาเกียวข้องค่อนข้างเยอะ และในโรงพยาบาลปัจจุบันก็จะมีเอกสารที่เป็นขยะอิเลคทรอนิคเกิดขึ้นมากมาย  มีไฟล์ซ้ำๆ เก็บไว้หลายเครื่อง  ผมเลยลองหาวิธีง่ายๆจากของฟรีที่มีอยู่ ที่จะช่วยในเืรื่องเอกสารและการนำเสนอได้ไปพร้อมๆกัน โดยที่ไม่ต้องใช้ความรู้ในเชิงการเขียนโปรแกรมอะไรมาก (เพราะไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว..55) ทำไปทำมาก็พบว่า เอกสารใน google ก็ทำได้ไม่เลวเหมือนกันครับ ที่สำคัญใช้แชร์เอกสารเพื่อลดการ copy files ซ้ำไปซ้ำมา หรือส่งแนบไฟล์ไปทางอีเมล์  เท่าที่ลองนำและนำเสนอผ่านเวปก็ใช้ได้ดีครับ..เอามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เผื่อท่านใดสนใจอยากลองทำดู  ตัวอย่างคลิกตามลิงค์นี้ครับ

กราฟแสดงผลงานต่างๆ
http://www.dansaihospital.com/index.php?mo=10&art=617326


cockpit
http://www.dansaihospital.com/index.php?mo=10&art=161840

116
รพ ที่ไม่ได้ขึ้นกับ bms ก็ไม่ได้มีผลอะไรครับ ก็ยังคงเหมือนเดิมครับ ตามเจตนารมอาจารย์ชัยพร
ถ้าไม่ได้ทำโดยหวังผลทางธุรกิจ ก็ไม่มีผลตามที่อาจารย์ได้เคยบอกไว้ในกระทู้ก่อนหน้า และสามารถขึ้นระบบ
กันเองได้เหมือนเดิมครับ
แต่ทำขึ้นเพื่อป้องกัน การแอบอ้างว่ามาจากบริษัท ในกรณีที่ ลูกค้าที่ต้องการขึ้นระบบกับ BMS จริงๆ
ให้ถูกต้องตามเจตนารมโรงพยาบาล
เพราะที่ผ่านมา ออกไปไซต์ก็จะเจอ อ้างค่อนข้างเยอะ ครับ เป็นหนังสือก็มี เป็นหัวหน้าทีมจากบริษัทที่ผมไม่รู้จักก็มีครับ และอีกหลายอย่างครับ และ รพ เองก็แจ้งมาให้เราทราบ บางทีก็เดือดร้อนแทนบริษัทด้วยครับ
 

และอีกอย่างคือบริษัทกำลังจัดทำฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อการบริการครับ


เป็นแนวทางที่ดีอย่างหนึ่งครับ..
ผมอยากทราบนิดนึงว่า เวลาบริษัทรับขึ้นระบบให้โรงพยาบาลต้องมีสัญญาจ้างและติดตั้งการใช้ โดยว่าจ้าง บ.BMS หรือเปล่าครับ ซึ่งน่าจะเป็นการสอบราคาถ้าวงเงินไม่เกินแสน หรืออาจจะแบ่งเป็นค่าติดตั้งระบบ หรือฝึกอบรม ฯลฯ ซึ่งเวลาจ่ายเงิน ออกใบเสร็จ รพ.ที่ไม่ได้ขึ้นกับ BMS โดยไปขึ้นกับบุคคล หรือบริษัทแอบอ้าง แล้วเวลาจ่ายเงินให้ใคร อย่างไรครับ ซึ่งจริงๆตัวหลักฐานการจ่าย ใบเสร็จรับเงิน สัญญาจ้างก็เป็นหลักฐานทางราชการอย่างตรงไปตรงมาว่าขึ้นกับบริษัท BMS อยู่แล้ว ..


117
เท่าที่ผมส่งมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ตอบให้ตรงตามคำถามอย่างนี้นะครับ
ข้อ1กรณีบังคับส่งไปแล้ว ยังให้บริการปกติจนครบถึงจะจำหน่ายครับ
ข้อ2กรณีส่งไปแล้ว ในเดือนถัดไป ตรวจสอบง่ายๆโดยใช้วิธีการกรองข้อมูลจากบัญชี  เช่น เลือกสถานะคนที่คลอดแล้ว สถานะการส่งออกหรือวันที่ส่งออกๆมีค่าว่าง เป็นต้นครับ
ข้อ3 บังคับส่งออกไปแล้วยังบริการไม่ครบก็ให้บริการต่อไปครับไม่ต้องเอาตัวบังคับออก

118
นอกเรื่อง / Re: Thailand ICT Excellence Awards 2010
« เมื่อ: มีนาคม 23, 2011, 17:13:07 PM »
ปีนี้น่าจะหาโรงพยาบาลที่ใช้ HOSxP work ๆ ส่งประกวดในหมวด Thai Software Adoption Projects
ผมว่าน่าจะส่ง รพร.ด่านซ้าย ดีไหมครับ :)

ทึม สุพรรณบุรีผมว่าสุดยอดแล้วน๊า..พี่โก้

119
นอกเรื่อง / Re: 1001 Movies You Must See Before You Die
« เมื่อ: มีนาคม 21, 2011, 05:28:41 AM »
ยังดูไม่ถึงครึ่งเลยครับ.. ;D ;D

 Good morning , Vietnam : เรื่องนี้มีนักแสดงคนไทยร่วมแสดงด้วยคนหนึ่ง ใครทายได้บ้างครับ
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคุณจินตหรา สุขพัฒน์ นะครับ โรบิล วิลเลี่ยม แสดงนำ

120
ลองเอาไปดูและช่วยกันตรวจสอบเนื้อหาด้วยนะครับ
 ;D
http://file1.uploadfile.biz/i/IZEXMEIIMXXVED

121
เห็นด้วยกับการลงทะเบียนครับ

แต่จะป้องกันกลุ่มใต้ดินได้ยังไงครับ

 ;)

นึกสงสัยอยู่เหมือนกันครับว่าจะป้องกันกลุ่มใต้ดินอย่างไร เพราะการลงทะเบียนก็สามารถลงได้ทั้ง รพ.ที่ขึ้นระบบกับ BMS และ ขึ้นระบบเอง หรือ มี admin รพ.อื่นไปช่วยขึ้นระบบให้ ซึ่งก็รวมถึงพวกที่เป็นกลุ่มใต้ดินด้วย เวลาลงทะเบียน กลุ่มใต้ดินคงไม่มาลงทะเบียนให้อยู่แล้วมั้งครับ เขาก็คงให้ admin ของ รพ.นั้นเป็นคนลงทะเบียน ซึ่งก็สามารถแจ้งว่าขึ้นระบบเอง แต่วิธีในการขึ้นก็อาจจะจ้างจากกลุ่มบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ BMS

ผมเข้าใจว่าข้อมูลการลงทะเบียนผมว่าคงช่วยในการที่จะทำให้มองเห็นภาพโดยรวมของปััจจุบันว่ามี รพ.ที่ใช้ HOSxP มากน้อยแค่ไหน และมีวิธีการขึ้นระบบกันอย่างไรบ้าง แล้วจะป้องกันกลุ่มใต้ดินอย่างไร? อาจารย์คงคิดไว้แล้วมั้งครับ

