ส่งข้อมูลจากคำสั่ง show variables เข้ามาด้วยครับ

ทำไมถึงคิดว่ามีค่าที่ไม่เหมาะสมครับ และค่าที่คิดว่าไม่เหมาะสมคือ ?

ลอง link นี้ครับ http://hosxp.net/bms/HOSxP_Upgrade_3.56.8.2.exe

ยังเป็น Beta อยู่นะครับ (ใครเอาไปปล่อยเนี่ย) ต้องรอรุ่น B นะครับ

ส่ง Error เข้ามาด้วยครับ

ต้องดูที่ Log file ของ MySQL ครับ จะมี Error แจ้งว่ามีปัญหาอะไร

ผมฝากเอาตัวนี้ไปทับแล้วทดสอบดูใหม่ครับว่าหาย error หรือเปล่า
http://hosxp.net/bms/beta/Turbo_HOSxP_PCU_3.56.7.30d.rar

ลง linux ใหม่ แล้วใช้ BMSXtraBackup GUI ติดตั้งครับ แล้วค่อย Restore ข้อมูลเข้าไปใหม่

ระบบคิวเรียกผู้ป่วยไม่ควรเรียกเป็นชื่อครับ ควรจะเรียกเป็นลำดับ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ vaja ของ nectec ก็ได้ครับ

ในระบบการให้บริการของโรงพยาบาล การปกปิดชื่อของผู้ป่วยก็มีความสำคัญนะครับ

ใช่ครับ

Maria engine มีอยู่ใน mysql ที่ไปพร้อมกับ HOSxP / PCU Full Setup อยู่แล้วครับ (Stand alone localhost mysql) แต่ถ้าใช้ใน Environment  ที่มี concurrent connection เยอะๆ แนะนำให้ใช้ Innodb จะดีกว่าครับ

ผมแก้ไขให้แล้วครับใน 3.56.7.26

ช่วงนี้หายไปแล้วนะครับ

ก่อนจะไป Offline ทุกครั้ง แนะนำให้ Initial import  ใหม่ครับ

สงสัยจะเป็นที่ตัวบัตรเองแล้วล่ะครับ ผมจะสอบถามไปที่กระทรวงมหาดไทยดูให้นะครับ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรในบัตรรุ่นใหม่หรือเปล่า

เรื่องระบบ Activation นั้นผมจะให้ฝ่าย Web content ทำเป็นหน้าอธิบายไว้ครับ ว่าคืออะไร ทำไมต้อง Activate แต่โดยสรุปแล้วมันคือการให้สิทธิ (License) ในการใช้งานโปรแกรม HOSxP ครับ แต่เดิมเราไม่ได้มีการจำกัดสิทธิการนำไปใช้ ใครใคร่ใช้ก็ใช้ แต่หลังจากมีปัญหาเรื่องของการละเมิดเงื่อนไขการนำไปใช้ เราจึงเปลี่ยนรูปแบบการนำไปใช้ใหม่ที่มีการตรวจสอบก่อนว่าได้สิทธิในการใช้งานหรือไม่ ที่อยู่ในรูปแบบของการ Activation ครับ ในช่วงที่เปิดใช้ระบบ Activation ที่ผ่านมานั้นในกลุ่ม โรงพยาบาลที่ใช้ HOSxP มาก่อนแล้วนั้นจะไม่มีปัญหาเรื่องการซื้อ Package Activation เพราะมันก็เหมือนกับการซื้อ Package MA แบบหนึ่ง  แต่จะมีอีกกลุ่มที่มีปัญหาคือ กลุ่มที่มาใช้งาน  HOSxP หลังจากที่มีระบบ Activation  แล้ว  จากที่ผมอธิบายมานั้น ระบบ Activation นั้นถูกตั้งมาเพื่อป้องกันการละเมิดเงื่อนไขการนำไปใช้ และเงื่อนไขที่ผมไม่อยากให้ละเมิดก็คือการนำไปใช้เชิงการค้า แต่ช่วงหลังๆ มานี้ส่วนใหญ่ก็เกิดจาก รพ. เองที่อยากจะลดค่าใช้จ่ายของหน่วยงาน โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นๆ  ซึ่งในกลุ่ม รพ. ที่ไม่เคยใช้ HOSxP มาก่อน แล้วจะเปลี่ยนมาใช้ HOSxP ยังไงก็ต้องให้ทีม BMS ไปขึ้นระบบให้ครับ เพราะที่ผ่านมา มีหลาย รพ. ขึ้นระบบกันเองแล้วมาซื้อ Package Activation จาก BMS ในราคาถูก ซึ่งเราก็ช่วย รพ.ในกลุ่มนี้ด้วยการขอให้ซื้อเฉพาะ Package MA ก็ได้ เพราะถ้าเราจะไปบังคับให้ซื้อ Package ขึ้นระบบใหม่ มันก็ไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเหลือ รพ. ในกลุ่มนี้ไม่มากแล้ว แต่ถ้าอยากจะใช้ HOSxP ผมก็ขอให้ใช้ในรูปแบบที่ถูกต้องจะดีกว่าครับ

