เกือบสองปีที่ได้อยู่ในชุมชนนี้ ก็ได้วิชามาจากพี่ๆหลายคน ตอนนี้เพิ่งเริ่มเรียนก็กำลังวุ่นๆอยู่ครับ (ว่าจะเอามา post หลายรอบแต่ก็เพลียหลับไป) ตอนนี้ได้โอกาส ถือว่าตอบแทนบ้างละกันครับ(...แบบทิ้งทวน แล้วมีโอกาสก็ว่ากันใหม่) โหลดกันไปลองดูก่อนนะครับ ถูกผิดอย่างไรก็ปรับแก้ไขกันได้ตามสะดวกครับ ส่วน capture ตัวรายงานรบกวนว่าโหลดไปลองกดดูกันนะครับ

   มีปัญหาที่ว่า หลังจากกำหนดยกเลิกใช้รายการยาแล้ว ปรกติหากเราพิมพ์สั่งยาเองในหน้าจอสั่งจ่ายเวชภัณฑ์ รายการยานั้นจะไม่ขึ้นให้ user key              แต่มีปัญหาตรงที่ หากรายการยานั้นเคยได้ถูกกำหนดเป็นสูตรยาไว้แล้ว พอกด . แล้วต่อด้วยสูตรยาที่มีรายการยาที่ยกเลิกไปแล้ว จะสามารถสั่งยาไปที่ห้องยาได้  --> ห้องยาก็งงว่าสั่งได้อย่างไร เนื่องจากยกเลิกใช้ไปแล้ว

แนวทางเสนอ
  อยากให้ป้องกันการสั่งยาที่ได้กำหนดยกเลิกใช้แล้ว จากการสั่งยาด้วยสูตรยา ด้วยครับ

อยากถามผู้รู้เรื่องการกำหนดสิทธิหลัก สิทธิรอง

ตัวอย่างนะครับ
1. คนไข้ พรบ หากเกินวงเงิน 15000 บาทแล้วจะกลับไปใช้สิทธิ UC ตามเดิม
2. คนไข้ในสิทธิ ปกส ฉุกเฉิน 72 ชั่วโมง แล้วหลังจาก 72 ชั่วโมงหากคนไข้ไม่กลับไปรพ. ปกส ต้นสังกัด เอง

ตามความต้องการของคนไข้ ก็จะต้องเปิดเป็นสิทธิ ชำระเงินเอง เพราะต้องทำแยกบิลล์เพื่อไปทำเบิกครับ โดยจะใช้เทคนิคว่า ใส่วงเงินให้กับสิทธิ ปกส ฉุกเฉิน 72 ชั่วโมงเท่ากับค่าใช้จ่าย 72 ชั่วโมงแรก แล้วหลังจากนั้น ตัดอัตโนมัติเป็น ชำระเงิน(หากจะทำ discharge แล้ว admit มาใหม่เป็นสิทธิใหม่ก็ไม่สะดวก ผู้ทำงานครับ เพราะต้องทำ Discharge และก็ต้องทำ admit ใหม่ เอกสาร admit ที่ต้อง complete ค่อนข้างเยอะครับ)

แต่หลังจากลองทำแล้วก็งงๆ และพบปัญหาครับ ดูตามรูปนะครับ จะสมมุติขึ้นมาว่า เป็นอย่างกรณีข้อ 1 โดยกำหนดให้วงเงินของ พรบ เท่ากับ 100 บาท แล้วสิทธิรองเป็น ชำระเงิน ดังรูป 2 ครับ

จากนั้นลองพิมพ์สั่งยาแล้วส่งการเงิน เรียกชื่อคนไข้ visit นั้นขึ้นมาแล้ว ดังรูปจะมีให้เลือก clear สิทธิหลักหรือรอง ดังรูปที่ 3

แต่พอไปดูในรูปที่ 4 พบว่า paidst_name ไม่ตรงครับ ของสิทธิ ชำระเงินเอง ต้องเป็น ชำระเงินเองเบิกได้ ดังที่ set ไว้ใน main setting ดังรูปที่ 1 ก็เลยงงๆ ครับ