122
จริงๆในเรื่องกลุ่มใต้ดินเอง ก็ยังไม่รู้ชัดๆนะครับว่าเป็นอย่างไร..คงต้องหามาตรการในการจัดการกันต่อไป
แต่สิ่งที่ผมอยากชวนคุยอีกคือ เรื่องค่าวิทยากร ตามที่หลายๆท่านได้กล่าวมา ผมว่าเราเคยชินกับระเบียบราชการทำให้เราคิดว่ามันจะดูแปลกๆ หากไม่รับค่าวิทยากร ซึ่งถ้ามองในภาพรวมๆแล้ว มันมีหลายมุมครับ เสน่ห์ของ HOSxP และความ popular เกิดจากการที่ HOSxP เข้าถึงง่ายและเป็นชุมชนที่อบอุ่น แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ง่ายเหมือนที่หมอแชมป์ว่า ซึ่งเดิมทีการไปช่วยเหลือกันอาจจะเป็นไปแบบเรียบง่าย เป็นลักษณะพี่ช่วยน้อง เพื่อนช่วยเพื่อน มีค่าตอบแทนกันเล็กๆน้อย แต่ปัจจุบันความต้องการใช้งานมีมากขึ้น หลายแห่งมีปัญหาในการใช้งาน ก็พยายามแก้ไขปัญหาโดยการเชิญวิทยากรมาสอนเป็นทางการ บางจังหวัดทำโครงการอบรมทั้งจังหวัด ลงทุนหลายแสนบาท โดยเฉพาะค่าตอบแทนวิทยากรก็ไม่น้อยที่เดียว ในข้อดีของมันก็คือทำให้การใช้งาน HOSxP คนใช้งานได้ดีขึ้นเพราะมีวิทยากรเก่งๆไปช่วยอบรมและแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องรอ BMS อย่างเดียว และอีกอย่างเป็นคนในวงการสาธารณสุขด้วย ซึ่งมีประสบการณ์จากหน้างานจริงทำให้ค่อนข้างจะแก้ไขปัญหาได้ตรงประเด็น ซึ่งค่อนข้างจะคุ้มกว่าด้วยซ้ำ เช่นอบรม admin สำหรับติดตั้ง HOSxP ถ้าเรียนกับ BMS ลงทะเบียนคนละ 5,900 บาทแต่เชิญวิทยากรมาสอนถึงที่ จำนวนคนอบรมได้ทั้งจังหวัดถูกกว่ากันเยอะ
 

ผมว่าเราปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า ค่าวิทยากรก็เป็นแรงจูงใจ โดยนัยของมันก็คือ เราแทบไม่ได้ลงทุนอะไรเลย แต่การนำสิ่งที่ อาจารย์ชัยพรพัฒนา HOSxP มาให้ใช้ ไปสอนคนอื่นต่อโดยรับค่าตอบแทนจะมากจะน้อย ในนามของการช่วยเหลือกัน..  มองอีกทีดีๆ มันก็ไม่ถึงกับเป็นสีดำเหมือนกลุ่มใต้ดินชัดเจนในเรื่องการเอาผลงานไปทำการค้า  แต่มันก็ไม่ขาวสะอาด มันเป็นสีเทาๆครับ...

แต่ถ้าไม่มีค่าตอบแทนวิทยากร การออกไปช่วยเหลือกันคงน้อยกว่านี้ และการใช้งาน HOSxP อาจจะไม่เติบโตมากเหมือนทุกวันนี้ก็ได้  ไม่รู้สินะครับโดยส่วนตัวผมมองว่าเรื่องนี้มันละเอียดอ่อนเพราะเรารับรู้กันมาตลอดว่าหากเชิญคนมาช่วยเหลือ ก็ต้องตอบแทนบุญคุณกันไปส่วนจะมากจะน้อยก็แล้วแต่

ดูจะแปลกๆและเป็นอุดมคติเกินไปมั้งครับสำหรับการที่บอกว่าไม่ควรรับค่าวิทยากร แต่ผมก็อยากเล่าให้ฟังว่าที่ รพ.ผมเองมีคนมาช่วยแบบนี้เยอะจริงๆ โดยเฉพาะในทางการแพทย์ เช่น มีอาจารย์แพทย์จาก มช.มาตรวจและมาสอน จนท.ที่ รพ. ปีละ 1 ครั้ง โดยค่าวิทยากรมอบให้โรงพยาบาลทั้งหมด ,มีหมอตามาผ่าตัดต้อกระจกให้ทุกๆ สามเดือน ก็มีค่าใช้จ่ายน้อยมาก, มีครูมาสอนศิลปะ ,สอนว่ายน้ำให้กับเด็กๆที่นี่ก็รับค่าเดินทาง หรือใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ฯลฯ แน่นอนครับว่าถ้าทำได้แบบนี้ก็จะมีข้อจำกัดว่าทำบ่อยๆไม่ได้ และหาคนแบบนี้อาจจะน้อยเต็มที..แต่ไม่ถึงกับไม่มีซะเลยทีเดียว

สำหรับผมเองที่ผ่านมามีทั้งไม่รับ และรับค่าวิทยากร แต่ลึกๆทุกครั้งที่รับก็รู้สึกกระดากใจเหมือนกันครับ.. หลายครั้งที่บอกกับทีมผู้จัดว่าขอแค่ค่าน้ำมันรถก็พอแล้ว..

มันคงจะต้องหาจุดสมดุลย์เหมือนที่หลายๆท่านว่า และก็อยากให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของอาจารย์ชัยพรที่ทุ่มเทพัฒนา HOSxP เป็นฟรีแวร์เพื่อผู้อื่นได้ใช้กันฟรีๆ ถ้า HOSxP อาจจะโตช้าลงไปบ้างแต่ยังคงอยู่บนหลักการที่มั่นคง ถ้าใครจะอาสาช่วยผู้อื่นก็ช่วยเท่าที่มีเวลา ช่วยกันในเครือข่ายใกล้ๆ เช่น ภายในจังหวัดตัวเองหรือจังหวัดใกล้เคียง ต่างคนต่างทำหน้าที่ตรงนี้ ผมเองก็คิดว่าถ้าจะรับเป็นวิทยากรต่อไปจะถามตัวเองใจตัวเองดูว่าที่จะไปนี่เพราะอยากไปช่วย หรือว่าลึกๆแล้วใจมันอยากไปเพราะค่าตอบแทน..

แต่ก็ตั้งใจไว้แล้วครับว่า..ต่อไปจะไม่ขอรับค่าวิทยากร ;D



123
ผมต้องตีความคำว่าเชิงการค้าให้ฟังนะครับ ว่าเป็นอย่างไร

มันคือการเอา HOSxP ไปทำอะไรเพื่อได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตัวที่ขัดกับเงื่อนไขการใช้งานครับ และเงื่อนไขการใช้งานห้าม

1. เอา HOSxP ไปขาย  เพราะตัวโปรแกรมเป็น Free software Download ได้จาก hosxp.net อยู่แล้ว ถ้าเอาไปขายหมายความว่าหลอกลวงคนซื้อใช่หรือเปล่าครับ

2. เอา HOSxP ไปฝึกอบรมและเรียกเก็บเงิน ย้ำเรียกเก็บเงินหรือคิดค่าอบรม  และข้อนี้เป็นข้อที่ทำให้ผมต้องเขียนสัญญาอนุญาตใหม่ เป็น HOSxP Public license เมื่อหลายปีมาแล้ว เพราะว่างานฝึกอบรมเป็นงานหลักของ BMS ถ้ามีใครหรือกลุ่มบุคคลใดเอา HOSxP ไปขายแบบฝึกอบรมแล้ว BMS ก็คงจะอยู่ไม่ได้ใช้หรือเปล่าครับ  สรุปง่ายๆ ว่าจัดอบรมได้ครับ แต่ห้ามคิดเงินค่าอบรม (ยกเว้นค่าเบรกหรือเอกสารหรือค่าที่พัก) ถ้าเก็บเงินไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็หมายความว่าตั้งใจทำเชิงการค้านะครับ  กรณีแบบนี้รวมถึงการคิดค่าวิทยากรเช่นเดียวกันนะครับ กรณีข้ามหน่วยงานผมคิดว่าถ้าจะไปช่วยจริงๆ แล้ว ไม่ควรคิดค่าวิทยากรจะดีกว่านะครับ (เพราะสุดท้ายมันก็กลายเป็นผลประโยชน์ที่หยุดทำไม่ได้ครับ)