ส่วนการขึ้นระบบนั้น ผมคิดว่าน่าจะมี Page อธิบายเอาไว้แล้ว http://hosxp.net/joomla25/index.php/servicesmenu/hosxp-implement-services ถึงแม้ว่าคุณภาพงานในสายตาของ Admin หลายๆ ท่านอาจจะคิดว่าทีม BMS ไม่เก่ง ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะครับ เพราะทีม BMS เน้นการทำงานที่มุ่งเน้นความสำเร็จของการเปลี่ยนผ่านระบบจากระบบเก่ามาเป็นระบบใหม่ รวมถึงการเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ใช้งานใหม่ ถ้าไปเทียบกับผู้ดูแลระบบที่มีประสบการณ์โดยตรงกับระบบ HOSxP หลายปี อาจจะเทียบไม่ได้ แต่สิ่งที่เรามีก็คือความรับผิดชอบครับทั้งในระหว่างการทำงาน และทำงานเสร็จแล้ว  ส่วนการรับประกันนั้นโดยทั่วไปก็จะรับประกันงาน 1 ปี ครับ

ผมขอสรุปแนวทางให้ดังนี้นะครับ เรื่องการซื้อ Package Activation

1. กลุ่ม รพ.สต. ที่ใช้ HOSxP PCU มาก่อนแล้ว แล้วถูกยกระดับมาเป็น รพช. หากต้องการ Upgrade มาใช้ HOSxP สามารถซื้อ Package HOSxP Activation ได้เลย ไม่จำเป็นต้องซื้อ Package MA นะครับ แต่ถ้าไม่ได้ใช้ HOSxP PCU มาก่อน ควรจะซื้อ Package Implement ไปเลยจะดีกว่าครับ (แล้ว BMS จะทราบได้อย่าไรว่าใช้ HOSxP PCU มาก่อน เรื่องนี้คงต้องขอให้แจ้งตามจริงครับ ดีกว่ามาทราบทีหลัง หรือถ้าไม่มีงบประมาณ ก็แจ้งเข้ามาได้เหมือนกันครับ ผมจะพิจารณาเป็นแห่งๆ ไปครับ)

2. รพช. ขึ้นไป เงื่อนไขก็ตามที่น้องแน๊ตแจ้งเอาไว้ครับ

ฝากทดสอบนะครับ ก่อนจะ ปรับเป็น 3.56.6.4

http://hosxp.net/bms/HOSxP_Upgrade_3.56.4.22b.exe

ถ้ากำหนดชื่อถูกระบบก็หาค่ามาใส่ให้ถูกต้องนะครับ ลองค้นหารหัส HbA1c มาใส่ในช่องใหม่ครับ

