แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - กรรมกรไอที

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 12
251
Delphi / Pascal / Re: อยากได้ component ครับ
« เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 23:45:08 PM »
สนใจ .NET ไหมครับ  ;D ;D ;D
Infragistic, ComponentOne, DevForce, DevExpress, Telerik

252
นอกเรื่อง / Re: SQLserver + MySQL
« เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 19:23:25 PM »
ลงได้แต่ต้องเช็คเรื่อง conflig นะครับ ผมเคยเจอปัญหาสมัย sql server 2000 กับ mysql 4 ลงแล้วเรื่อง performance ตกไปเยอะครับ ก็งงเหมือนกันครับ เวอร์ชั่นหลัง ๆ ก็ไม่ได้ลองเลยครับ

253
นอกเรื่อง / แจกเกมส์ค่าย GameHouse ครับ
« เมื่อ: กันยายน 25, 2010, 09:29:35 AM »
http://www.mediafire.com/?sharekey=2dbbfe42a7313b187172638919447f8b67d665db4e85e3cd

สรรพคุณ สร้างความบันเทิงใจ ช่วยลดอาการ office sick
วิธีใช้ ใช้เมื่อมีอาการ ทุก ๆ 4 - 6 ชม.
ข้อควรระวัง การใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดอาการติด และอาจทำให้เกิดอาการเสียงานเสียการ หรืออาการตกงานได้
อาการอันไม่พึ่งประสงค์ ทำให้เวลาทำงานลดลง, อาจเกิดอาการเครียดเนื่องจากงานไม่เสร็จ
วิธีแก้พิษเบื้องต้น ปิดเครื่องคอม, เดินออกไปสูดลมหายใจนอกห้อง แล้วนึกถึงเสียงด่าของผอ.เวลาระบบล่ม

 ;D ;D ;D

254
นอกเรื่อง / Threat Management Gateway 2010 (ISA Server) vs BlueCoat ProxySG
« เมื่อ: กันยายน 18, 2010, 19:34:54 PM »
ไปเจอมาจาก www.izitcer.com น่าสนใจเลยหยิบมาให้อ่านครับ

TMG 2010 หรือ ISA Server 2010 นั้นเป็นซอฟท์แวร์ประเภท Security Gateway ที่ผมเขียนอย่างนี้ก็เพราะว่า TMG 2010 นั้นไม่ได้เป็นแค่ Proxy เหมือนกับบรรพบุรุษอย่าง Microsoft Proxy Server อีกแล้ว แต่ TMG 2010 ในปัจจุบันมีทั้ง Firewall, VPN, IPS, Anti-Spam, Content Inspection, URL Filtering, Load Balance และอื่นๆอีกมากมาย ด้วยเหตุนี้เองจึงจัดว่า TMG 2010 เป็น Security Gateway ไปเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ หากนำฟีเจอร์ทั้งหมดของ TMG 2010 ไปเปรียบเทียบกับอุปกรณ์หรือซอฟท์แวร์ที่ทำหน้าที่ในด้านนั้นๆเพียงอย่างเดียว อย่างเช่น เปรียบเทียบ IPS ของ TMG 2010 กับ IPS จาก TippingPoint หรือเปรียบเทียบ Antispam ของ TMG 2010 กับ Antispam จาก Ironport (Cisco ซื้อไปแล้ว) ก็คงต้องบอกว่าคงจะสู้ไม่ได้

แต่ข้อดีของ TMG 2010 คือมีให้ใช้แทบจะครบทุกฟีเจอร์ และหากเราไม่ได้ต้องการตั้งค่าใดๆที่ต้องวางระบบแบบพิสดารพันลึกแล้ว TMG 2010 ก็คงจะตอบโจทย์ได้แน่ๆ เพราะในหลายๆครั้ง ผมก็พบว่าการใช้ Appliance ราคาแพงอาจจะไม่ได้จำเป็นเสมอไป เพราะเราอาจจะใช้แค่ฟีเจอร์ไม่กี่อย่าง ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ในบางครั้งก็มีอยู่ใน Appliance ที่ราคาต่ำกว่า หรือในซอฟท์แวร์ OpenSource ด้วยซ้ำไป

สำหรับผู้ที่กังวลในเรื่องของ Security นั้นผมขอบอกซักนิดเลยว่าหากท่านมีการทำ OS Hardening ที่ดีแล้ว การโจมตีต่างๆแทบจะไม่ระคาย OS ของท่านเลย แต่อน่างไรก็ดีการทำ OS Hardening ก็อาจจะต้องใช้ประสบการณ์และความรู้เพิ่มเติมพอสมควร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ต้องพยายามศึกษาและทดลองกันครับ

หลังจากที่ได้มีโอกาสจับ BlueCoat มาซักระยะหนึ่งแล้ว ผมก็นึกอยากเขียนบทความเปรียบเทียบนี้ขึ้นมาทันทีเลย เพราะจะว่าไปแล้วมีหลายๆท่านสงสัยเกี่ยวกับทั้งสองตัวนี้เหมือนกัน พี่ๆเซลล์ในบริษัทผมเองก็เคยสงสัยว่าทั้งสองตัวนี้จะเสนออะไรให้ลูกค้าดี หรือจะสู้กับอีกฝ่ายยังไงดี วันนี้เลยขอเล่าให้ฟังสักเล็กน้อยครับ เริ่มกันเลยดีกว่าครับ

1.TMG 2010 (ISA) เป็นซอฟท์แวร์ด้าน Security ที่มีฟีเจอร์ Proxy มาให้ด้วย ซึ่งจุดนี้หากผู้อ่านทำงานด้านนี้มานานก็น่าจะพอนึกออกว่าจริงๆแล้ว TMG หรือ ISA พัฒนามาจาก Microsoft Proxy Server ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทำอะไร  แต่ต่อมาไมโครซอฟท์ปรับปรุงซะจนกลายเป็น Security Software ไปซะแล้ว ยิ่งใน TMG 2010 มีอะไรต่อมิอะไรเพิ่มขึ้นอีกมากจนเรียกได้ว่าเป็น UTM (Unified Threat Management) คือกันได้ทุกอย่างแล้ว
2.BlueCoat จริงๆแล้วมีด้วยกันหลายซีรีย์ สำหรับในส่วนของพร็อกซีจะเรียกว่า ProxySG ซึ่งเป็นฮาร์โแวร์ที่ทำงานด้าน Proxy แบบแท้ๆ แต่ก็แอบมีฟีเจอร์ดีๆที่เกี่ยวกับ Security อยู่เหมือนกันเช่น URL Filtering, Antivirus ซึ่งในส่วนของ Antivirus จะต้องซื้อฮาร์ดแวร์ในซีรีย์ AV เข้ามาอีกด้วยจึงจะใช้ได้
3.เปรียบ เทียบกันในด้าน Proxy แล้ว ผมเห็นว่า BlueCoat ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะรองรับโปรโตคอลได้หลากหลายมาก (ขนาด CIFS ยังมีให้เซตเลย) การปรับแต่ง Policy ก็ทำได้อย่างหลากหลาย คอนเซปต์การใช้งาน Policy ในรูปแบบ Layer and Rule ก็ถือว่าน่าสนใจดี เรียกว่าในส่วนของ Proxy เลือก BlueCoat ได้เลย
4.ในส่วนของ URL Filteringตรงนี้ TMG 2010 เพิ่มจะเริ่มพัฒนาฐานข้อมูลของตนเอง ดังนั้นความถูกต้องและแม่นยำ รวมทั้งความครบถ้วจะเป็นรองค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามหากเรามีการใช้ Websense ร่วมด้วยแล้ว จุดอ่อนที่ว่าก็แทบจะไม่เป็นจุดอ่อนเลย เพราะ Websense ก็มีฐานข้อมูลใหญ่พอๆกับ BlueCoat และจริงๆแล้ว Websense ก็ใช้กับ BlueCoat ได้เหมือนกัน
5.การรองรับกับอุปกรณ์อื่น ตรงจุดนี้ BlueCoat ดีกว่า เพราะมี ICAP Protocol ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆได้มากมาย เช่น Facetime นอกจากนี้รองรับ WCCP ทำให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Redirection Device ได้อีกด้วย
6.TMG 2010 มีฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัยมากมาย เช่น Firewall, IPS, Web Content Inspection, Antispam, SSL Inspection ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถใช้ได้เลยโดยไม่ต้องซื้อฮาร์โแวร์หรือ license เพิ่มเติม ในขณะที่ BlueCoat ต้องซื้อ ProxyAV มาเพิ่ม
7.TMG 2010 มี VPN  ให้ในตัว ในขณะที่ BlueCoat ต้องซื้อ ProxyRA
8.TMG 2010 มี Link Load Balance ให้ด้วย แม้จะทำได้แค่ 2 ลิงค์ แต่ก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจทีเดียว เพราะโดยปกติ Load Balance ที่ใช้งานได้สเถียรๆอย่าง F5 หรือ LinkProof มีราคาค่อนข้างสูงทีเดียว
9.TMG 2010 เป็นซอฟท์แวร์ จึงมีความยืดหยุ่นมากกว่า คือสามารถเปลี่ยนไปใช้ฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่าเดิมได้หากผู้ใช้มากขึ้น ส่วน BlueCoat อาจจะต้องซื้อใหม่ยกชุด (ซึ่งแพงพอสมควร)
จากที่สรุป มาให้เห็นนี้ก็พอจะเห็นกันแล้วนะครับว่า หากเราต้องการ Proxy เพียงอย่างเดียว คงต้องเลือก BlueCoat ไป แต่หากต้องการอะไรซักอย่างที่มีให้ครบทุกอย่าง Microsoft Forefront Threat Management Gateway 2010 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวครับ



255
นอกเรื่อง / Re: Microsoft Office 2010 Thai Edition
« เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 12:05:51 PM »
ปล.อีกเรื่อง สิ่งที่ผมจะรอดูในเวอร์ชั่นถัดไปคือ network social บน sharepoint เพราะผมก็ยังเชื่อลึก ๆ ว่าอีกหน่อย network social technology จะมาแทนที่การสื่อสารทุกรูปแบบแม้กระทั่ง email
ปล.อีกเรื่อง ขอโทษที่ไม่สามารถแบ่งปันให้ได้ เพราะเกรงใจเว็บมาสเตอร์ครับ ของมันแรงครับ ทำใจแจกลำบาก  ;D

256
นอกเรื่อง / Re: Microsoft Office 2010 Thai Edition
« เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 12:03:47 PM »
;D ;D ;D ถ้าพูดถึงเรื่องการใช้งานผมชอบ 2010 มากกว่า 2003, 2007 นะครับ มีอะไรเพิ่มเติมมาอีกหลายอย่างที่น่าสนใจทีเดียวครับ อยากรู้ต้องลองเอง ใหม่ ๆ อาจหาเมนูบางอย่างไม่เจอเพราะมันไม่ได้อยู่ที่เดียวกับ 2003, 2007 ต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยไม่นานก็คุ้นครับ ;D ;D ;D
แน่นอนอยู่แล้วครับ การออกเวอร์ชั่นใหม่ก็ต้องมีฟีเจอร์อะไรใหม่ ๆ ออกมาช่วยเหลือผู้ใช้ให้ใช้งานง่ายขึ้น ในเวอร์ชั่นนี้มีการปรับริบบอนเมนูใหม่ แต่โดนส่วนตัวชอบรูปแบบริบบอนเมนูของ 2007 มากกว่า ส่วนฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในเวอร์ชั่น 2010 หลัก ๆ คงเป็นเมนูแบบใหม่, การเข้าถึงงานแบบ web application (ผ่านบริการ windows lives), เวอร์ชั่น 64 บิตซึ่งออกมาสนับสนุนการใช้งานบน os 64 บิต , การเข้าถึงและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ smart phone ด้วย office 2010 mobile ซึ่้งอนุญาตให้ผู้ใช้ซึ่งใช้เวอร์ชั่น 2007 (บน Windows Mobile 6.1/6.5) อัพเกรดได้ฟรี, จุดเด่นของเวอร์ชั่นนี้ผมมองไปที่ 2 ตัว คือ excel และ sharepoint workspace สำหรับตัว excel ที่ผมให้ความสนใจเพราะอย่างที่ผมเคยบอกครับ ทุกวันนี้เรื่องของ data analyse / data mining มาแรงมาก เพราะมันคือผลลัพธ์ตัวจริงของการทำระบบบ้อมูลมากกว่าการทำรายงานทั่ว ๆ ไปที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้ จะเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ BI ก็พาเหรดออกมากันอย่างมากมาย ในช่วงหลายปีนี้ไม่มี DBMS ตัวไหนที่ไม่เตรียมฟีเจอร์หรือไม่มีผลิตภัณฑ์เพื่อ BI และ excel 2010 ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่มาต่อยอดเรื่องนี้ให้กับ MS SQL Server เราจะสังเกตุได้เลยว่า MS SQL Server 2008 R2 มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ออกมาเชื่อมกับ powerpivot table ของ excel 2010 และสำหรับ sharepoint workspace สิ่งที่ผมสนใจ เพราะผมมองมันคือ CMS แต่มีจุดเด่นมากกว่า CMS ทั่วไป ช่วยให้ผู้ใช้อัพเดทข้อมูลได้ง่ายและเร็ว ผมนั่งคุยกับ presale ของบ.indigy ซึ่งติดตั้งระบบ sharepoint ให้ธนาคารกสิกรไทย เขานำเสนอให้เห็นว่าทั้งเว็บ inter และ intra ของกสิกรไทยใช้เทคโนโลยี sharepoint ซึ่งทำให้กลุ่มการตลาดสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบรายวันได้อย่างสบาย ซึ่งผมเองก็มองว่านั้นเป็นเพราะจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ms คือพยายามทำ interface ให้ง่าย ๆ
ปล.ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะเปลี่ยนมาใช้ office 2010 แล้วหลังจากที่รอเวอร์ชั่นไทยมาหลายเดือน  ;D

257
นอกเรื่อง / Re: Microsoft Office 2010 Thai Edition
« เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 09:48:19 AM »
ต่อนะครับ  :)

258
นอกเรื่อง / Microsoft Office 2010 Thai Edition
« เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 09:46:34 AM »
พึ่งได้มาสด ๆ ร้อน ๆ ครับ เลยมาให้สมาชิกดู คิดว่าหลายคนคงได้มาแล้ว ตัวนี้เป็น Thai Edition คือมีเมนูไทยและระบบตรวจสอบคำภาษาไทย ซึ่งถ้าใครได้ใช้ Office 2010 ก่อนหน้านี้ที่เป็นภาษาอังกฤษ เมื่อเทียบกันแล้วไม่มีความแตกต่างใดมากครับ ยกเว้น เรื่องของเมนู, การตัดคำ, การตรวจสอบตัวสะกด หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับภาษา ลองดูจากภาพตัวอย่างนะครับ ...

259
นอกเรื่อง / Re: Lead Line กับ ADSL
« เมื่อ: กันยายน 08, 2010, 10:08:46 AM »
ผมก็อยากได้ ครับ lead line อยากได้มานานแล้วละ ตั้งแต่สมัยมาฝึกงาน  ;D
แต่ก็เสียดายราคาสูงไป... เพียงแค่ adsl user ก็ยังใช้กันไม่คุ้มเลย เว็บ รพ. เองยังไม่มีใครเข้า (ต้องบังคับ redirec มาหน้าแรกที่เปิด internet  :D)

ที่อยากได้ lead line ก็เพื่อความเสถียร ไม่หลุดบ่อย เวลา ลมแรง แดดจ้า ฟ้าครึ้ม (ของเดิมที่ใช้เป็นอย่างนี้ละ)
และ adsl ที่ใช้อยู่ ชอบหลุด หายไปนานๆ ทุก เสาร์-อาทิตย์ (แปลก แต่จริง ผมเองก็ไม่ได้อยู่เวร)

ผอ. ท่านก็อยากได้ แต่พอเห็นราคาแล้ว ก็สู้ไม่ไหว
ลองถาม CAT ดูครับ ว่ามี FB หรือเปล่า เอาแบบ 10/1 ราคายังไม่ร้อนแรงมากเท่าไร

260
นอกเรื่อง / Re: Lead Line กับ ADSL
« เมื่อ: กันยายน 07, 2010, 01:21:35 AM »
ปล.ลืมบอกไปอย่าง อีกเหตุผลหนึ่งที่ LL ดูเสถียรกว่า ADSL เพราะ LL มีการทำ Level of Service Agreement ไว้ ซึ่ง ISP ต้องประกันว่าถ้าการเชื่อมต่อล่ม จะต้องกู้กลับภายในกี่ชม. ในขณะที่ ADSL มันไม่มี ซึ่งการทำสัญญาดังกล่าวก็ต้องตามมาด้วยค่าใช้จ่ายซึ่งบวกลงในค่าเช่าแล้ว ... ลองดูว่าเราซีเรียสมากไหมนะครับ