ผมว่าอาจารย์ชี้แจงชัดเจนที่สุดแล้วนะครับ ที่ผ่านมาผมว่าก็คงเข้าเงื่อนไขที่อาจารย์ว่ากันพอสมควร ผมลองสรุปประเด็นอย่างนี้นะครับ

1.การไปช่วยเหลือขึ้นระบบให้กับโรงพยาบาลที่มีความประสงค์จะขึ้นระบบเอง แต่ไม่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องการใช้งาน HOSxP และมีการเชิญวิทยากรจากหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งจะมีการจ่ายค่าตอบแทนเป็นค่ายานพาหนะ ค่าตอบแทนวิทยากร ฯลฯ ตามระเบียบราชการ ซึ่งในกรณีรับค่าวิทยากรจะเข้าข่ายการทำในเชิงการค้าเช่นเดียวกัน แม้จะไม่ใช่จำนวนเงินที่สูงมากนัก

2.โรงพยาบาลที่มีการใช้งาน HOSxP แล้ว และมีการเชิญวิทยากรไปช่วยฝึกอบรมเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นที่มีความชำนาญ และมีความเข้าใจในระบบ HOSxP ซึ่งจะมีการจัดฝึกอบรมให้กับบุคลากรเพิ่มเติม ซึ่งจะเข้าข่ายเชิงการค้าด้วยเช่นกันหากรับค่าตอบแทนวิทยากร

3.การช่วยเหลือโดยให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์,การแนะนำการใช้งานผ่านทาง Teamviewer ,ก็ไม่ควรมีการเรียกร้องหรือขอรับค่าตอบแทนหรืออามิสสินจ้างใดๆ

4.การฝึกอบรมช่วยเหลือกันในภายในจังหวัด เช่น สสจ.ทำโครงการฝึกอบรม ฟื้นฟูการใช้ HOSxP ให้กับโรงพยาบาลและ รพ.สต.ภายในจังหวัด และเชิญบุคลากรในหน่วยงานของโรงพยาบาลภายในจังหวัดให้มาช่วยเป็นวิทยากรภายใน และจ่ายค่าตอบแทนวิทยากรให้แบบนี้ก็คงเข้าเงื่อนไขรับค่าวิทยากรเช่นเดียวกันนะครับ

 ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะเข้าใจว่าในกลุ่มใต้ดิน หรือพวกเราหลายคนอาจจะเรียกว่าเป็นกลุ่มบนดิน 55 ซึ่งก็รวมทั้งผมที่เคยไปช่วยฝึกอบรมให้และรับค่าตอบแทนวิทยากรเช่นกัน แต่จะต่างกันตรงที่ว่ากลุ่มใต้ดินจะรับขึ้นระบบ หรือฝึกอบรมเป็นรูปธรรมชัดเจน และมีราคาค่อนข้างสูงกว่าค่าตอบแทนปกติของวิทยากรตามระเบียบราชการ

ถ้าอย่างนั้นเสนออาจารย์ต่ออย่างนี้ได้ไหมครับ ในการฝึกอบรมเนื่องจากว่าถ้าให้การฝึกอบรมโดยทีม BMS เป็นหลัก ซึ่งจะตรงตามเจตนารมย์และเป็นการช่วย BMS ด้วย คงต้องจัดหลักสูตรที่มีหลากหลายและมีทีมวิทยากรให้เพียงพอด้วย ซึ่งอาจจะใช้วิทยากรจากในพื้นที่ รพ.ใกล้เคียง ช่วยเป็นวิทยากรด้วย เพราะหลักๆวิทยากรระดับเทพ ก็เป็นคนที่ทำงานอยู่ในวงการสาธารณสุขและทำงานตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายในการอบรมเหมือนกันนะครับ เพราะตอบปัญหาและเชื่อมโยงวิธีการแก้ปัญหาต่างๆได้ดีกว่า.

ในส่วนของหน่วยงานที่มีความประสงค์จะจัดฝึกอบรมกันเอง โดยเชิญวิทยากรจากที่อื่น ผมเห็นด้วยครับว่าไม่ควรรับค่าตอบแทนวิทยากร ซึ่งตรงนี้เป็นหัวใจของ ฟรีแวร์อย่าง HOSxP ซึ่งถ้าหากท่านใดคิดว่าไปก็เหนื่อย เสียเวลา ได้เงินค่าตอบแทนน้อยก็ไม่ควรรับเป็นวิทยากร แต่ถ้าจะรับก็น่าจะไปด้วยใจเป็นจิตอาสา..และทางผู้จัดก็ควรเข้าใจเจตนารมย์ของอาจารย์ ไม่ต้องไปหาทางเลี่ยงเอาเงินออกเพื่อให้มีค่าตอบแทนกับวิทยากร..

ผมคิดว่าบางทีสังคมในยุคนี้ก็น่าจะก้าวสู่การเป็น จิตอาสา=ทำงานด้วยใจ กันจริงๆจังๆ ซะทีนะครับ และผมคิดว่าพวกเราเองที่ใช้ HOSxP ทุกคนควรเคารพกฎ กติกา มารยาทตรงนี้ด้วย เพื่อให้เกียรติอาจารย์ชัยพร และทีมงานที่ทุ่มเทพัฒนาโปรแกรมให้พวกเราใช้ฟรีมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา..





124
ขอบคุณสำหรับความห่วงในและกำลังใจ รวมทั้งแง่คิดดีๆ ในทุกความเห็นครับ  :)

จริงๆ ปัญหา(ที่ผมบ่นให้ฟัง) ก็คือมีคนเห็นแก่ตัวบางกลุ่มเอา HOSxP ไปขายต่อหรือทำลักษณะหาผลประโยชน์น่ะครับ  ปกติผมจะไม่ยอมให้ปัญหาอะไรเกิดขึ้นซ้ำๆ หลายครั้ง เรื่องนี้ก็เช่นกันครับ ก็เลยเป็นที่มาของระบบลงทะเบียนครับ แต่มันก็จะเป็นการเพิ่มความยากลำบากของการนำ HOSxP ไปใช้ด้วยเช่นเดียวกันครับ  แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย ก็จะกลายเป็นว่า BMS ยอมแพ้กับปัญหานี้

มาดู Concept คร่าวๆ น่ะครับ คือ

1. ตัวโปรแกรม (Version ใหม่ อาจจะนับจากนี้เป็นต้นไป) จะตรวจสอบระบบก่อนว่ามีการลงทะเบียนแล้วหรือยัง ถ้ายัง โปรแกรมจะแสดงหน้าจอให้ผู้ใช้งานใส่เลขลงทะเบียนผลิตภัณฑ์
2. ผู้ดูแลระบบสามารถติดต่ดไปที่ BMS เพื่อขอเลขลงทะเบียนผลิตภัณฑ์นี้ได้ Free ครับ แต่เป็นสิทธิของ BMS ทีจะให้หรือไม่ให้ก็ได้ (จริงๆ แล้วก็คงจะให้ทุก รพ. นะครับ แต่อาจจะไม่ให้กับ รพ.ที่มีทีมใต้ดินไปขึ้นน่ะครับ แต่ทีมที่ช่วยเหลือ รพ. อื่นๆ ที่ไม่มีงบจริงๆ อย่างแท้จริงโดยไม่หวังผลประโยชน์ นี่เราก็ให้ครับ)
3. การลงทะเบียนจะทำเพียงครั้งเดียวครับ และต้องทำ Online ผ่าน Internet

ทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ

เป็นปัญหาที่ทำให้อาจารย์ต้องเหนื่ื่อยใจจริงๆนะครับ..^___^   
การลงทะเบียนกับ BMS ผมว่าก็เป็นมาตรการที่ดีครับ เพื่อที่จะได้เป็นฐานข้อมูลเก็บไว้เป็นทางการด้วยว่า รพ.ไหน ขึ้นระบบเมื่อไหร่ โดยใคร ฯลฯ แต่ในส่วนรหัสลงทะเบียนนี่ผมคิดว่าเป็นไปได้ทั้งบวกและลบครับหมายถึงว่า การลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ก็จะช่วยป้องกันกลุ่มใต้ดินเหล่านี้นำไปหาประโยชน์กับโรงพยาบาลต่างๆซึ่งจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่ในแง่ลบก็อาจจะกลายเป็นช่องให้เกิดการหาทางติดต่อใต้โต๊ะเพื่อขอรหัสลงทะเบียน

ไม่รู้ว่าในเชิงเทคนิคทำได้หรือเปล่านะครับ ถ้าอาจารย์ล๊อคใน HOSxP เลยสำหรับสถานบริการที่ที่ขึ้นระบบกับทีมใต้ดินโดยตรวจสอบจากเลขสถานบริการ เช่น 11111 รพ.ทดสอบ ถ้าเป็นเลขของสถานบริการนี้ก็จะใช้โปรแกรม HOSxP ไม่ได้ หรือให้ใช้ได้ลดความสามารถบางอย่างลง หรืออาจจะมีข้อความประจานเพื่อให้ จนท.คนอื่นๆของโรงพยาบาลได้รับทราบด้วย ซึ่งอาจารย์คงมีข้อมูลอยู่แล้วมั้งครับว่ามีที่ไหนบ้าง ..

และในส่วนการลงทะเบียนผมเห็นด้วยอย่างยิ่งนะครับว่าควรให้ทุก รพ.ลงทะเบียน

125
นาๆ จิตตัง ผมไม่รู้ว่าความคิดเห็นของผมจะเป็นส่วนหนึ่งของที่แห่งนี้หรือเปล่า ส่วนหนึ่ง อยากให้ทุกคนอย่าไปมองเรื่องพวกใต้ดินเป็นหลักครับเพราะพวกนี้เห็นแก้ได้ไม่สนใจปัญหาที่ตามมา  อยากให้มองโรงพยาบาล กับ BMS เป็นหลัก ต้นเหตุที่แท้จริง ผมว่าอยู่ที่ ราคา ที่โรงพยาบาลสามารถจะขึ้นระบบ BMS ได้ เพราะว่าโรงพยาบาลบางโรงพยาบาลมีหนี้สินติดลบ ทำให้ผู้ตัดสินใจไม่ใช่ adminคนทำงาน ซึ่งผลส่วนหนึ่งถูกผู้บริหารกดดันให้ขึ้นระบบ โดยงบที่จำกัด ประกอบกับผู้บริหารบางส่วน เขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องคุณภาพ ขอเพียงระบบใช้งานได้ก็พอ   สิ่งหนึ่งที่ผมอย่าให้เกิดขึ้นก็คือ อยากให้มีการกำหนดราคาที่ตายตัว ระหว่าง BMS กับ โรงพยาบาล ซึ่งจะได้ราคาที่ BMS และโรงพยาบาลรับได้ โดยการตกลงอย่างเป็นทางการโดยใช้จำนวนเตียงหรือ user ที่ใช้งานเป็นหลักก็ได้ (ส่วนหนึ่ง Admin จะต้องทำงบประมาณประจำปี เพื่อกำหนดแผนใช้เงินงบประมาณที่ชัดเจนที่จะใช้ในปีนั้นๆ) จะได้ทำงบประมาณกันได้  ส่วนตัวของ Hosxp เองก็น่าจะขึ้นระบบ มากกว่า 500 โรงแล้วผมว่าในส่วนของการขึ้นระบบ มันน่าจะเริ่มตัน อยากให้ทาง BMS กำหนด โมดูล ย่อๆที่ อ.ชัยพรทำมาเสนอ เป็น แพกเก็จ ซึ่งส่วนนี้หน้าจะอยู่ในส่วนของงานพัฒนา เช่นระบบ ตรวจสุขภาพของพี่ thank ทำเอาไว้ หรือระบบ อื่นๆ ผมเห็นช่วงแรกๆมี แพ็กเก็จมาให้เห็นบ้าง ส่วนปีนี้ ผมว่า BMS ทำได้ดีในเรื่องของการอบรม ออกปฎิทินประจำปี มาให้พวกเราได้ตัดสินใจ เลือกและพิจารณาที่เรียนได้ตามคอร์ดที่อบรมครับ สุดท้ายนี้ผมเห็นใจ อ.ชัยพร และ BMS นะครับ ที่ทำงานกันมานานเหนื่อยกันมาหลายปี สิ่งที่ผมอย่าจะบอกว่าส่วนหนึ่งผมก็เห็นใจโรงพยาบาลที่เขาไม่ได้ขึ้นระบบกับ BMS บ้างก็ขึ้นเอง หรือบ้างก็ใช้บริการโรงพยาบาลค้างเคียง เพราะเขาไม่มีเงินจริงๆ สุดท้ายคนที่ตกเป็นจำเลยก็คงหนี้ไม่พ้น admin โรงพยาบาลสิ่งที่พวกผมจะช่วย BMS ได้ก็คือการอบรมเป็นหลัก ผมหวังว่าความคิดเห็นของผมจะพัฒนาที่แห่งนี้ให้ก้าวต่อไป
  

ประเด็นของน้องเอก..น่าสนใจครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมได้มีโอกาสคุยกับทางน้องๆ admin ในเรื่องนี้ หลายแห่งที่เคยขึ้นระบบกับ BMS ไม่รู้ว่ามีการป้อนปัญหากลับไปให้ทาง อ.ชัยพรและทีมงานบ้างหรือเปล่า อาจจะเป็นช่วงก่อนหน้านี้นะครับที่ทีมที่มาขึ้นระบบไม่สามารถอธิบายงานในระบบสาธารณสุขให้กับผู้ใช้ได้กระจ่าง คือ รู้แต่ว่าลงข้อมูลยังไง เมนูอยู่ตรงๆไหน เวลาโดนถามก็มักจะตอบได้ไม่ค่อยเคลีย ซึ่งในระบบงานสาธารณสุขมันค่อนข้างซับซ้อนมาก การขึ้นระบบก็ใช้เวลาค่อนข้างสั้น ในขณะที่ราคาการขึ้นระบบที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน พอไปเทียบกับทีมใต้ดินที่ถูกกว่าเป็นประเด็นทางการเงินเหมือนที่ว่า เพราะผู้บริหารไม่ได้สนใจอะไรมาก ขอให้แค่มีโปรแกรมใช้งานและส่งข้อมูลได้ก็พอ

ปัญหาของการขึ้นระบบโรงพยาบาลที่ใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน สร้างปัญหาให้กับหลายๆ โรงพยาบาลพอสมควรครับเพราะ เจ้าหน้าที่เองก็ไม่พร้อมกับโปรแกรมใหม่ admin ก็ช่วยแก้ปัญหาไม่ค่อยได้ การสื่อสารกับผู้ใช้หรือผู้บริหารก็น้อย เท่าที่จากคำบอกเล่าเวลาไปขึ้นระบบก็จะคลุกกันอยู่แต่ให้ห้องคอม กับ admin อบรมก็จัดไม่กี่วันแล้วก็ขึ้นระบบให้ใช้งานเลย ทำให้เกิดปัญหาตามภายหลัง ปัจจุบันทีม BMS ก็คงจะได้แก้ปัญหาตรงจุดนี้แล้ว..