ฝากผู้รู้ด้วยครับว่าต้อง set เพิ่มตรงไหนหรือเปล่าครับ หากเป็นปัญหาจริง รบกวนอาจารย์ Manoi ด้วยครับ

ปล. เห็นด้วยกับกระทู้ http://hosxp.net/index.php?option=com_smf&Itemid=28&topic=2904.0 กับพี่ navyNP  ที่ว่า ถ้ากำหนด เวลาในการตัดเป็นสิทธิรองได้ นอกจากวงเงิน น่าจะเป็นประโยชน์ อย่างในตัวอย่างที่ข้อที่ 2 ครับ

   ได้ลองทำตามรูปที่ 1 ครับ คือกดที่ห้องฉุกเฉิน จะปรากฏ "รายการ ER" จากนั้นสั่งหัตถการฝาก ER ทำครับ
   มารูปที่สอง ที่หน้าจอตรวจของ ER กดที่ชื่อคนไข้คนนั้น ก็ขึ้นดังรูปที่ 2 ครับ กด OK ไป ได้ตามรูปที่ 3 ซึ่งมีรายการหัตถการที่แพทย์สั่งมาแล้ว ใส่ให้เรียบร้อยดังรูปในกรอบสี่เหลี่ยมแดง
   แต่พอกดตรง "ลงค่ารักษา & สั่งยา" ไม่มีรายการค่าใช้จ่าย ที่ link ไว้กับหัตถการที่สั่งนั้นๆเลยครับ ทำให้ต้องไป key เพิ่มอีกครั้ง

   ไม่รู้ว่าขั้นตอนตรงไหนผิดหรือว่า ต้องไป set เพิ่มเติมอะไรหรือเปล่าครับ

อยากถามผู้รู้ครับว่า
ในระบบห้องฉุกเฉิน โปรแกรมมีการ lebel ว่าเป็น เวรเช้า บ่าย หรือ ดึก โดยใช้เวลาอะไรมาเป็นตัวตัดสินครับ

ผมเช็คดู มีบางส่วนที่ เปิดบัตร ห้าโมงเย็น แต่ระบบ lebel เป็น เวรเช้าครับ คือ er_period = 1

คือว่า ลองตรวจสอบผล REP-OP 18 แฟ้มครับ

   พบว่าที่ระบบห้องตรวจทันตกรรม หากผู้ใช้งาน key icd10 ลงไปเองเลย เช่นตัวอย่างในรูป k081 มันจะ record k เป็น k ตัวเล็กตามนั้นเลย ไม่เหมือนที่ห้องตรวจแพทย์ครับ ที่มันจะเปลี่ยนตัวเล็กเป็นตัวใหญ่ให้
   (เข้าใจว่า) ดังนั้น เวลาตรวจสอบจะผิด เนื่องจากว่า ตัวแรกของ field icd10 ต้องเป็น ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่ครับ

   รบกวนช่วยกัน comment ว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ เนื่องจากดูในโครงสร้างตาราง DIAG    field DIAGCODE บอกว่า "รหัสโรค ICD_10 TM" ไม่ได้บอกรายละเอียดไว้เกี่ยวกับเรื่องตัวเล็กตัวใหญ่ แต่สังเกตุว่าข้อมูลที่ไม่ผ่านมันเป็นตัวเล็กหนะครับ

   ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หากห้องตรวจทันตกรรม จะลง diag ลง รหัส icd10 เองเลยโดยไม่ใช้ diag แล้วเปลี่ยนเป้น ตัวพิมพ์ใหญ่ให้อัตโนมัติ น่าจะลดโอกาส error ได้ครับ

ขอบคุณครับ

สืบเนื่องจากกำลังดูเรื่องการเงินอยู่ครับ
   คือสังเกตุเห็นว่า หากคนไข้สิทธิ ชำระเงินเอง สมมติว่า ครั้งนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100 บาท

