ปกติ เลข AN จะมีแบบที่มีเลขตึกกะไม่มีเลขตึก อีกส่วนที่คุมเลข An คือ ตาราง seria ใน record AN 

แก้ใน field serial_number ครับ

มี freeware หลายตัวที่น่าสนใจลองเข้าไปค้นใน thaiware.com ดูครับ
ตัวอย่าง ใช้ delphi 5 database เป็น access
http://www.thaiware.com/main/info.php?id=5432

แบบ web application
http://www.thaiware.com/main/info.php?id=8564

สงสัยมาช้าไปหน่อย 

เว็บคุณหมออาจจะต้องใช้ภาษาอาหรับ ด้วยนะครับ เพื่อให้แสดงผลได้ คุณหมอต้องไปใช้ UTF-8 )
แต่ทว่าตอนนี้ก็น่าจะเป็น TIS-620 ไปก่อนดีกว่ามั้ง ?

คงไม่ต้องใช้มังครับ แค่ไทยกะอังกฤษ ก็พอแล้ว

4. ถามคุณหมอ Daran ว่าการที่คุณหมอเลือก Joomla เพราะว่า ?
  4.1 สวย
  4.2 โปรแกรมได้มาตรฐาน
  4.3 สะดวกในการเอาไปใช้งานในรูปแบบ Intranet ของ รพ. ด้วย (Webboard, Gallery, ระบบข่าว, Email ภายใน ?) หรืออาจพัฒนาให้เป็น Extranet ไปเลย ง่ายสะดวก

ถูกทุกข้อครับ  จริงๆตัว CMS อื่นก็ได้ครับที่ "มีความเป็นกลาง พัฒนาง่าย สามารถแยกส่วนพัฒนาได้ เปิดกว้างให้สมาชิกช่วยกันแก้ไขได้ง่าย" และอยากได้ตัวที่คนใช้มากพอควร น่าจะช่วยกันพัฒนาได้มาก นอกจากนี้ยังใช้ database ได้หลายตัว

ปล. ยินดีมากที่จะได้รับความช่วยเหลือ ต่อไปคงเป็น Hosxp webservice แล้วครับ อยากเขียนโมดูลอะไร เขียนเผื่อไว้เลยครับ 

ครับผม  แต่กลัวมีปัญหาเรื่อง connect เวลา ดึงข้อมูลมาจาก table ใน joomla พร้อมกันกับ table ใน hosxp 
เดี๋ยวลองแกะ แก้ให้ connect แบบ tis-620 ไปเลยดีกว่าครับ ชัวร์กว่า

Mysql 5.0 ใช้ได้ไหมครับ ช่วยทำให้การใช้งานเร็วขึ้นมากไหม และมีข้อจำกัดอะไรบ้าง

วันก่อนหลังได้ปรึกษากะ อ.อ๊อด ก็ได้ข้อสรุปว่า web service version น่าจะเป็น component ของ CMS ที่มีอยู่แล้ว เพราะมีความเป็นกลาง พัฒนาง่าย สามารถแยกส่วนพัฒนาได้ เปิดกว้างให้สมาชิกช่วยกันแก้ไขได้ง่าย
ตกลงกันกว่าจะพัฒนาบน Joomla เนื่องจากใช้ AdoDB ทำให้ support หลาย database เหมือน hosxp
ผมเลือกใช้ Joomla ภาษาไทยของ http://www.joomlasiam.com เนื่องจากยังใช้ฐานข้อมูลแบบ tis-620 จึงใช้ร่วมกันได้กะ hosxp
ตอนนี้กำลังจัดการเรื่องระบบความปลอดภัย และระบบจัดการสมาชิก เพื่อให้ผู้ใช้ hosxp ไม่ต้อง login เข้าระบบขณะใช้ hosxp อยู่
ปัญหาคือ เนื่องจาก Joomla ตัวใหม่ (1.5) ไม่รองรับ tis-620 ใช้ utf-8 แทน ซึ่งเป็นมาตราฐานไปแล้ว โดยเฉพาะบน MySQL 5.0 ล่าสุด http://www.joomlasiam.com ก็ตัดสินเตรียมทิ้ง tis-620 ไปใช้ utf-8 แล้ว
เลยจะเรียนปรึกษา อ.ชัยพร อ.อ๊อด ว่าเอาไงดีครับ 

น่าจะมีโปรแกรม สำหรับ PCU แบบ เบ็ดเสร็จ อยู่หมัดในโปรแกรมเดียวไหมครับ 

DL ได้จากไหนครับ แล้วสามารถนำ ฐานข้อมูลเดิม เข้าไปได้รึเปล่าครับ

ไปที่ tools>system setting>nhso ติ๊กถูกที่ save offline content  save แล้ว login ใหม่
ลองกด nhso ดู จะโหลดสิทธิขึ้นมาในรูป text และ ถ้าทุกอย่างถูกต้อง ปุ่ม OFL จะแสดงให้กดได้
จะแสดงเป็นเวบเพจ อย่างรวดเร็ว