ผมว่าเราช่วยกันเสนอความคิดเห็นเข้ามากันเยอะๆในเรื่องนี้ดีแล้วครับ และน่าจะให้มีแนวทางที่ชัดเจนไปด้วยเลยเพื่อที่จะได้ช่วย อ.ชัยพร และทีม BMS ด้วย ปัจจุบันแม้จะทำได้ดีในเรื่องการฝึกอบรม แต่การอบรมแบบที่ไม่เข้าใจงานสาธารณสุขในเรื่องความเชื่อมโยงกับการทำงานจริงๆ สิ่งที่ได้ตามมา คือ admin ที่เป็น นวก.คอมพิวเตอร์จำมาทำแบบผิดๆถูกๆ ได้เหมือนกัน

126
ผมอยากให้ลองเสนอหาแนวทางออกร่วมกันช่วยแก้ปัญหานะครับ..
1.ทำหนังสือแจ้งเวียนไปยัง รพ.ทุกแห่งเพื่อให้ผู้บริหารหรือฝ่ายบริหารของแต่ละโรงพยาบาลได้รับทราบข้อมูลนี้ด้วย เพราะบางแห่งอาจจะไม่ทราบข้อมูลทั้งหมด คิดว่าเป็น HOSxP เป็นฟรีแวร์ และคิดแต่จะหาทางขึ้นระบบโดยจ่ายเงินน้อยๆ
2.เคยคิดอยากเสนอเรื่องการระดมทุนสนับสนุน BMS ไม่รู้นะิครับผมว่าบางทีวิธีการเดิมๆ มันก็ติดอยู่กับกรอบสุดท้ายอาจจะทำให้ HOSxP ต้องมีการล๊อคเพื่อป้องกันคนนำไปใช้ในเชิงการค้า  ที่ว่าระดมทุนผมหมายถึงการช่วยกันสนับสนุน BMS เช่น รพ.ละ 500-1,000 บาท /เดือน ซึงจำนวน รพ.ที่ใช้งานในปัจจุบันผมว่ามากพอที่แต่ละเดือนจะมีเงินเข้า BMS ในการบริหารจัดการได้พอสมควร ในขณะที่เราใช้มาตรการในการสื่อสารทำความเข้าใจกับ รพ.ต่างๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าค่าขึ้นระบบสำหรับบาง รพ.ก็สูงจริงๆซึ่งเป็นภาระทางการเงินในปัจจุบันพอสมควร

3.ปรับเปลี่ยนวิธีการขึ้นระบบ โดยร่วมกันระหว่าง admin รพ.เครือข่ายในพื้นที่ใกล้เคียงร่วมกับทีม BMS บางส่วน หรือให้ทีม BMS สนับสนุนในเชิงเทคนิค/ข้อมูลผ่านการรีโมท เพื่อให้ค่าใช้จ่ายในการขึ้นระบบลดลง และช่วยกันระดมทุนแบบรายเดือนตามข้อ 2 แทน ซึ่งในส่วนทีมที่ไปช่วยขึ้นระบบก็ได้ค่าตอบแทนสำหรับการไปช่วยขึ้นระบบ ทีม BMS ก็ไม่ต้องลงทุนคนมาขึ้นระบบให้ รพ.เป็นจำนวนมาก

ลองคิดดูเล่นๆ ถ้า มี รพ.ใช้ HOSxP 300 แห่งร่วมสนับสนุนอย่างต่ำๆเดือนละ 500 บาท เดือนหนึ่ง BMS ก็จะได้ ประมาณ 150,000 บาท ปีหนึ่งก็จะตกราวๆ 1,800,000 บาท ซึี่งถ้าขึ้นระบบแบบเดิม รพ.30 เตียงก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300,000 บาท/โรง ซึ่งก็เหมือนกับว่า BMS ขึ้นระบบเฉลี่ยประมาณปีละ 6 โรงสำหรับ รพ. 30 เตียง ซึ่งถ้าเป็น รพ.ขนาด 30-60 เตียง ไม่ค่อยยากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็น รพ.ทั่วไป ก็คงต้องให้เป็นทีม BMS โน้นแหละครับ

ในส่วนค่าใช้จ่ายรายเดือนๆละ 500-1,000 บาท (บางโรงอาจจะจ่ายได้มากกว่านี้)ก็คิดเสียว่าเป็นค่าอัพเดตโปรแกรม ค่ารายงานประจำเดือนที่พวกเราช่วยเขียนและแจกจ่าย ซึ่งผมคิดว่าเป็นราคาที่ รพ.ต่างๆ สามารถหามาจ่ายได้สบายๆอยู่แล้ว

การประนามทีมใต้ดิน การใช้มาตรการทางกฏหมายต่างๆ ก็ดี คนเหล่านี้ก็คงไม่สนใจ  เพราะเงินจำนวนหลักหลายหมื่่น หรือหลักแสนที่หามาได้ง่ายๆ คงบังตาคนเหล่านี่้เสียแล้ว..ซึ่งพวกเราก็คงต้องยอมรับว่าในสังคมก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี น่าเสียดายครับที่เราจะมาให้คนไม่ดีเพียงเล็กน้อยมาทำลายทำให้ชุมชนที่อบอุ่นแห่งนีและเจตนารมย์ที่ดีของ อ.ชัยพรต้องสูญเสียไป

ลองช่วยกันเสนอแนวทางดูนะครับ ..

127
เป็นเรื่องที่น่าเสียใจนะครับ สำหรับการนำผลงานของ อ.ชัยพร ไปทำแบบนี้ คงต้องช่วยกันมากขึ้นแล้วละครับ ทั้งเรื่องการอธิบายให้โรงพยาบาลต่างๆที่กำลังจะเปลี่ยนระบบให้เข้าใจถึงเจตนารมย์ของ อ.ชัยพรด้วย หลายปีมานี้ อาจารย์ทุ่มเทให้กับกับการพัฒนาโปรแกรมมาตลอด รายได้ที่ได้จากการขึ้นระบบและการดูแลระบบก็เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ และสำหรับทีมงาน BMS  ทุกคน.. ทุกโอกาสที่มีจะพยายามชี้แจงกับโรงพยาบาลต่างๆ ให้เข้าใจในเจตนารมย์ของอาจารย์และทีมงานครับ

128
มองได้หลายมุมครับ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไปเยี่ยมบ้านทำอะไร ถ้าไปเยี่ยมในงานรักษาพยาบาลถึงจะไม่มี cost  50 บาทเหมือนที่มาโรงพยาบาล แต่ค่าที่ต้องเสียคนออกไป ยาที่เอาไปจ่าย วัสดุการแพทย์ หัตถการที่ออกไปทำเป็นต้นทุนทั้งนั้นแหละครับ  หรือสมมุตินะครับถ้า รพ.ผมมีปัญหาคนไข้เยอะมากเลย ออกแบบระบบใหม่ให้บริการตรวจรักษาคนไข้ที่เป็นไข้หวัด ท้องเสียที่บ้านแบบ ดิลิเวอร์รี่เลย มี call centerรับโทรศัพท์ มีจนท.ออกไปให้บริการเชิงรุก ตรวจรักษาที่บ้าน ถ้าไม่ลง visit ที่ OPD ก็ดูเหมือนว่าจะลดคนไข้ที่ OPD แต่ก็ไม่แสดงต้นทุนที่แท้จริงของงานบริการอยู่ดี