- หากทำค้างชำระไว้ไม่ถึง 100 บาทจะไม่มีปัญหานี้
- แต่หากทำค้างชำระเต็มจำนวน 100 บาท เดิมช่อง income(ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดทั้งลูกหนี้และชำระเงินเอง) ที่เท่ากับ 100 บาท จะกลายเป็น 200 บาททันที กลายเป็นว่าจำนวนเงินที่คนไข้ต้องจ่ายจะเป็น 200 บาททันที หลังจากนั้นถ้าลองเข้าไปที่ห้องชำระเงินและเรียก vn นั้นมา จะถามว่าจะลงค้าง 100 บาทหรือไม่ ตอบว่าตกลงไป แล้วหน้าจอชำระเงินจะมาให้เรา clear ซึ่งรายการทั้งหมดที่แสดงออกมาก็ถูกต้องคือ รวมกันได้ 100 บาท ลองบันทึกรับเงินเต็มจำนวนไป(100 บาท) แล้วกลับไปดู field income ใน vn_stat ใหม่ พบว่าตัวเลขกลับมาเป็น 100 บาทตามเดิม

ปัญหา คือ
ถ้าทำค้างเต็มจำนวนไป จนกว่าที่คนไข้จะมาจ่ายตังค์ที่ค้างไว้ ช่อง income จะผิดครับ ถ้ามีการเอาไปคำนวณก็จะผิดครับ รบกวนช่วยทดสอบด้วยครับ ขอบคุณครับ

ปล. ผมใช้ version 3.53.5.27 ครับ

แจกรายงานรายชื่อผู้ป่วย refer ตามวันที่ครับ

   เท่าที่ดูน่าจะ OK นะครับ แต่ติดนิดนึงตรงที่ว่า ...
   ปัญหา คือ (ในกรอบสีแดงในรูป) ชื่อ diagnosis บางอันยาวเกิน ทำให้บังช่องถัดไป ผมก็เลยจำกัดความยาวในการแสดงผล (คือไม่เลือก autosize ให้ DBtext) แต่ผลก็คือ ทำให้ชื่อ diagnosis มาไม่หมด 
   อยากรู้ว่า มีวิธีไหนบ้างที่เราสามารถกำหนดความกว้างของ DBtext ให้คงที่ แต่พอตัวอักษรมันล้นตามความกว้าง แล้วให้มันขึ้นบรรทัดใหม่เองครับ

หากใครรู้ช่วยแนะหน่อยครับ

ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัว report หรือว่าที่อะไร ฝากพี่ๆช่วย test หน่อยครับ (แต่ผมได้ set ค่ายากลับบ้านใน main setting แล้วนะครับว่า ค่ายากลับบ้านตรงกับ income รหัสอะไร)

ปัญหาก็คือว่า ในหมวดค่ายากลับบ้าน นั้นรวมตัวเงินผิด
จึงได้ลองตรวจสอบดู พบว่า หมวดค่ายากลับบ้าน ที่แสดงใน report 'IN-PATIENT ใบงบหน้าค่ารักษาพยาบาล' นั้นเกิดจากการรวมเอา ค่ายาที่อยู่ในรายการ TRx (ที่โอนมาจาก OPD ก่อน admit) กับ Hme ซึ่งการเงินรพ. บอกว่า ตามระเบียบแล้ว ค่ายากลับบ้านต้องเป็น Hme อย่างเดียว ส่วนรายการยาที่อยู่ใน TRx นั้นถือว่าเป็น ค่ายาที่ใช้ในรพ.ครับ

ลองไปดูใน report ตัวดังกล่าว มันมี script ครับ อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง อ่านไปอ่านมา ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า คือตัว report จะไปดึง field rcptamt ที่เป็น record หมวดค่ายากลับบ้านของ an นั้นๆในตาราง incith แล้วเอามารวมกัน ถ้าเป็นเช่นนี้จริงแล้ว ตัวเลขใน field rcptamt ของหมวดค่ายากลับบ้านที่ๆซึ่งเอา TRx กับ HMe มารวมกัน นั้นมาจากไหน ผมหาไม่เจอจริงๆ หรือว่าเราต้องแก้ที่ตัวรายงานครับ ช่วยทีครับ