ใช้ HOSxP version อะไรครับ

ได้คำตอบแล้วครับ เผื่อใครจะหาวิธีทำแบบนี้อยู่ครับ ให้ไว้เป็นแนวครับ
procedure TForm1.Button1Click(Sender: TObject);
VAR
num : integer ;
cid : string ;
count : integer ;
sex : string ;
begin
  num := 1 ;
  count := MyQuery1.RecordCount;
  ProgressBar1.Max := count;
  MyQuery1.First;

            while not MyQuery1.Eof do
            begin
              ProgressBar1.Position :=  ProgressBar1.Position + 1;
            //  Sleep(1);
              sex := myquery1.fieldbyname('sex').asstring;
              cid := myquery1.fieldbyname('cid').asstring;
            if sex = '1' then
              begin
              MyQuery2.Open;
              MyQuery2.Edit;
              MyQuery2.SQLUpdate.Text := 'Update person set lname = "1" where cid = '+'"'+cid+'"';
              MyQuery2.Post;
              end;
            if sex = '2' then
              begin
              MyQuery2.Open;
              MyQuery2.Edit;
              MyQuery2.SQLUpdate.Text := 'Update person set lname = "2" where cid = '+'"'+cid+'"';
              MyQuery2.Post;

              end;

              MyQuery1.Next;
            end;

end;

ไม่ควรเขียนแบบนี้ครับ ควรเขียนแบบนี้

myquery2.sql.text:='select * from patient where cid = '+QuotedStr(cid);
myquery2.open;
while not myquery2.eof do
begin
  myquery2.edit;
  if myquery2.fieldbyname('sex').asstring = '1' then
  myquery2.fieldbyname('lname').asstring:='1' else
  if myquery2.fieldbyname('sex').asstring = '2' then
  myquery2.fieldbyname('lname').asstring:='2' ;
  myquery2.post;
  myquery2.next;
end;
myquery2.close;

ตัว Package เวลา compile แล้วจะ Run ไม่ได้ครับ ต้องเอาไป Load ใช้ ซึ่งกรณีนี้ก็คือไปกำหนดให้ HOSxP XE โหลด จาก แฟ้ม developer_package_list.txt นะครับ

ต้อง Run แฟ้มชื่อ StartApplication ครับ

เดี๋ยวรอให้มีคนตามทันแล้วผมจะอธิบายต่อนะครับ 

สอบถามครับ เราสามารถ get connection มาใช้ใน dataset ที่เขียนใน unit ใหม่อย่างไรครับ

ไม่จำเป็นต้องใช้ connection ตรงๆ ครับ เรียกใช้คำสั่ง SQL เอาผลลัพท์มาเป็น data ของ ClientDataset ได้เลยครับ

ระบบ RTTI นี้ยังสามารถเข้าถึง Object Class อื่นๆ ที่มีอยู่ใน Application เดียวกันได้ด้วย อย่างเช่น การค้นหาชื่อผู้ป่วย ก็สามารถเรียกใช้งานได้แบบนี้

procedure THOSxPDeveloperTestForm.Button3Click(Sender: TObject);
var s:string;
begin
    s:=vartostr(ExecuteRTTIFunction('PatientSearchFormUnit.TPatientSearchForm','GetPatientSearchHNResultDialog',[]).AsVariant);
  if s<>'' then
     edit2.text:=s;
end;

คราวนี้มาดูตัวอย่างการเรียกใช้งานระบบการเชื่อมต่อกับ Database ที่อยู่ใน HOSxP XE บ้าง เราจะใช้ RTTI มาช่วยครับ ตัวอย่าง

procedure THOSxPDeveloperTestForm.Button1Click(Sender: TObject);
begin
  ClientDataset1.Data:=ExecuteRTTIFunction('BMSDBClientUtil.TBMSDBClient','hosxp_getdataset',['select * from '+edit1.Text]).AsVariant;
end;

หรือการ Update clientdataset ก็สามารถทำได้ดังนี้

procedure THOSxPDeveloperTestForm.Button2Click(Sender: TObject);
var
  tc: TClientDataSet;
  tc_string: string;
begin

  if ClientDataSet1.changecount > 0 then
  begin

    tc := TClientDataSet.Create(nil);
    tc.Data := ClientDataSet1.Delta;
    tc_string := ExecuteRTTIFunction('BMSDBClientUtil.TBMSDBClient',
      'ComponentToString', [tc]).AsString;

    ExecuteRTTIFunction('BMSDBClientUtil.TBMSDBClient', 'hosxp_updatedelta',
      [tc_string, 'select * from ' + Edit1.Text]);

    tc.Free;
    ClientDataSet1.mergechangelog;
  end;
end;