เดี๋ยวนี้หลาย รพ.มีการจัดบริการที่บ้านเพือความสะดวกของคนไข้ เช่น คนไข้ที่ต้องมาทำแผลต่อเนื่องทุกวัน แต่เนื่องจากไม่สะดวกในการเดินทางมาโรงพยาบาล ปัญหาคือ คนไข้มาไม่ได้เท่านั้นเอง รพ.จึงต้องทำงาน เชิงรุกเข้าไปทำในชุมชน ถ้าคนไข้มาได้เราก็ลง visit ถ้าเราไปให้บริการไม่ต้องลง visit มันคงดูจะแปลกๆหรือเปล่าครับ

129
ความเห็นส่วนตัวนะครับ คำว่างานเชิงรุก โดยความหมายของมัน คือ หมายถึง “การเล็งเห็นถึงปญหาหรือโอกาส พรอมทั้งลงมือจัดการกับปญหานั้นๆ หรือใชโอกาสที่เกิดขึ้นใหเกิดประโยชนตองาน ดวยวิีธีการที่สรางสรรคและแปลกใหม  คือมีทั้งมิติที่เกี่ยวกับปัญหา และมิติที่เกี่ยวกับโอกาส..

งานรักษาพยาบาลแทนที่จะรอให้ผู้ป่วยมารับการรักษาอย่างเดียว เช่น คนไข้โรคเรื้อรัง ไม่สะดวกต่อการมาโรงพยาบาล จึงต้องจัดทีมสหวิชาชีพทำงานเชิงรุกไปติดตามเยี่ยม (มิติด้านที่เกียวกับปัญหาของผู้ป่วย) รักษาพยาบาลที่บ้านมีกิจกรรมเช่นเดียวกับการมารักษาที่โรงพยาบาลหรือสถานีอนามัย ผมมองว่าตรงนี้เป็นงานเชิงรุกของการรักษา เป็นผลงานที่น่าจะลงข้อมูลผ่านเวชระเบียนได้ครับ

ส่วนกรณีเข้าไปเยี่ยมบ้าน สำรวจข้อมูล บุคคล ข้อมูลสาธารณสุขอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นงานเชิงรุกในมิติเกี่ยวกับการหาข้อมูล โอกาส ที่จะทำงานในอนาคต หากเป็นข้อมูลพื้นฐานก็นำมาปรับปรุงในระบบบัญชีได้ตามบัญชี เช่น ไปเยี่ยมบ้านเก็บข้อมูลพื้นฐาน ก็นำมาลงในบัญชี 1 ,แต่ถ้าไปเยี่ยมบ้านแล้วมีมีหญิงหลังคลอดที่ต้องติดตามด้วย ก็นำมาลงในบัญชี 2 และเยี่ยมลูกในบัญชี 3 ควบคู่กันไปได้เลย และถ้าไ้ด้ข้อมูลเกี่ยวกับหญิงวัยเจริญพันธุ์เรื่องการวางแผนครอบครัว ก็นำไปลงบัญชี 6 ฯลฯ

หรือลักษณะคำถามคล้ายๆกัน ทำงานเชิงรุกด้วยการจัดพยาบาลออกไปตรวจคัดกรองตาในหมู่บ้าน กับนัดชาวบ้านมาตรวจคัดกรองตาที่โรงพยาบาล ต่างกันแค่สถานที่ในการให้บริการเท่านั้นเอง แต่เป็น workload ในการบริการที่โรงพยาบาลต้องทำเพิ่มขึ้น เป็นงานเชิงรุกในมิติของการหาโอกาส ..ที่น่าจะลงทะเบียนเวชระเบียนของการเข้ารับบริการได้ โดยส่งตรวจเป็นออกหน่วย และแผนกเป็นอื่นๆ

130
;D ;D ;D งานเยี่ยมบ้านเป็นงานเชิงรุกครับ ไม่ต้องส่งตรวจจากห้องบัตร วิธีการตามป๋าเกื้อไปเลยครับ ;D ;D ;D

ถ้าไปเยี่ยมบ้านแล้ว ไปทำแผล ฉีดยา ทำหัตถการ จ่ายยา ต้องลงทะเบียนห้องเวชระเบียนไหม๊ครับ

131
นอกเรื่อง / Re: วันนี้วันเกิดพี่กิจ ครับ
« เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 18:28:03 PM »
สุขภาพดี มีแฮง และมีความสุขกับชีวิตนะครับ 

132
BMS Online Referal System / Re: Refer Online แหล่มจริงๆๆ
« เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 06:25:53 AM »
อ.นาจ  review ให้เป็นความรู้หน่อยสิครับ  ;D ;D ;D

133
ผมอ่านคำถามนี้ทีแรกก็รู้สึกอมยิ้มกับคำถามเหมือนกัน แต่พอกลับมาอ่านอีกครั้งก็รู้สึกตลกไม่ออก เพราะุถ้าไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็มีผลต่อการลงบันทึกข้อมูล อาจจะทำผิดๆ ถูกๆ ตามที่เข้าใจและคิดว่าบริบทของ รพ.แต่ละที่ไม่เหมือนกัน

จริงๆ เงื่อนไขของการนับเป็นในเขตประชากรรับผิดชอบมีกำหนดไว้อยู่นะครับถ้าจำไม่ผิด อย่่างแรกเลยก็คือ คนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านและอยู่จริง  นับเป็นในเขตรับผิดชอบแน่นอน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือ ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแต่มาอาศัยอยู่ อันนี้นับเฉพาะคนไทยนะครับและอยู่ในเขตรับผิดชอบเกิน 6 เดือน  มีหลายคนเคยถามว่ากรณีคนต่างด้าวที่มาทำงานในประเทศไทย ได้รับใบอนุญาตนับเป็นในเขตหรือเปล่า สำหรับผมนับเป็นนอกเขตครับ อย่างที่บอกว่านับเฉพาะคนไทย

ทีนี้ไปที่คำถาม กรณีที่ว่า   person1คนมี3บ้านในเขต ในความเป็นจริงก็คือถึงเขาจะมีบ้าน 3 บ้าน แต่ในทางทะเบียนราษฎร์เขาจะมีชื่อแค่บ้านเดียวครับ กรณีแบบนี้จะสับสนจากการตั้งฐานข้อมูล HOME เพราะการที่เราเพิ่มบ้านเลขที่ในทางปฏิบัติจริงๆ ควรเพิ่มตามบ้านที่ได้เลขที่ และมีเลขประจำบ้านแล้ว ส่วนบ้านที่สร้างขึ้นเป็นหลังพร้อมอยู่ แต่ยังไม่มีทะเบียนบ้านก็ไม่ควรเพิ่มเข้ามาในฐานครับ แต่เท่าที่เคยดูข้อมูลให้ รพ./สอ..ผมสังเกตว่าจะมีข้อมูลโดยนับจากบ้านที่มีอยู่เป็นหลังจริงๆ ที่ได้การสำรวจ ดังนั้นเราจึงมักพบบ้านเลขที่พิเศษ ที่ตั้งขึ้นเองและไม่สามารถหาเลขที่ประจำบ้านได้อยู่ในฐาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แฟ้ม HOME  error

ลองตั้งคำถามกรณีตัวอย่างคล้ายกันๆ ลองช่วยกันตอบเล่นๆดู
สมมุติว่า หมู่บ้าน ก. บ้านเลขที่ 11  มีคนในครอบครัว  3 คน ตามนี้นะครับ
1. นายดี ทดสอบ
2.นางดำ ทดสอบ
3.ด.ช.ดีมาก ทดสอบ