ที่โชว์เป็นผู้ป่วยรอ admit AN ที่แสดงเป็นแค่ reqeust AN ไม่ทราบว่า ทำ admit ราย An ซ้ำได้ไหม แล้ว AN เปลี่ยนไหม

น่าสนใจมากครับ ต้องเรียนบ้างแล้ว

อีักอันเป็นตัวอย่างที่ยากขึ้นหน่อย เป็น OPD Card ที่ให้ผู้ัใช้ คีย์ hn แบบไม่มีศูนย์(code ตรวจสอบเองว่า เป็น hn แบบกี่หลัก) แล้ว ผู้ใช้เลือกวันที่ที่ผู้ป่วยมา (เนื่องจาก code ยาว ขอ post แบบไฟล์ .cds ล่ะกัน)

เนื่องจากติดภารกิจด้านอื่น จึงจำใจต้องยกหน้าที่การดูแลระบบให้น้องไอทีดูแลเต็มตัว พบว่า ปัญหาสำคัญที่ผู้ดูระบบ(มือใหม่) พบก็คือการเขียนรายงาน โดยเฉพาะแบบที่ผู้ใช้ต้องใส่ค่า เช่น hn,an,vn เอง(ยกเว้นวันที่ที่ อ.เขียนระบบตรวจสอบอัตโนมัติอยู่แล้ว) ซึ่งต้องใช้ Pascal script ในการทำงาน

ขอสรุปหลักการการเขียน custom report สั้นๆ เพื่อความเข้าใจตรงกัน หลักๆมีสองแบบ คือ

1.   ใช้ sql script ล้วนๆ ข้อดีคือ ตรงไปตรงมา สามารถนำผลการ query ไปใช้ได้เลย ข้อเสีย แม้เราจะสามารถเชื่อมระหว่างหลายๆตารางได้ แต่ก็จะทำ query ซับซ้อน ทำงานช้า กำหนดเงื่อนไขได้จำกัด เนื่องจากเป็นการ query ในครั้งเดียว ที่สำคัญ(ซึ่งเป็นที่มาของบทความนี้)ก็คือ เราไม่สามารถรับค่าตัวแปรอย่างอิสระจากผู้ใช้

2.   ใช้ Pascal ดึงข้อมูลใส่ตาราง tempreport แล้ว ใช้  sql script ดึงจาก tempreport มาแสดงผลอีกที ข้อดี(มากมาย) ยืดหยุ่นมาก สามารถ query ไม่จำกัดจำนวนครั้งใน script สามารถรับค่าตัวแปรได้ ข้อเสียคือ เขียนยาก เพราะเป็นภาษา Pascal มีความยุ่งยากมาก เนื่องจากจะต้องใส่ทุกค่าที่ต้องการแสดงผลลงใน ตาราง temreport หากจำนวนค่าที่ต้องการแสดงผลมาก จำเป็นต้องใช้ record ใน tempreport มากกว่า 1 แถว การเขียน script ก็จะยุ่งยากขึ้นมาก และแต่ละ filed ใน tempreport ไม่ได้สื่อความหมาย ทำให้ใช้งานยาก ต้องจดจำ หรือกำหนดชื่อให้กับทุกค่า

บทความนี้ขอเสนอไอเดียการใช้ Pascal script แบบประยุกต์ ในรายงานที่จำเป็นต้องใช้ค่าที่รับมาจากผู้ใช้โดยมีข้อดี คือ
1.ไม่ต้องบันทึกข้อมูลทุกตัวที่ต้องการลงใน tempreport โดยใช้ Pascal script แต่ยังใช้ Pascal script เพื่อรับตัวแปรจากผู้ใช้งาน และบันทึกลง tempreport เฉพาะตัวแปรนี้ เพื่อใช้ในการ query ภายหลัง
2. เนื่องจากไม่ต้องบันทึกข้อมูลจำนวนมากลงใน tempreport ลดความยาวและซับซ้อนของ Pascal script
3. ดึงข้อมูลโดย sql script เป็นหลัก โดยเชื่อมกับตัวแปรที่บันทึกใน tempreport ทำให้ออกแบบรายงานง่ายขึ้น เนื่องจากตัวแปร แต่ละตัวยังคงแสดงชื่อ ตามชื่อ field
อย่างไรตาม ยังสามารถบันทึกข้อมูลอื่นๆ ได้เป็นอิสระจาก query หลัก โดยบันทึกลงใน filed ต่างๆของ tempreport ได้ตามปกติ