261
นอกเรื่อง / Re: Lead Line กับ ADSL
« เมื่อ: กันยายน 07, 2010, 01:18:23 AM »
ผมอยากให้จขกท.ลองดูความต้องการใช้งานที่แท้จริงของรพ.ครับ LL ดีครับ แต่บางครั้ง LL อาจไม่ตอบโจทย์ได้ดีเท่า ADSL คงต้องดูว่าความต้องการใช้งานอยู่ฝั่งขา dl หรือ ul ว่าข้างไหนสำคัญและจำเป็นมาก เรื่องเสถียรภาพ ที่ LL ฟังว่าเสถียรกว่าก็เพราะมันเป็นการลากสายตรงเข้ามา ข้อต่อน้อยมาก ยิ่งถ้าเป็นสาย FC ยิ่งเวิร์คสุด ๆ (แต่ราคาก็เอาเรื่องสุด ๆ เหมือนกัน) เมื่อเทียบกับ ADSL บางที่กว่าสายสัญญาณจะต่อมาถึงห้องเซิร์ฟเวอร์ ไม่รู้เจอมากี่ทอด ยังพอเจอผ่านตู้สาขาอีก แบบนี้เลิกคุยเลยครับ ลองไล่ดูซิครับว่าถ้าลดข้อต่อให้น้อยที่สุด จะช่วยได้ไหม ลองดูคุณภาพสายด้วยว่าเก่าใหม่แค่ไหน  เรื่องความเร็ว แน่นอนครับ LL ไม่ต้องแชร์กับใคร แต่เฉพาะใน node หรือเต็มที่ในประเทศครับ ส่วนต่างประเทศยังไงก็ต้องไปแชร์กับลูกค้าคนอื่นที่ gateway อยู่ดี อยู่ที่ gateway ของ ISP ที่เราใช้บริการจะใหญ่โตและมีช่องทางดีแค่ไหน ในขณะที่ ADSL มันต้องแชร์ภายใน node เดียวกัน แต่ถึงกระนั้น LL 1Mb อาจไม่เร็วไปกว่า ADSL 4Mb Fix IP ซึ่งเป็นเรทของกลุ่มองค์กรครับ แต่ราคาก็อย่างที่รู้ครับ ต่างกันเป็นโยชน์ สุดท้ายที่ชอบพูดกันจังคือเรื่องความปลอดภัย ผมคนหนึ่งที่ยืนยันว่าการใช้ LL ไม่ได้ช่วยให้เรารอดพ้นการโดน Hack หรือโดนโจมตี เพราะสุดท้ายเราต้องมี Public IP ไว้ให้ชาวบ้านเห็น ดังนั้นเราก็ต้องตกเป็นเป้าได้ตลอดเวลา เพียงแต่ทุกวันนี้มันมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า MPLS มาช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างสาขาให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นแต่มันจะเวิร์คก็ต่อเมื่อต้องเช่า MPLS ทั้ง 2 ข้าง ดังนั้นเอาเงินไปลงทุนกับระบบรักษาความปลอดภัยดีกว่าครับ ดังนั้นถ้าผมเป็นจขกท.ทำงานให้กับรพ.ซึ่งเงินลงทุนอาจไม่มากมายอะไร (ผมตั้งสมมติฐานไว้ก่อนนะครับ) การจะไปเช่า LL เดือนละหมื่นคงเป็นเรื่องเกินใหญ่เรื่องโต (ขนาดรพ.ทั่วไปใหญ่ ๆ จะเช่า LL ผอ.ยังขอคิดเลยครับ) ผมเลือก ADSL แบบ FixIP สัก 4 - 8 ครับ แต่อาจจะใช้งานสัก 2 เส้น เอาแบบข้ามค่ายนะครับ เวลาจด domain ก็ ref ทั้ง 2 เลขไปเลย ให้ตัวหนึ่งเป็น prim อีกตัวเป็น sec เวลาจะเชื่อมต่อก็เรียกผ่าน domain เป็นหลัก ส่วนกลุ่มสอ. ถ้าต้องการแบบซีเรียสจริง ๆ ก็อาจจะเช่า ADSL แบบ FixIP อีกสักเส้นหนึ่งให้เขาทำ VPN เข้ามา แนะนำลองใช้ linksys RV042 ครับ เวิร์คนะ ผมลองใช้ให้ลูกค้าเชื่อมรับส่งข้อมูลระหว่างสาขาก็ใช้ได้ดีครับ

262
เห็นหัวข้อแล้วตกใจ  :o จขกท.ตกศูนย์ไปตัวหนึ่งเปล่า ... ลองดูเซิร์ฟเวอร์แบร์โบนตัวนี้นะคับ http://www.quickserv.co.th/talk/index.php?showtopic=192

263
นอกเรื่อง / Re: ประกาศผล Thailand ICT Awards หมวด E health Applications
« เมื่อ: สิงหาคม 23, 2010, 23:35:51 PM »
ยินดีกับทีมงาน HoSXP ครับ
เผื่อใครอยากรู้ Winner คือ iPP โดย Phuket Software Factory Co., Ltd.
http://www.facebook.com/pages/Bangkok-Thailand/Thailand-ICT-Awards-TICTA/107102212657775#!/notes/thailand-ict-awards-ticta/ticta2010-summary-the-winners-of-thailand-ict-awards-2010/146682498685706
ดูชื่อแล้วคงพออ๋อนะครับ

264
นอกเรื่อง / Re: Delphi Prism
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 09:04:34 AM »
ได้มาแล้ว  ;D
สมกับเป็นแฟนพันธุ์แท้และเป็นกูรูของ Hosxp จริง ๆ ครับ  ;D ;D

265
นอกเรื่อง / Re: Delphi Prism
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 00:10:18 AM »
url ของผลิตภัณฑ์
http://www.embarcadero.com/products/delphi-prism

266
นอกเรื่อง / Delphi Prism
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 00:06:43 AM »
ตัดย่อหน้าแนะนำโปรแกรมมายั่วน้ำลายใครหลายคน แต่โพสส่วนที่เหลือไม่ได้เพราะอาจโดนเซ็นเซอร์  ;D ;D ;D

Delphi Prism - a tool that allows developers who use Delphi, and developers using. NET, to create applications. NET.

Year: 2010
Version: 4.0.23.741
Developer: Emcarcadero Technologies
Platform:. NET
Compatibility with Vista: complete
System Requirements: Hardware Requirements
Computer with a 1.6GHz or faster processor,
1024 MB RAM (1.5 GB if running in a virtual machine),
3 GB of available hard-disk space, 5400 RPM hard drive,
DirectX 9 capable video card running at 1024 x 768 or higher-resolution display
Operating system:
Windows XP (x86) with Service Pack 3
Windows Server 2003 Service Pack 1 or above
Windows Server 2003 R2 (x86 and x64)
Windows Vista (x86 & x64) with Service Pack 2
Windows Server 2008 (x86 and x64) with Service Pack 2
Windows Server 2008 R2 (x64)
Windows 7 (x86 and x64)
Integration with Visual Studio:
Sets a single (set VS2008 Shell) or is integrated into Visual Studio 2008 or Visual Studio 2010
Support intergatsii in MonoDevelop IDE (MonoDevelop can be installed with 2 in the set).
Language: English only
Tabletka: Present
Size: 1.66 GB
Developers in Delphi can use familiar syntactic constructions, and developers. NET - use the powerful language constructs not available in other programming languages. NET.Kompaniya Embarcadero Technologies has released a new version of Delphi for. Net - Delphi Prism 2011. The new version of Delphi Prism is an extension of Visual Studio 2010. According to the developers, this product provides the possibility of aspect-oriented programming and parallel programming, which are not implemented in any other programming language for. Net.

Extras. Information:
Delphi Prism 2011 is also fully integrated with Visual Studio 2010.