และในหมู่บ้าน ก. มีวัดป่าแดง ซึ่งเป็นวัดที่ไม่มีบ้านเลขที่ มีพระแดง มาบวช 1 รูป และนายดีได้บวชและมาจำพรรษาที่วัดนี้ คำถามคือ เราจะลงบันทึกข้อมูล HOME กันอย่างไร และลงข้อมูลประชากรในหมู่บ้านอย่างไร

ผมคิดว่าหลายๆแห่งคงลงข้อมูลหลังจากเรือนมีบ้านเลขที่อย่างนี้
บ้านเลขที่ 11
บ้านเลขที่ วัดป่าแดง

ส่วนข้อมูลประชากรในวัดบ้านป่าแดงก็จะมีข้อมูลในหลังคาเรือน พระ 2 รูป คือ
1.พระแดง
2.พระดี
แบบนี้หรือเปล่าครับ แล้วบ้านเลขที่ 11 ลงข้อมูลประชากรในบ้านนี้อย่างไรดี ?
แบบที่ 1 ลงข้อมูล
1.พระดี
2.นางดำ
3.ด.ช.ดีมาก

หรือว่าลงแค่
1.นางดำ
2.ด.ช.ดีมาก

ส่วนพระดี ย้ายไปอยู่ที่บ้านเลขที่ วัดป่าแดง ?

ผมลงข้อมูลอย่างนี้ครับ
หมู่บ้าน ก มีบ้านเลขที่ 11 ซึ่งมีประชากรในหลังคาเรือนคือ
1.พระดี
2.นางดำ ทดสอบ
3.ด.ช.ดีมาก ทดสอบ

ส่วนวัดป่าแดงเนื่องจากไม่้มีเลขที่บ้านผมจะไปเพิ่มในบัญชีข้อมูลหมู่บ้าน และพระแดงจะอยู่ทะเบียนบ้านนอกเขต ดังนั้นข้อมูลวัดบ้าน ก. ก็จะมีพระ 2 รูป คือ พระแดง และพระดี

อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องนะครับ แต่ลองแลกเปลี่ยนกันดู



134
มีข้อสงสัยค่ะ  ถ้ากรณีที่บัญชี1  person1คนมี3บ้านในเขต  จำเป็นต้องไปเพิ่มบุคคลในบ้านทุกบ้านไหม 
ถ้าต้องเพิ่ม มีperson_id หลายอัน แต่มีcid เดียวกันจะเป็นปัญหาไหม

ถ้าไม่เพิ่ม แต่เค้าเป็นบุคคลที่มีชื่อในทะเบียนบ้าน จะเป็นปัญหาไหม

หรือว่าจะกำหนดให้ person_id สามารถมีชื่ออยู่ในหลายๆบ้านได้ แต่กำหนดสถานะการอยู่จริงของเค้า
หรือว่าจะกำหนดให้ person มีหลายๆ person_id และกระจายอยู่ตามบ้านแทน แล้วจะมีปัญหาหรือป่าวเพราะcid เดียวกัน

นึกตามความเป็นจริงครับ ถึงจะมีบ้านอยู่ 3 บ้านในเขต แต่ชื่อในทะเบียนบ้านยังไงก็มีอยู่ในบ้านหลังเดียวครับ ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องไปเพิ่ม person ในทุกๆบ้าน หรือไปคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงให้มีชื่ออยู่ในหลายๆบ้านได้ เว้นเสียแต่ว่าบุคคลที่คุณยกตัวอย่าง มีสามร่างและสามารถอยู่ได้ในบ้าน 3 หลังพร้อมๆ กัน

135
โหลดไฟล์คู่มือวิธีการลงตามลิ้งค์นี้ครับ

http://www.uploadfile.biz/file/?i=EWEDMEIEIZWVDW

136
ในวาระดิถีปีเก่าสิ้น..ปีใหม่ดิ้นโดดมาหน้าตาเฉย..
ขอให้ทุกท่าน..พ้นทุกข์ สุขอย่างเคย
อยู่อย่างเย้ยเ่ทวดา..และ ฟ้าดินนนน...

ชะเอิงเอย

137
เดือนธันวาคม ให้ส่งภายในวันที่ 30 ธค ครับ เพราะมีผลต่อการพิจารณางบประมาณงวดแรก ถ้าส่งกันน้อยแห่งที่ส่งเดือน ธค ทันวันที่30 ก็จะได้รับงบในงวดแรกไปครับ ซึ่งมีผลต่อตัวหาร แต่ถ้าส่งภายในวันที่30 มกราคม. ก็ทันเวลาครับแต่จะเอาจัดสรรในงบประมาณรอบสอง ซึ่งหมายถึงตัวหารที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ รพ.ผมจึงส่งข้อมูล 1-25 ธค ไปก่อนครับ

138
ปิ๊ก PP 3 รายที่ error เกิดจากอะไร??

139
นอกเรื่อง / Re: BMS ณ เชียงใหม่กะเจ้า
« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 12:38:16 PM »
HOSxP The Star ค้นฟ้าคว้า IPad  ปี 3  ;D ;D ;D ว่าแต่พี่โก้จะส่งผมเรื่องอะไรครับ  ;D ;D ::)
อยากให้ส่งเรื่องอะไร บอกมาเลยเดี๋ยวป๋านาญจัดให้  ;D ;D ;D ;D

ครับคุณแพรวอยากจะใช้สิทธินั้นจังเลยครับ  ;D ;D แต่กลัว น้า ๆ (น้านาญ น้าเกื้อ น้าโก้) จะยิงผมครับ  ;D ;D
ตกลงเป็นน้าไปซะแล้วเรา  :( :( :( :(

ปีหน้าเป็นลุงครับ..ปีถัดไปเป็นปู่ครับพี่โก้...55

140
Development / Re: แนวทางการปกปิดข้อมูล
« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 11:45:49 AM »
มีประเด็นที่ admin ควรจะทราบเกียวกับการปกปิดความลับของผู้ป่วยอย่างนี้นะครับ

"ความลับผู้ป่วยไม่ใช่ความลับที่รู้กันเพียงสองคนระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย. การเปิดเผยข้อมูลให้ทราบถึงกันในหมู่ผู้ปฏิบัติงาน ในโรงพยาบาล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย ที่เป็นไปเพื่อการดูแลรักษาที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยจะไม่ถือว่าเป็นการเปิดเผยความลับของผู้ป่วย เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องเก็บรักษาความลับผู้ป่วย เพราะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 323 ว่าด้วยการเปิดเผยความลับผู้ป่วย กฎหมายมิได้เอาโทษเฉพาะผู้ประกอบวิชาชีพ แต่ยังรวมถึงผู้ช่วยและ  นักศึกษาด้วย. ทุกสถานพยาบาลจึงควรมีการอบรมบุคลากรทุกระดับให้เข้าใจเรื่องหน้าที่ในการเก็บรักษาความลับผู้ป่วยและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะมีโทษทางอาญา"

สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพ นอกจากต้องรับผิดทางอาญาแล้ว ยังต้องรับผิดต่อองค์กรวิชาชีพของตนเองด้วย กล่าวคือ แพทย์ต้องรับผิดต่อแพทยสภา พยาบาลต้องรับผิดต่อสภาการพยาบาล เป็นต้น

ความลับเรื่องผลเลือดเอดส์ เป็นความลับที่ผู้ป่วยสามารถระบุได้ว่าต้องการให้ใครร่วมรับรู้บ้าง. อย่างไรก็ตามเพื่อผลของการรักษาผู้ป่วย ความลับดังกล่าวจึงสามารถรู้ได้ในหมู่บุคลากรที่ทำหน้าที่เกี่ยว กับการรักษาผู้ป่วยโดยไม่ต้องขออนุญาตเป็นรายคน.