ขอสรุปรูปแบบของ Pascal script สำหรับผู้เริ่มต้น โดยสังเขป ซึ่งจะประกอบไปด้วยกระบวนการหลักๆ คือ
1) การประกาศฟังชั่นที่ใช้ใน script 
2)การประกาศตัวแปร
3) รับค่าจากผู้ใช้
4) หลังจากนั้น จัดการกับตัวแปร เช่น ตรวจสอบความถูกต้องของค่าที่ได้รับ จนได้ค่าที่ต้องการ
5) แล้วลบข้อมูลที่มีอยู่ตาราง tempreport ที่มี id ตามที่เรากำหนดไว้(คือชื่อตาราง)
 6) กำหนดค่าให้กับ field ที่เราต้องการ
7) สุดท้ายก็ update ตาราง tempreport เป็นอันเสร็จพิธี
ตัวอย่างแรกเป็นตัวอย่างง่ายๆ คือ รับการ hn จากผู้ใช้ โดยไม่ต้องใช้ศูนย์นำหน้า แล้วไปเติมศูนย์ให้เป็น 9 หลักใน script(เพื่อความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน) แล้วนำไปเชื่อมกับ ตาราง patient เพื่อดึงข้อมูลตาม hn ที่ต้องการ

หายไวๆครับ
กลับมาเป็นกำลังสำคัญของชาว hosxp 

ีืลอง uninstall hosxp ลบ fold ใน c:\program files\hosxp\ ทั้งหมด ลบ c:\windows\my.ini
ลงใหม่ครับ
ถ้าเป็นไปได้ ลง mysql ต่างหากก็ดีครับ จะได้ตรวจสอบง่า่ย

ต้องไปกำหนดกลุ่มให้กับผู้มีสิทธิ์ใช้งานระบบก่อน ครับ tools>ผู้มีสิทธิ์ใช้งานระบบ>กำหนดสิทธิ์ให้แต่ละกลุ่ม เช่น กลุ่มแพทย์ พยาบาล เภสัช (ถ้าเป็น lab ก็ ติ๊กที่ื lab staff ด้วย)
>เลือกให้บุคคลการแต่ละคนว่าอยู่กลุ่มไหน จึงค่อยไปตั้งค่าที่ lab แต่ละตัวที่ต้องการ
โทษทีครับที่ไม่มีรูปประกอบ ช่วงนี้ เน็ตที่ รพ.มีปัญหา upload ไฟล์ไม่ได้ 

ลองเปิด session ใน php.ini  ให้เท่ากับ 1

วันก่อนไๆด้คุยกับท่านผู้ตรวจฯ บอกว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ กระทรวงยังดันกันอยู่กับกระทรวงการคลัง เพราะบางรายการลดไปตั้ง 40% 

โทษทีครับ ลืม อธิบาย
select d1.*,v1.*,o1.*,s.*,t.blobtext,t.blobtext2,pe.image1, concat("รับคำสั่ง ",d2.name) as cmddoctor
from doctor_order_print d1
left outer join vn_stat v1 on v1.vn=d1.vn
left outer join ovst o1 on o1.vn=d1.vn
left outer join opdscreen s on s.vn = d1.vn
left outer join pe_image pe on pe.vn=d1.vn
left outer join tempreport t on t.name=d1.vn and t.reportname="DOCTOR-FORM"
left outer join doctor d2 on d2.code = o1.command_doctor
where d1.vn="491111121355" and d1.print_server="NIPON"

concat("รับคำสั่ง ",d2.name) คำสั่ง concat แค่เชื่อม "รับคำสั่ง" กับชื่อแพทย์ครับ

มีโอกาสผิดพลาดในการดึงข้อมูลสูงครับ โดยเฉพาะกรณีชื่อ นามสกุล ซ้ำกัน
ชื่อนามสกุล เป็น index ที่ไม่ดีนัก
ลองตรวจสอบ ด้วย code นี้ ถ้าไม่มีชื่อซ้ำเลยจะช่วยดึงให้ครับ
SELECT fname,count(fname) as cf,lname,count(lname) as cl FROM patient
GROUP BY fname,lname
HAVING cl>'1' AND cf>'1'

ใช้รูปแบบนี้ได้ครับ ในการแสดงเครื่องหมาย x
เช่น found_allergy ใน opdscreen
SELECT IF(found_allergy='Y','X','') AS drugallergy FROM opdscreen WHERE......

โดยจะแสดง X ถ้า found_allergy='Y' และจะแสดงว่าง ถ้าไม่เท่ากับ 'Y'

ไฟล์รายงาน export เป็น .cds ไฟล์ครับ ตูแว 
ส่วน .rtm เป็นแบบ form รายงานที่ไม่มี qeury

ไม่เห็นไฟล์แนบครับ