267
นอกเรื่อง / Re: Teach Yourself Android Application Development in 24 Hours
« เมื่อ: สิงหาคม 19, 2010, 00:34:20 AM »
จัดให้ตามคำเรียกร้องครับ  ;D

http://rapidshare.com/files/413718918/Android_book.rar

268
นอกเรื่อง / Microsoft Security Essential
« เมื่อ: สิงหาคม 17, 2010, 00:10:58 AM »
http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?displaylang=en&FamilyID=e1605e70-9649-4a87-8532-33d813687a7f#filelist

Antivirus เวอร์ชั่น Free จากค่าย MS ได้ทดลองใช้แล้วก็ถือว่าใช้ได้ระดับหนึ่งครับ เลยเอาแนะนำ .. แต่อย่าคาดหวังมากนะครับ โดยภาพรวม ยังอาจสู้ antivirus เจ้าอื่นไม่ได้ แต่ดีที่ "ฟรี" ครับ

269
โพสหัวให้ดูเวอร์ ๆ หน่อยครับ

http://www.youtube.com/watch?v=IGAseOSIp3c&feature=related


270
นอกเรื่อง / RC Plan ... เพราะมันไม่ใช่ของเล่น
« เมื่อ: สิงหาคม 12, 2010, 01:42:41 AM »
ว่าง ๆ เข้าไปใน youtube ไปดูเรื่องของเครื่องบินวิทยุบังคับ ดูของคนไทยเป็นเครื่องบินใบบัดก็ดูน่าสนใจครับ ไปดูของฝรั่ง เขาเล่นเครื่องยนต์เจ็ต ขอย้ำครับ มันคือ เครื่องยนต์เจ็ตเหมือนในเครื่องบินจริง ๆ แต่ถูกย่อส่วนมาเป็นเครื่องบินวิทยุบังคับ ลองดูครับ

ลำนี้ใหญ่จริง ๆ ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=c5FjTcctkC4&feature=related

เห็นภาพแรกนึกว่าคองคอร์ทลำจริงครับ
http://www.youtube.com/watch?v=52CVrcCydig&feature=related

ลองดู Airbus A340 ลำนี้ครับ พับเก็บล้อได้เหมือนเครื่องบินจริงทุกอย่าง ดูแล้วอยากได้จริง ๆ
http://www.youtube.com/watch?v=urtrGa3R8O0&feature=related

คราวนี้มาดู Antonov 225 เครื่องบินที่ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องบินขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก โมเดลขนาด 1:25
http://www.youtube.com/watch?v=dyWXlTwwvRM

ลองดูลำเล็ก ๆ นะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=-WsZuVkt06g&feature=related

ลำนี้เลียนแบบ EuroFight Typhoon ผมว่าสวยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=rRGZBa2TWAM&feature=related

ลำนี้ F22 - Raptor แหล่มมาก
http://www.youtube.com/watch?v=wGr0IIe0Rt0

F14 - Tomcat แหล่มจริง ๆ
http://www.youtube.com/watch?v=GrEdE2N3bVc&feature=related

F16 ขนาด 1:6 เหมือนของจริงมาก
http://www.youtube.com/watch?v=GrEdE2N3bVc&feature=related

Gripen ที่กำลังตกเป็นข่าวฉาวของกองทัพ
http://www.youtube.com/watch?v=UMOogeFDxf4

ลองดู B-2 Stealth Bomber Plan ครับ เป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้านะครับ ไม่ใช่ jet แต่สวยมากจริง ๆ
http://www.youtube.com/watch?v=AG5VK8l9nfg

คราวนี้ลองดู SR71 Blackbird ลำใหญ่มาก
http://www.youtube.com/watch?v=SDbQ5xvsrIU

เครื่องบินทิ้งระเบิดในตำนาน B52
http://www.youtube.com/watch?v=fbITzCI2AU0

F5-tiger
http://www.youtube.com/watch?v=tXxZXQ9_Yoc

Mirage 2000 ลำนี้แหล่มมากครับ
http://www.youtube.com/watch?v=keMUjgf7mkc&feature=related

ลองดู Boing 747 ลำนี้สุดยอดจริง ๆ
http://www.youtube.com/watch?v=Jfkyp89LLTE

หน้าตาเครื่องยนต์ jet ที่พวกเขาเล่นกัน
http://www.youtube.com/watch?v=zN9Rx5DmSHk

ต่อมา F18 ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=-kl5TrdqETM&feature=related

ภาพถ่ายจากกล้องที่ติดในเครื่องบินครับ
http://www.youtube.com/watch?v=JZ1YNpGgHOk&feature=related

ปิดท้ายแบบฮา ๆ หน่อยนะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=sUDuPWRiRug&feature=related

มีให้ดูกันแบบไม่เบื่อจริง ๆ ครับ คงถูกใจใครหลายคนที่ชอบเครื่องบิน ไม่รู้ว่าพี่เบิกสนใจจะซื้อมาบินซักล่ำไหมครับ :)

271
นอกเรื่อง / Re: Teach Yourself Android Application Development in 24 Hours
« เมื่อ: สิงหาคม 09, 2010, 07:53:16 AM »

272
นอกเรื่อง / วันนี้เกือบซวย
« เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 00:48:08 AM »
     วันก่อนพี่อุดมโชคซวยไปที วันนี้ผมเกือบซวย ... เหตุของเหตุ คือ ตั้งใจจะจัดระเบียบ กระชับพื้นที่การใช้อินเตอร์เน็ตของคนในโรงพยาบาลใหม่ เลยกะจะเอาอุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีใช้อยู่เดิม ซึ่งซื้อมาแต่ไม่ได้ใช้ให้คุ้มค่า มาปรับจูนใหม่ เพื่อรีดความสามารถ
     วันนี้เลยเริ่มจาก DrayTek Vigor3300V เป็นชิ้นแรก ... แค่ชิ้นแรกก็ได้เรื่อง ตอนแรกกะจะเอามาอัพเกรดเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นใหม่ให้ไฉไลมากขึ้น เพราะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา เช่น port mirroring , physical dmz หลังจากที่อัพเกรดผ่านหน้าเว็บของอุปกรณ์ ... ขั้นตอนการอัพเกรดตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด ... ปกติทุกอย่าง แต่มันมันปกติก็ไอ้ตอนที่รีบูตเครื่องกลับมา แทบช๊อคครับพี่น้อง เครื่องแน่นิ่งไม่ทำงานขึ้นแต่ไฟ power อ้าวซวยหมาแล้วกูงานนี้ จะทำไงดี ยี่ห้อนี้กูจะไปหาใครช่วยละ ถ้าเป็น cisco ก็ว่าไปอย่าง ... โชคดีที่ยังมีอินเตอร์เน็ตอีกวงจร ผ่าน TrueWiFi เลยไปถามอากู่ ว่า Draytek TH อยู่ที่ไหน ก็ได้ความว่า เบอร์ DrayTek TH 022497910, 022498973 จึงรีบจัดแจงโทรไปหาฝ่ายเทคนิค .. ได้ความว่า การอัพเกรดอุปกรณ์ของ DrayTek ไม่แนะนำให้อัพเกรดผ่านหน้าเว็บ แนะนำให้ทำผ่านสาย console มากกว่า ... โอวแม่เจ้า คิดในใจ ... ถ้าไม่แนะนำ แล้วทำเมนูมาทำหาสวรรค์วิมานอะไร ... อัพเกรดอุปกรณ์มาก็หลายตัว พึ่งเคยเจอตัวนี้แหละ ที่บอกว่าไม่แนะนำ ...
     เหอออ แล้วเอาไงละที่นี้ ... จนท.เขาเลยแนะนำให้ให้เอาสาย console มาเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วจัดการใหม่หมด ผมจึงรีบจัดแจงหาสาย console โชคดีไปเจอสายที่มาพร้อมกับ router 3com ที่กระทรวงแจกมาให้ ... ว่าแล้วพูดถึง router 3com นี้ก็เหมือนกัน ไม่รู้แจกมาทำอนุเสาวรีย์อะไร ก่อนจะแจกเคยมาถามบ้างไหมว่าอยากได้หรือเปล่า ตัวไม่ใช่บาทสองบาท กลัวแต่จะไม่ได้ใช้เงิน ผมได้รับแจกมาเกือบปีแล้ว ยังตั้งเป็นอนุเสาวรีย์อยู่ในห้องเลย ของเดิมมี cisco 800 ซึ่งใช้งานอยู่ดี ๆ ส่วนของใหม่ที่กำลังจะเช่า เขาก็ให้ router ของ cisco มาพร้อมกันอยู่แล้ว ... เลยไม่รู้จะเอาทำอะไร สู้ให้เป็นอย่างอื่น เช่น เครื่องคอมสักชุดยังจะได้ใช้งาน .... ต่อครับ พอผมเชื่อมเจ้า 3300 เข้ากับเครื่องคอมผ่านสาย console ได้แล้ว เจ้าหน้าที่เขาก็แนะนำให้ใช้ hyperterminal เข้ากับอุปกรณ์เพื่อจะอัพเกรดโปรแกรมใหม่ .. คราวนี้ซวยอีก เครื่องในห้องทำงานก็เปลี่ยนเป็น windows 7 แล้ว มันก็ไม่มีแล้วซิ เลยต้องไปหามาอีก โชคดีเปิด NB มี VM Image ของ Windows XP อยู่เลยเปิดขึ้นมาแล้วคัดลอกใส่ Windows 7 ก็ใช้งานได้เลย ใครที่ต้องการใช้งานก็ทำดังนี้

1.เข้าไป coppy ไฟล์ที่ชื่อ hypertrm.exe อยู่ที่ C:\Program Files\Windows NT ในเครื่อง Windows XP ไปวางใน C:\Program Files\Windows NT ในเครื่อง Windows Vista หรือ Windows 7
2.เข้าไป coppy ไฟล์ที่ชื่อ hypertrm.dll อยู่ที่ C:\Windows\System32 ในเครื่อง Windows XP ไปวางใน C:\Windows\System32 ในเครื่อง Windows Vista หรือ Windows 7
3.ทำ Shotcut เรียกใช้งาน hypertrm.exe ให้คลิกง่ายๆตามตำแหน่งที่ต้องการ