ฯลฯ
ก่อนที่คิดจะล๊อคตรงโน้น ปิดตรงนั้น ปิดตรงนี้ ลองศึกษาข้อมูลเหล่านี้ดูนะครับ

141
นอกเรื่อง / Re: BMS ณ เชียงใหม่กะเจ้า
« เมื่อ: ธันวาคม 18, 2010, 10:38:07 AM »
หน้าตา Nokia C3 ของผม
http://www.sadung.com/hardware/wp-content/uploads/2010/04/Nokia-C3.jpg
นั่งรถไปกินข้าวในตัวเมืองเชียงใหม่ เห็นป้ายโฆษณา C3 ตรงที่จอดรส เป็นเครื่องสีชมพู นึกในใจว่าถ้าได้สีชมพูมาล่ะก็...ถ้าเอามาใช้คงฮา...น่าดู
กลับมาแกะดูที่ห้องพักของโรงแรม พบว่าเป็นสีขาวทั้ง 2 เครื่อง...เฮ้อ..โชคดีไป

พี่โก้ ..ผมว่าลองใช้สีชมพูดูก็ไม่เลวนะครับ.. ;D ;D

142
Development / Re: แนวทางการปกปิดข้อมูล
« เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 21:16:20 PM »
ลองคิดดูเล่นๆครับ..
-ผู้ไม่เกี่ยวข้อง คือ ใครบ้าง??
-ยิ่งปิดมากยิ่งน่าสงสัยหรือเปล่า
-แยก HN ยิ่งเพิ่มปัญหาครับเพราะปัจจุบันเราเน้น CID และสิทธิการรักษาที่ถูกต้อง การแยก HN จะมีปัญหาตามมามากมาย
-ที่ปิดกันทุกวันนี้ปิดได้จริงหรือไม่? หรือเพียงปกปิดพอเป็นพิธีว่าคนที่ไม่เกี่ยวข้อง(คือใครอีกนั่นแหละ)ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จริงๆ


143
ข้อมูลตามภาพ หมายถึง ข้อมูลผู้ป่วยรายนี้มีชื่อในฐานข้อมูลประชากรรับผิดชอบเรียบร้อยแล้ว

แนะนำข้อมูลตัวเองหน่อยก็ดีนะครับ

144
สนใจครับ..จะสาธิตให้ชมที่ประชุมวิชาการด้วยใช่หรือเปล่า ;D

145
หลักฐานมันฟ้อง แต่ไม่รู้ใครหักหลังใคร
หลักฐานไม่เพียงพอครับ ขอดูสภาพผู้ร่วมวง ก่อน ขณะ และหลัง เพิ่มเติมครับ

ด้วยจรรยาบรรณของ Admin จึงมิอาจเปิดเผยผู้เข้าร่วมวงได้...เดี๋ยวงานเข้า จะโดน Admit แทน  ;D ;D

146
จอง 2 ห้อง 4 คน ที่ อัลไพน์ แต่โดนจับแยกไปที่ กัสซัน 2 คน เสียแผนหมดเลย  ;D ;D ;D
เท่าที่ดูจากรายชื่อ เทพ ทั้งหลายก็ไม่ได้อยู่รวมกันที่เดียว สงสัยกลัวว่าจะแสดงอิทธิฤทธิ์ มากเกินไป แต่เชื่อเถอะครับ สุดท้ายเขาเหล่านี้ก็จะมารวมตัวกันจนได้ พวกเราที่ไม่ใช่เทพได้ประโยชน์เต็มๆครับ

แหม..ถ้าอย่าง ปิ๊ก..ไม่เทพ งั้นมาอยู่ฝ่ายมารด้วยกันสิ..แบบว่ามารคอหอย อะไรทำนองนั้น.. ;D ;D

147
ตัดสินใจไม่ถูกเลยครับจะเข้าห้องไหนดีเนื้อหาดีๆทั้งนั้นเลยครับ   :D :D :D

นั่นนะสิ.. ;D ;D

148
ยินดีต้อนรับ / Re: HOSxP Version 3.53.12.5
« เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 23:05:28 PM »
กรณีทำแผลเช้า-เย็น ผมมองว่ามันเป็นเหตุผลในการดูแลรักษาตามวิชาชีพ ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากบาดแผลที่มีความจำเป็นต้องมาทำเช้าเย็น กรณีแบบนี้ผมให้ส่ง visit 1 ครั้งและลงหัตถการทำแผล จำนวน 2 ครั้งแทนครับ เพื่ือให้ได้ครอบคลุมในส่วนค่าใช้จ่ายแต่การมารับบริการก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับรายงานผลงานของพยาบาล ER บ้าง  แต่บวกลบคูณหารแล้ว เป็นกรณีที่พบไม่บ่อย และดูจะจัดการง่ายกว่าส่งตรวจ 2 ครั้ง

ผมแยกส่งตรวจ  เพราะยังต้องดูเรื่อง QC ทางการพยาบาล ของผู้บริการแต่ละคน...มาตรฐาน..การเสี่ยงติดเชื้อ..ผู้ลงมือบริการในแต่ละครั้งของวัน...เวลาที่มารับบริการจริง...ปัญหาคำร้องเรียนคุณภาพบริการและระยะเวลารอคอย...(ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิง เวลาเกิดเหตุได้ครับ..)

เป็นประเด็นที่ทีมผมเคยคุยกันเหมือนกัน..

149
ยินดีต้อนรับ / Re: HOSxP Version 3.53.12.5
« เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 22:56:34 PM »
กรณีทำแผลเช้า-เย็น ผมมองว่ามันเป็นเหตุผลในการดูแลรักษาตามวิชาชีพ ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากบาดแผลที่มีความจำเป็นต้องมาทำเช้าเย็น กรณีแบบนี้ผมให้ส่ง visit 1 ครั้งและลงหัตถการทำแผล จำนวน 2 ครั้งแทนครับ เพื่ือให้ได้ครอบคลุมในส่วนค่าใช้จ่ายแต่การมารับบริการก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับรายงานผลงานของพยาบาล ER บ้าง  แต่บวกลบคูณหารแล้ว เป็นกรณีที่พบไม่บ่อย และดูจะจัดการง่ายกว่าส่งตรวจ 2 ครั้ง

150
ผมทำอย่างนี้ครับ..
1.เมื่อข้อมูลใน Patient มี CID ซ้ำและทำ patient linkไว้แล้ว ผมจะยกเลิกการทำ patient link ก่อนอันดับแรก
2.แก้ไข รวม HN หรือตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่มีปัญหาตามวิธีการคล้ายๆกับที่คุณทำ
3.ถ้าข้อมูลไม่้เยอะจะแก้ไขเป็นรายๆไปครับ โดยเข้าไปที่บัญชี 1 ค้นหาชื่อผู้ป่วย แก้ไขและทำการลิงค์กับ patient โดยค้นจาก CID เป็นหลัก
4.ถ้าข้อมูลมีปริมาณมากจะ ใช้ DsHOSxP ช่วยโดย Tools ที่ใช้จะตรวจสอบก่อนว่าข้อมูลใน patient ที่จะ link กับ person มี CID ซ้ำหรือไม่ และให้กรองเฉพาะข้อมูลที่ CID ไม่ซ้ำ และทำ patient link ส่วน tools ตัวอื่นๆที่คุณถามน่าจะมีลักษณะการทำงานๆคล้ายกัน ต้องรอผู้ที่ใช้มาช่วยตอบอีกทีครับ

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 9