     เข้าเรื่องต่อ .. หลังจากที่ทำตามคำแนะนำของจนท.ทุกทางเสร็จแล้ว ปรากฏว่า 3300 เจ้ากรรมก็ยังไม่ยอมทำงาน เชื่อมเข้าตัวอุปกรณ์ได้ แต่อุปกรณ์ไม่ทำงาน ... จะอัพเกรดเฟิร์มแวร์ใหม่อีกรอบก็ไม่ได้ เพราะการเชื่อมต่อผ่านสายแลนทำไม่ได้ ทำได้แต่การใช้ผ่านสาย console เท่านั้น ซึ่งการอัพเกรดก็ต้องใช้ผ่านสาย lan ร่วมด้วย ทำไงละที่นี้ เลยสอบถามกับจนท.ว่าผมจะต้องทำอย่างไร  เลยได้คำแนะนำว่า ส่งเครื่องมาที่บริษัท แล้วจะส่งไปที่โรงงานที่เมืองนอก ให้เขาเขียนรอมให้ใหม่ ... ใช้เวลาประมาณสองเดือน ...ตายแล้วกูสองเดือนเลยหรือ
    หลังจากที่วางสายสักพัก และนั่งทำใจ เลยค่อย ๆ เปิดเข้าไปใน hyperterminal แล้วไล่เปิดเมนูทุกเมนูเพื่อจัดการ config ระบบใหม่ทั้งหมดเอง ปรากฏว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้ เหตุผลเป็นเพราะ lan port ไม่ถูกเซ็ต จึงทำให้ไม่สามารถติดต่อกับอุปกรณ์ผ่าน lan port ได้ .... ดีใจมาก เลยโทรกลับไปคุยกับจทน.คนเดิม เขาก็ตอบว่ามีแบบนี้ด้วยหรือไม่เคยเจอเลย ... อ้าวคุณเป็นจนท.เทคนิคสนับสนุนลูกค้านะ แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้อุปกรณ์มันก็กลับมาทำงานเหมือนเดิมแล้ว ก็เลยเอาเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้สมาชิกฟัง
ปล.อาทิตย์หน้าจะอัพเกรด Fortigate ยังคิด ๆ อยู่ว่าจะทำดีไหม ถ้าจะทำคงต้องทำผ่าน console ดีกว่าเพื่อความปลอดภัย ไม่งั้นเป็นอะไรขึ้นมาซวยแย่เลย ตัวหนึ่งหลายแสนอยู่ด้วย เดี่ยวจะไม่มีปัญหาจ่ายให้รพ.

273
นอกเรื่อง / Re: Teach Yourself Android Application Development in 24 Hours
« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 22:39:50 PM »
ลืมไป เว็บสำหรับนักพัฒนา Android

http://developer.android.com/index.html

274
นอกเรื่อง / Teach Yourself Android Application Development in 24 Hours
« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 22:36:41 PM »
ชม.นี้คงปฏิเสธ OS ที่มีชื่อ Android ไม่ได้ครับ ทั้งโทรศัพท์, Tablet รุ่นใหม่ ๆ ที่กำลังจะออกพร้อมกับ Android มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เลยเอาหนังสือสอนเขียน App สำหรับ Android มาแนะนำ สอนเขียนโดยใช้เครื่องมือ Java Eclipse, Java SDK, และ Android SDK เผื่อใครสนใจ ...

http://hotfile.com/dl/59548848/cef1c5c/Teach_Yourself_Android_Application_Development_in_24_Hours.pdf.html

275
เมื่อวานเห็นแว็บ ๆ ของบริษัทอะไรจำไม่ได้แล้วครับ มานำเสนอที่งานโสตของรพ. พอดีเขาเชิญไปดู เลยแวะไปดูแป๊บหนึ่ง จำได้ว่าชุดหนึ่งประมาณ 7 แสน เป็นอุปกรณ์ควบคุมประมาณเปิดห้องส่งเล็ก ๆ ได้เลยครับ

276
นอกเรื่อง / Re: e-office ราคาคนไทย
« เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2010, 23:11:44 PM »
ตอนนี้กำลังดำเนินการจัดซือครับ ติดตั้งเสร็จแล้วจะมาแจ้งให้ทราบ

277
ใช้งานหนักไหมครับ ที่รพ.ผมใช้ samsung 4050 ก็เร็วดีครับ ตอนนี้กำลังทำแผนเรื่องเช่า ดู ๆ ไว้ 3 ตัวคือ hp, samsung, เคียวเซร่า ส่วนราคาเช่าประมาณ 0.3 - 0.45 บาทต่อหน้าครับ

278
นอกเรื่อง / Re: วันนี้ซวยหนัก
« เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2010, 10:18:57 AM »
เรื่องเครื่องปั่นไฟสำรอง เป็นเรื่องที่จะว่าไม่น่ามีปัญหาก็ไม่ได้ครับ ที่รพ.เห็นแผนกช่างเขาจะเซ็ตให้เครื่องทุก ๆ เที่ยงวันศุกร์ประมาณสิบห้านาทีเพื่อตรวจสอบระบบอยู่เป็นประจำ
ส่วนเรื่อง ups ก็ตามที่พี่อุดมโชคบอก ปีหนึ่งตรวจอย่างน้อย 1 - 2 ครั้ง หรือไม่ก็สอนให้คนใช้ กดปุ่มทดสอบเป็นประจำ ครบ 3 ปีก็เปลี่ยนแบต อย่าเสียดายเงิน เพราะจากประสบการณ์ ที่บ้านใช้ยูพีเอสมามากกว่า 6 ปี ก็ยังใช้งานได้ดี เพราะเปลี่ยนแบต และเช็คเครื่องเป็นประจำ
ส่วนยี่ห้ออะไรดี APC ก็ดีครับของชไนเดอร์ แต่ผมไม่ใช้เพราะค่า MA กับค่าแบตแพงพอสมควร ที่รพ.ผมซื้อของ leonic รุ่น ranger หรือไม่ก็ accura ที่เลือกเพราะมันคือยี่ห้อเดียวกับที่ใช้ที่บ้าน และบริการก็โอเค ถ้าเป็นในเขตกทม.และปริมณฑล เขาบริการให้ถึงที่เลย ประกันยาว 3 ปีครับ เรียกว่าซื้อใช้แล้วหายห่วง และสองรุ่นที่ผมบอกมา ถือเป็นรุ่นท๊อปของ leonic ครับ ราคาขายปลีกน่าจะประมาณสามพันกว่า  แต่ถ้าซื้อเป็นล๊อตสักร้อยสองร้อยตัวขึ้นไป ไม่ถึงสามพันครับ

279
Networking / Re: มีโปรแกรม network ดีๆ มาฝาก
« เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2010, 23:16:54 PM »
อยากให้ลองตัวนี้ครับ http://www.thaicert.org/paper/auditing/installCactiEZ.pdf
จริงๆ ผมอยากหาโปรแกรม sniffer เก่ง ๆ บังเอิญมาเจอของ thaicert ก็โอเคครับ

280
ถ้าจะเชื่อมต่อ HosXP ด้วย VB 2008 ผมไม่เข้าใจความหมายของจขกท. ความต้องการคือ ทำ App สักตัวหนึ่งมาเชื่อมต่อกับ HosXP ใช่ไหมครับ
1. คุณต้องทำตัวเชื่อมระหว่าง App กับ DB วิธีการคือใช้ ADO.NET เพื่อเชื่อมเข้าไป ซึ่งจขกท.มีเครื่องมือสองตัวให้ใช้ คือ Connector ODBC และ Connector /NET ซึ่งความเห็นผมแล้ว ผมเลือกใช้ Connector /NET เพราะมันเป็น driver ซึ่งเชื่อมต่อ ADO.NET เข้าฐานข้อมูลโดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องไปเซ็ต ODBC ใน Client ให้ยุ่งยาก ก็จะได้อารมณ์เวลาเราเขียน ADO.NET เชื่อมเข้า SQL Server ครับ ซึ่งจากจุดนี้คุณก็จะได้ DAC Tier
อ่อ ตรงจุดนี้จขกท.คงจะคิดถึง LINQ นะครับ งานนี้ก็ใช้ LINQ to Dataset แต่ก็ทำได้แค่อ่านข้อมูลไปก่อนนะครับ ถ้าคิดว่าไม่จำเป็น ก็ใช้ ADO.NET อย่างเดียวต่อครับ
2. สิ่งที่ต้องทำต่อมาคือ Entity Tier ซึ่งแน่นอนครับทำโปรแกรมฐานข้อมูลพ.ศ.นี้ โดยเฉพาะสาวก .NET คงไม่ปฏิเสธ Entity Tier เพราะใน .NET4 (VS2010) เขาทำ Entity Fx มาให้เสร็จ แล้วตัว Connector /NET ก็มี Fx ซึ่งสนับสนุน Entity Framework แบบสำเร็จรูปให้แล้ว
3. สองคลาสสุดท้ายที่ต้องทำคือ Business-Tier กะ Presentation-Tier ซึ่งเชื่อมต่อกับสองคลาสแล้ว ซึ่งอันนี้จขกท.ก็ลองดีไซด์ต่อเอาเองแล้วกันครับ
4. อย่าลืมสร้างความสัมพันธ์ของแต่ละคลาสให้ถูกต้องนะครับ Presentation-Tier <> Business-Tier, Presentation-Tier <> Entity-Tier, Business-Tier <> DAC-Tier, Business-Tier <> Entity-Tier, DAC-Tier <> Entity-Tier
5. จากประสบการณ์ ผมมักจะสร้าง superclass ซึ่งเอาไว้ควบคุม class แต่ละชนิด เช่น Entity Tier ของแต่ละกลุ่ม Class ผมจะสร้าง Super Entity Class ซึ่งเป็น mustinherits class ก่อน ให้ Inherit ไปยัง Entity Class อื่น ๆ ซึ่งเราอาจเขียน properties บางอย่างที่เราต้องการเฉพาะแต่ละ class ให้ override ต่างหาก
ไม่รู้เขียนยาวไปหรือเปล่า แต่คิดว่าคงเป็นประโยชน์และทำให้จขกท.พอเห็นภาพแล้วนะครับ

281
นอกเรื่อง / MSDN Magazine 07/10
« เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2010, 23:51:44 PM »
นิตยสารสำหรับสาวก .NET ครับผม ...

http://rapidshare.com/files/408225742/msdn-07-2010.pdf

282
นอกเรื่อง / Re: 50 โรคที่หัวหน้าชอบเป็น
« เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2010, 22:43:51 PM »
;D ;D ;D กร๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ 50 โรคนี่มันเฉพาะ principaldiag หรือเปล่าครับพี่เภสัชกร ;D ;D ;D
ใช่ครับ แต่ระวังนะ แรก ๆ มันดูจะเป็นเหมือนเป็น acute แต่หากอยู่ในตำแหน่งไปเรื่อย ๆ มันจะกลายเป็น chronic และจะค่อย ๆ รุนแรงมากขึ้นจนรักษาหายยาก และในที่สุดก็จะรักษาไม่ได้  ;D ;D ;D

283
นอกเรื่อง / 50 โรคที่หัวหน้าชอบเป็น
« เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2010, 21:09:20 PM »
ได้รับ FWD มาจากน้องคนหนึ่ง อ่านแล้วขำดี ใครที่รู้ตัวยกมือขึ้นครับ  ;D

50 โรคของหัวหน้า (ใครไม่รู้) ^_^

โรคที่ 1 : โรคทำงานไร้เป้าหมาย
โรคที่ 2 : โรคสั่งงานแบบไร้สติ
โรคที่ 3 : โรคทองไม่รู้ร้อน
โรคที่ 4 : โรคชอบให้ทุกคนมีนิสัย (ประหลาด) เหมือนตัวเอง
โรคที่ 5 : โรคชอบพูดว่า ประตูห้องของผมเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นเสมอ
             (แต่..ผมไม่เคยเปิดประตูเลย)   
โรคที่ 6 : โรคชีวิตนี้ (ตู) มีแต่งาน งาน งาน
โรคที่ 7 : โรคเพื่อนเราชอบเผาเรือน
โรคที่ 8 : โรคชอบใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษหรูๆ
โรคที่ 9 : โรคทำตัวไร้ตัวตน
โรคที่ 10 : โรคผู้บังคับบัญชานาซี
โรคที่ 11 : โรคไม่มีปัญหาครับท่าน
โรคที่ 12 : โรคเสมือนจริงใจ
โรคที่ 13 : โรครู้ไปหมดซะทุกเรื่อง
โรคที่ 14 : โรคทำงาน (ลึก) ลับอะไรไม่รู้
โรคที่ 15 : โรค "เลื่อนขั้นเหรอ" ชาติหน้าบ่ายๆ
โรคที่ 16 : โรคตัดสินใจ ทำไมยากจัง!
โรคที่ 17 : โรคแค้นฝังหุ่น (จำไม่ได้..แมร่งใช้จดเ! ! ลยอะ)
โรคที่ 18 : โรคหวงก้างไว้ทำเกลือหรือไง?
โรคที่ 19 : โรคคลั่งไคล้การประชุม (บ้าหรือปล่าว?)
โรคที่ 20 : โรคมีลูกน้องเหมือนจะฉลาด
โรคที่ 21 : โรคชอบชมลูกน้องจัง! (แต่ลับหลังคนอื่นฮ่ะ!)
โรคที่ 22 : โรคดีเป็นของตัว ชั่วเป็นของคนอื่น (ลูกน้อง!)
โรคที่ 23 : โรคชอบแทงข้างหลังคนอื่น (น่ากลัวจังเลยฮ่ะ!)
โรคที่ 24 : โรคจุ้นจ้านไปหมดทุกเรื่อง (คุณคิดว่าคุณเป็นใครหรอ?)
โรคที่ 25 : โรคชอบเล่าเรื่องโจ๊ก (แต่มันไม่ค่อยตลกเลย..เจ้านาย!)
โรคที่ 26 : โรคเดี่ยวไมโครโฟน (บ้าน้ำลายจริงๆ จ๊ะ!)
โรคที่ 27 : โรคฉันชอบประชุมตอนเช้า ใครจะทำไม?
              (ก็ตรูว่างคนเดียวอะ..คนอื่นชั่งมัน)
โรคที่ 28 : โรคไม่ชอบประชุมเอาซะเลยกับเจ้านาย)
โรคที่ 29 : โรค เก่งคนเดียว คิดคนเดียว
              (แต่ตอนลงมือทำ.พี่ฝากด้วยนะ เก็บโน็ตบุคเดินกลับบ้าน)
โรคที่ 30 : โรคลูกน้องทะเลาะกันเหรอ? ฉันไม่สนใจหรอกย่ะ
โรคที่ 31 : โรคมีลูกน้องที่คิดว่า ตัวเองเป็น Superman
โรคที่ 32 : โรคข้าพเจ้าถูก! ! แต่เพียงผู้เดียว (เก่งไม่ทำเองอะ)
โรคที่ 33 : โรคชอบมีไอเดียใหม่ หลังลูกน้องทำงานเสร็จ
โรคที่ 34 : โรคนั่งอ่านเมล์ยังไม่ทันจบแล้ว FW. ให้เราไปทำ
               (อ้าวไม่ใช่งานตรู.....นิหว่า)
โรคที่ 35 : โรคลดขนาดองค์การเหรอ? อืม ตัวใครตัวมัน
โรคที่ 36 : โรคพนักงานชั่วคราวเหรอ เมินซะเถอะ!
โรคที่ 37 : โรคไม่เคยติดตามการทำงานของลูกน้อง
โรคที่ 38 : โรคเตรียมพร้อมแปลว่าอะไร (ไม่รู้จักจริงๆ น่ะ!)
โรคที่ 39 : โรคจมกองเอกสารแต่...งานไม่คืบหน้าไปไหน
โรคที่ 40 : โรคหวงโอที ( ตัวเองแอบมาทำ..อิ..อิ อันนี้เรื่องจริง)
โรคที่ 41 : โรค "คุณภาพ" เหรอ? อืม! แปลว่าอะไรล่ะ....
               (อ๋อ รีบๆทำพรุ่งนี้จะ Present เจ้านาย)
โรคที่ 42 : โรคจำลูกน้องคนโปรดได้คนเดียว!
โรคที่ 43 : โรคประเมินผลงานด้วยวิธีที่ฉลาดน้อยที่สุด...
               (พิจารณ! ! าจากพรรคพวกตัวเองเป็นหลัก)
โรคที่ 44 : โรคชอบสะสม " ระเบิดเวลา"..
              (รับมาวันอังคาร..แม่งดองไว้สั่งเราวันศุกร์เย็นบอกขอวันจันทร์เช้า..
              บ้าป่าววะ)
โรคที่ 45 : โรคนั่งจับผิดลูกน้อง
              (เมื่อวานเข้าห้องน้ำ 3 ครั้ง นั่งหาว 2 ครั้ง ตดครั้งนึง เป็นต้น)
โรคที 46 : โรคปฏิเสธใครไม่เป็น
              (รับทุกเรื่อง...แล้วมาโยนให้ตรูทำ)
โรคที่ 47 : โรคปกครองระบบทาส
โรคที่ 48 : โรคทำตัวเครียดทั้งวัน (นั่งถอนหายใจ..เฮ้อ)
โรคที่ 49 : โรคมนุษย์ผู้สมบูรณ์แบบ (ตลอดกาล!)
โรคที่ 50 : โรคมนุษย์เจ้าปัญหา (ทุกเรื่อง )

 
 

284
นอกเรื่อง / GPF MV
« เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2010, 13:45:21 PM »
ไม่รู้มีใครเคยดูไหม เป็น MV ของชาว GPF (กบข) ไปเจอบน youtube เห็นแล้วก็ขำดี ไอเดียบรรเจิด เลยเอามาแบ่งกันดู

http://www.youtube.com/watch?v=UIOD3qXFfc4
http://www.youtube.com/watch?v=Z0l8igQfzhU
http://www.youtube.com/watch?v=ta4Cnz7eIwY
http://www.youtube.com/watch?v=MXONpAEpZhA
http://www.youtube.com/watch?v=G7nQtaqmJGY
http://www.youtube.com/watch?v=_M5X3n1xRpQ
http://www.youtube.com/watch?v=fx1hD65fGHM

285
ขออนุญาตเอาผลงานเก่า ๆ มาโชว์หน่อยนะครับ รูปอื่น ๆ จะน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นรูปผอทบ.ครับ

286
เป็นรูปของน้องที่มาฝึกงาน รูปนี้ถ่ายเมื่อ 2 ปีที่แล้วครับ canon 400d + 50f1.8

287
สาวกหนอนสาขาพอร์เทรดมารายงานตัวครับ :D

288
นอกเรื่อง / e-office ราคาคนไทย
« เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2010, 00:52:18 AM »
พอดีรับคำสั่งจากผู้อำนวยการให้ไปหาระบบ e-office มาเสนอ ผมเองก็ไปหามาหลายเจ้าทั้งเสียเงินและไม่เสียเงิน จนมาเจอเจ้านี้ ชื่อว่า crypbot e-office (www.eofficeservice.com) ที่อยากเอามาเล่าให้ฟัง ไม่ได้มาเป็นนายหน้าขายของให้เขา แต่เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก วันนี้จึงได้เชิญตัวแทนจากบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์มานำเสนอที่รพ.ต่อหน้าผู้อำนวยการ ซึ่งยอมรับครับ ว่าเป็นระบบงานสารบรรณที่ครบวงจรจริง ๆ ความสามารถเหลือรับประทานในราคาไม่แพงอย่างที่คิด ราคารู้สึกจะเริ่มที่ 40000 ไปจบที่ 90000 ซึ่งได้ดูฟีเจอร์แล้วถือว่าถูกมาก เพราะบริษัทเขาพัฒนาให้ระบบมันรองรับตามระเบียบและกฏหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตอนที่เขามานำเสนอ เขานำตัวอย่างของลูกค้าที่ใช้งานจริงมาให้ดู ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการเหมือนกัน ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนมาก เลยอยากเอามาเล่าสู่กันฟัง เผื่อเป็นแนวทางใครที่กำลังอยากหาระบบ e-office มาใช้ในรพ. ลองดูรายละเอียดในเว็บของเขาดู และถ้าคิดว่าราคาที่เขาเสนอมาไม่แพงเกินไป ผมว่าก็น่าสนใจนะครับ  ....

289

เป็นแนวคิดที่ดีที่จะทำเรื่องการจัดซื้อรวม software (แบบที่ทำกับยา) แต่ไม่รู้จะได้ผลมาก/น้อยแค่ไหน
นนทบุรีทำเป็นตัวอย่างเลยครับ
ตอนนี้กำลังจะซื้อ sophos ครับ http://www.sophos.com/
[/quote]
ผมเองก็อยากทำนะครับ แต่วันนี้ผมโทรหาพี่ ๆ หลายคนที่คิดว่าน่าจะมารวมกันทำแต่คำตอบที่ได้ก็นานาจิตตังครับ
- รพ.ขนาดเล็กไม่ค่อยมีเงินจะซื้อโปรแกรมของแท้ใช้ แค่ที่ใช้ในรพ. ก็เป็นของก๊อปทั้งนั้น
- รพ.บางที่ ผอ.ไม่ให้ความสำคัญกับงานไอทีเท่าไร ดังนั้นงบที่ตัดให้จึงน้อย การจะซื้อเครื่องแบรนด์ซึ่งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการของแท้ จึงกลายเป็นของฟุ่มเฟือย
- แนวคิดในการเลือกผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกัน ไม่ขอร่วมวงด้วย
ผมเองก็เลยคิดว่า ผมอาจคิดแทนคนอื่นมากเกินไป ก็ไม่เป็นไร ... แต่ผมก็ยังยืนยันแนวคิดนะครับ ใครคิดแบบนี้มาคุยกันครับ


290
ของที่ราคาสูงส่วนหนึ่งอาจไม่ได้มาจากการกำหนดราคาของผู้ขายอย่างเดียวหรือเปล่าครับ
อยู่อาจจะขึ้นอยู่กับว่าจะขายให้กับใครด้วยหรือเปล่าครับ  :)

สนันสนุนครับ ถ้า softwareหรือสินค้าที่ไม่ต้องดูแลหลังการขายครับ ก็คิดว่าดีครับ เพราะไม่ต้องมีการรับประกันหรือดูแลหลังการขายมากนัก ประเภทซื้อที่ไหนก็ไม่ต่างกัน กลุ่มนี้น่าจะดีครับ
ถ้า hardware หรืออะไรที่ต้องดูแลหลังการขาย ต้องกำหนดเงื่อนไขการดูแลให้ไม่ต่างจากการประมูลปกติครับ
เช่น onsite service หรือ การเคลม การหาเครื่องทดแทน ถ้าทางผู้จำหน่ายทำได้แบบเดียวกัน ก็คงไม่มีปัญหา




จะว่าไปก็ถูกนะครับว่าของถูกหรือแพงก็ขึ้นกับใครเป็นคนซื้อ .... อันนี้เจอมากับตัว แต่เจตนารมย์ของผมคือต้องการซื้อของถูกที่สุด
เรื่องแนวคิดรวมกันซื้อ ผมได้หมดทั้ง hardware / software ครับ เร็ว ๆ นี้ผมกำลังจะต้องซื้อโปรแกรม antivirus ซึ่งผมกำลังดู ๆ ไว้ 2 เจ้า คือ TrendMicro, Symantec คนสนใจลองมาคุยกันครับ วันนี้ผมจะเอาไอเดียนี้ไปเสนอผู้อำนวยการเพื่อหาพันธมิตร

291
ไม่รู้ว่ามีที่ไหนเคยทำการรวมประมูลจัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไหมครับ? เรื่องของเรื่องคือผมได้มีโอกาสคุยกับผู้จัดการผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่งถึงรูปแบบการตลาดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ทำให้ผมนึกถึงรูปแบบการจัดจำหน่ายยาในกลุ่มโรงพยาบาลของรัฐ ที่จะมีการประมูลจัดซื้อรวมกันทั้งจังหวัดหรือทั้งเขต .... คำถามก็เกิดว่าทำไมครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ถ้าซื้อจากส่วนกลางก็มีเรื่อง .... (ไม่ขอพูดนะครับ คิดดูกันเอง) แต่ผมเองก็คิดอยากซื้อผลิตภัณฑ์ดี ๆ ในราคาที่ถูก ผมเคยคุยกับอาจารย์จากสถาบันเทคโนโลยีบางมด อาจารย์คนนี้เคยบอกถึงการต่อรองราคาลิขสิทธิ์โปรแกรมแอนตี้ไวรัส แกเคยบอกว่าของแกซื้อที่ละพัน lic สามารถต่อรองราคามาอยู่ประมาณสี่ร้อยบาท จากราคาที่เราซื้อกัน lic ละเกือบพันบาท ถึงจุดนี้ผมเองก็เริ่มคิดว่าเออ ไหน ๆ เราก็ต้องซื้อ ทำไมเราไม่รวมกันซื้อบ้าง รวมกันทั้งจังหวัด ทำสัญญาซื้อกันแบบ global บ้าง ผมมองว่าการประมูลไม่ใช่ที่สุดของการดัมพ์ราคา เพราะจากประสบการณ์ที่เห็นมา ของชิ้นเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน ประมูลสองงาน งานหนึ่งซื้อสองร้อยชิ้น งานหนึ่งซื้อพันชิ้น ราคาต่างกันหลายตังส์พอดู ผมถึงคิดว่าทำไมเราไม่มาร่วมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน อาจจะเซ็นบันทึกความตกลงร่วมกันในการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ร่วมกัน แล้วมาตกลงร่วมกันว่าเราต้องการอะไร ใครมีผลิตภัณฑ์ไหนในใจ มาคุยถึงข้อดีข้อเสีย แล้วหาตรงกลาง เปิดประมูลต่อรองร่วมกัน แล้วไปทำเรื่องซื้อต่อในรพ.ของตนเอง  ไม่รู้ว่ากลุ่ม admin ในนี้ใครเห็นด้วยกับหลักการของผมหรือไม่ ถ้าใครเห็นด้วย หรืออยากทำร่วมกัน ลองมาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ผมเชื่อแน่ว่าถ้าเราร่วมกันจริง เราคงเห็นราคา Trend Micro Ent Security , Symantec Endpoint หรือ Kaspersky OpenSpace Security ในราคา =< 500บาท / lic แน่นอน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราไม่มีปริมาณตั้งแต่หลัก 1000 lic ขึ้นไป ใครมีความคิดเห็นอย่างไรลองเสนอมาแล้วกันครับ

292
นอกเรื่อง / Photosynth
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2010, 23:43:55 PM »
วันนี้เข้าไปบนเว็บไซด์ของ MS ได้พบกับ Service ตัวใหม่ของ MS ซึ่งมีชื่อว่า PhotoSynth (www.photosynth.com) บริการนี้เป็นบริการที่นำภาพถ่ายของเรามาปะติดต่อกันจนกลายเป็นรูป 360 องศา โดยทางเว็บไซด์จะมีโปรแกรมให้เราดาวน์โหลดมาติดตั้งบนเครื่องของเราชื่อว่า Photosynth เพื่อให้เราใช้อัพโหลดภาพถ่ายสถานที่ซึ่งเราไปถ่ายมา ว่าง ๆ จะทดลองทำบ้าง สมาชิกคนไหนสนใจลองเข้าไปทดสอบดูครับ ดูไปดูมาก็สนุกดีเหมือนกัน

293
ได้มีโอกาสลองใช้ 2 รุ่นครับ ตัวแรกเป็นของ intel รุ่น X25 อีกตัวเป็นของ OCZ ยอมรับครับเร็วมาก ๆ ทดลองลง Window 7 + KIS + SQL Server 2008 ใช้เวลาบูตนับตั้งแต่หน้าจอ BIOS โพสเสร็จจนวินโดว์พร้อมทำงาน (ไอคอนเลิกหมุน) ใช้เวลาไม่ถึง 20 วินาที ซึ่งเร็วกว่า HD พอควร ยังเคยคิดว่าซื้อ server ใหม่อยากจะเอามาใช้แทน HD เพราะมันคงปั่นค่า IOP ได้เกินหลักหมื่น แต่พอดูราคาแล้วลมใส่ 64GB ตัวหนึ่งหลายหมื่นหน้าดูคงต้องรออีกสัก 3 - 5 ปี ให้ราคาพอ ๆ กับ HD สมัยนี้ก่อน ค่อยดูกันใหม่

294
ไปเจอมาครับ อ่านแล้วน่าสนใจดี เลยเอามาฝาก เผื่อใครสนใจอยากจะเช่ามาลงที่รพ. ราคาถูกกว่าเช่า lease line พอควรครับ

295
พอดีเข้าไปบนเว็บ msdn ไปเจอ IDE ตัวนี้ ตอนแรกอ่านชื่อก็แปลก ๆ ก็นึกว่าเป็นภาษา Basic .NET เวอร์ชั่นไหน พอเข้ามาอ่านรายละเอียด อืมมม น่าสนใจครับ เป็นการปูพื้นฐานการหัดเขียนโปรแกรมให้เด็ก ๆ แบบไม่น่าเบื่อ ชนิดว่าเด็กอายุสัก 10 ปีก็สามารถเขียนโปรแกรมแบบเด็ก ๆ ได้ ใครสนใจลองเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ http://msdn.microsoft.com/en-us/beginner/ff384126.aspx

296
นอกเรื่อง / Re: VB.NET 2010 สำหรับมือใหม่ (จริง ๆ)
« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2010, 23:31:37 PM »
มีโหลดที่ไหนครับ    มือใหม่จริงๆ     ...ขอบพระคุณครับ
 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D
ลองหาดูครับ ... ผมเชื่อแน่ว่าคงไม่พ้นฝีมือของ Admin Hosxp คนเก่งหรอกครับ แค่การไปตามหาโปรแกรมดัง ๆ แบบนี้ในบิต แต่ถ้าขี้เกียจดาวน์โหลดก็อีกเรื่อง ก็ไปซื้อของแท้เลยครับ Visual Studio 2010 Pro with MSDN Pro + Media ราคาประมาณ 4x,xxx เท่านั้นเอง  ;D ;D ;D ;D ;D
เอาภาพหน้าจอให้ดูก่อน ....

297
นอกเรื่อง / Re: VB.NET 2010 สำหรับมือใหม่ (จริง ๆ)
« เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2010, 16:17:02 PM »
1. ถ้าจะใช้ MySQL ใช้ผ่าน ODBC ครับ แต่ข้อเสียคือจะใช้ LINQ ไม่ได้ ต้องไปหา component ORM ตัวอื่น ๆ ช่วย
2. ถามว่าอื่ดไหม .. ถ้าเทียบกับ 2008 ผมว่าไม่ค่อยแตกต่างกันนะ NB ของผม C2D 1.8 ram 4GB ให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกันมาก แต่ชีวิตที่ง่ายขึ้น เขียน syntex สั้นลง
3.SharpDevelop ดู ๆ แล้วเป็น tools ที่น่าสนใจครับ

298
นอกเรื่อง / VB.NET 2010 สำหรับมือใหม่ (จริง ๆ)
« เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2010, 01:07:55 AM »
เอาหนังสือมาฝากหนึ่งเล่ม "Teach Youselft Visual Basic 2010 in 24 hours" มาฝากครับ เหตุเพราะเห็นว่าเป็นหนังสือที่ดีและสอนแบบง่าย ๆ ได้เข้าใจมาก สำหรับมือใหม่จริง ๆ ใครที่อยากหัดเขียน VB.NET 2010 รับรองถ้าอ่านรู้เรื่อง (เพราะเป็นภาษาอังกฤษครับ  ;D ) รับรองเขียนโปรแกรมด้วย VB.NET 2010 เป็นแน่นอน 100% ครับ

http://rapidshare.com/files/404736469/Teach_Yourself_Visual_Basic_2010_in_24_Hours.pdf
url นี้เห็นบอกว่าจะ dl ได้แค่ 10 ครั้ง เพราะผมไม่ได้เป็นสมาชิกเขา ถ้าใคร dl ไม่ได้ก็ไปเอาอีกที่หนึ่งครับ
http://hotfile.com/dl/52347678/e3e5a23/Teach_Yourself_Visual_Basic_2010_in_24_Hours.pdf.html

ส่วนใครอยากหัดเขียนจริง ๆ ไป dl เวอร์ชั่น express มาก่อนก็ได้ครับ ก่อนจะหาตัวจริงมาใช้
http://www.microsoft.com/express/downloads/

299
นอกเรื่อง / Re: HOSPITAL 2008 Open Source
« เมื่อ: มิถุนายน 30, 2010, 00:51:00 AM »
ดู ๆ แล้วก็น่าสนใจครับ
แต่ดูเหมือนจะนิ่งไม่มีการพัฒนาต่อ? หรือเปล่า?

300
ลองดูจากที่นี้คงพอไขข้อข้องใจได้นะครับ http://www.leonics.co.th/html/th/aboutpower/ups_knowledge.php
ถ้าจะซื้อ UPS ให้เซิร์ฟเวอร์ ถ้างบไม่ใช่ปัญหา ก็เลือกแบบ Trueline ไปเลยครับ ผมซื้อขนาด 6KVa ประมาณสักห้าหกหมื่นเห็นจะได้ แต่ถ้างบเป็นปัญหา ยังไงก็ Trueline ครับ ไม่แนะนำเอา LineInteractive มาเสียบกับเซิร์ฟเวอร์โดยเฉพาะพวกเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องทำงานหนัก&ตลอดเวลา แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด ซื้อให้พอเหมาะกับโหลดนะครับ เล็กเกินไปก็ไม่ดีเพราะสุดท้าย UPS ก็รับโหลดไม่ไว้ ใหญ่เกินไปก็ไม่ดี เพราะเสียเงินโดยใช่เหตุ และเปลืองพลังงานด้วย

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 12