แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - กรรมกรไอที

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 6
51
นอกเรื่อง / เว็บรวมฟอนท์ภาษาไทยสวย ๆ
« เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 00:28:33 AM »
www.f0nt.com ( เลข "0" นะครับไม่ใช่อักษร "o" ) อยากแนะนำให้ลองเข้าไปดูครับ เขามีฟอนท์ภาษาไทยสวย ๆ เยอะมาก แถมมีให้ลองใช้ก่อนดาวน์โหลดมาติดตั้งจริงด้วย

52
นอกเรื่อง / Intel Core i CF by SNSD
« เมื่อ: เมษายน 24, 2011, 22:40:12 PM »
นอกเรื่องจริง ๆ ครับ โฆษณา Intel Core i ฉบับ Girl's Generation ดูแล้วน่ารักมั่ก ๆ เลยเอาแบ่งปัน

http://www.youtube.com/watch?v=m8d0I7J5e5k&feature=iv&annotation_id=annotation_374537

53
นอกเรื่อง / มี OpenSource ERP มาแนะนำครับ
« เมื่อ: เมษายน 15, 2011, 00:30:01 AM »
มีชื่อว่า ADEmpiere ครับ

http://www.filesonic.com/file/537520274

http://adempiere.org/home/

54
จัดไปทั้งหนังสือ & โปรแกรมสำหรับใครที่อยากเขียนครับ

หนังสือ ""
http://www.megaupload.com/?d=A9X2TR6G

FileMaker Server Advanced 11
https://rapidshare.com/#!download|963tl4|367148985|FMKSVADV110195AGAiN.part1.rar|105857
https://rapidshare.com/#!download|821l34|367148981|FMKSVADV110195AGAiN.part2.rar|91698

FileMaker Pro Advanced 11
https://rapidshare.com/#!download|909tl|367155868|FMKPRADV110196AGAiN.part1.rar|105857
https://rapidshare.com/#!download|673tl2|367155861|FMKPRADV110196AGAiN.part2.rar|105857
https://rapidshare.com/#!download|713l34|367155864|FMKPRADV110196AGAiN.part3.rar|99689

รีบจัดอย่าให้เสียรับสงกรานต์นะครับ  ;D ;D

55
Intel ได้เปิดตัวซีพียูสำหรับ server ในระดับ Hi-End ตัวล่าสุด คือ Intel Xeon E7 ซึ่งน่าจะมาแทนที่ 6500/7500 โดยซีพียูตัวใหม่นี้มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น จำนวนแกนที่เพิ่มขึ้นถึง 10 แกน, ขนาดของ L3 ที่มีขนาดถึง 30MB, การรองรับ multisocket ซึ่งสามารถขยายได้สูงสุด 256 ซีพียู, รองรับการเพิ่มจำนวนแรมได้มากถึง 2 - 4 TB ดู ๆ แล้วก็จะเห็นว่าเป็นซีพียูที่ออกมารองรับ VM อย่างแท้จริง ใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่

http://www.intel.com/itcenter/products/xeon/E7/index.htm

และผลิตภัณฑ์อีกตัว คือ Intel Xeon E3 ซึ่งออกแบบมาสำหรับ Hi-End Workstation หรือ Entry Server โดยเจ้า E3 เป็นซีพียูแบบ 4 แกน ความเร็วสูงสุด 3.5GHz ขนาดของ L3 เท่ากับ 8MB เท่าที่ดู ๆ แล้วน่าจะมาแทนที่ Xeon 3000 Family ซึ่งคิดว่าคงเป็นตัวที่สมาชิกมีโอกาสได้สัมผัสของจริงมากกว่าเจ้าตัวแรก ใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่

http://www.intel.com/itcenter/products/xeon/E3/index.htm

จบข่าว

56
กำลังดู ๆ ให้ระบบสต๊อกครับ กำลังไปเล็งของ motorola symbol mc3100 อยู่ ไม่รู้จะเวิร์คหรือเปล่า เลยอยากรู้ว่ามีใครเคยใช้บ้างครับ ขอแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ

58
นอกเรื่อง / IE 9 Now Available!!!
« เมื่อ: มีนาคม 22, 2011, 10:01:56 AM »
สิ้นสุดการรอคอยครับ สำหรับ Internet Explorer 9 ตัวจริงเสียงจริง ซึ่งทาง MS ได้ปล่อยให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการแล้ว เชิญพ่อแม่พี่น้องไปดาวน์โหลดได้จากหน้าเว็บของ microsoft.com นะครับ สิ่งที่เห็นถึงความแตกต่างอ คือ ความเร็ว ที่ผมว่าทำได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ แต่ปัญหาที่ยังคงเกิด คือ ปัญหาระบบ autocomplete กับเว็บบางเว็บ ที่เจอคือ เว็บของ Hosxp คือ ถ้าเป็นการกรอก username กะ password ซึ่งถ้าเราสั่งให้บันทึกเอาไว้ ครั้งหน้าเวลาเรากรอก username เสร็จ browser ก็จะกรอก password ให้เรา ... แต่สำหรับเว็บ hosxp เวลา browser กรอก password ให้แล้ว ตัวเว็บจะแจ้งว่าผิด ... จริง ๆ ก็เป็นมานานแล้ว แต่ผมก็แก้ปัญหาด้วยการให้บันทึกถาวรไปเลย

59
นอกเรื่อง / 1001 Movies You Must See Before You Die
« เมื่อ: มีนาคม 21, 2011, 02:31:51 AM »
พอดีไปเจอหนังสือเล่มหนึ่งมีชื่อว่า "1001 Movies You Must See Before You Die" ความหนาเกือบสองนิ้ว!!! ที่ร้านเอเชียบุ๊ค ก็สนใจเปิดออกมาดู ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนชอบดูหนัง จะดูว่าเรื่องไหนที่ยังไม่ได้ดูบ้าง  ;D ;D หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Stephen Jay Schneider ซึ่งเขาได้รวบรวมและจัดลำดับภาพยนต์จากนักวิจารณ์ภาพยนต์ทั่วโลก จนกลายมาเป็น 1001 สุดยอดหนังที่เราต้องดูก่อนตาย!!! ซึ่งมีการรีวิวติดต่อกันมาหลาย edition แล้วครับ จนล่าสุดของปี 2010 ก็คือเล่มที่ผมเจอ หน้าปกเป็นรูปพระเอกจากเรื่อง Avatar เลยอยากหยิบยกหนังดัง ๆ ที่มาฉายในบ้านเราในรอบ 10 ปีนี้มาบอกเล่า เผื่อใครสนใจจะได้ไปหาดู
- Inglourious Basterds เรื่องราวของทหารในยุคนาซีที่ต้องการล่มล้างฮิตเลอร์ เรื่องนี้ผมก็เคยดูแล้ว ที่บ้านก็มีแผ่น ... ดู ๆ ก็เฉย ๆ ก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงได้รับการโหวต
- Hangover เรื่องราวของกลุ่มหนุ่มที่ไปเลี้ยงส่งเพื่อนในคืนวันก่อนแต่งงาน แต่ด้วยความเมาก็ไปก่อคดีต่าง ๆ เอาไว้ เป็นหนังแนว comedy ที่บางมุขผมว่ามันก็ตลกฝืดไปหน่อย (หรืออาจเป็นเพราะเราไม่เข้าใจธรรมเนียมของฝรั่งหรือเปล่า)
- Avatar เรื่องนี้ต้องยอมรับครับ สมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้าน (ยกเว้นอย่างเดียว นางเอกไม่ค่อยสวยเท่าไร 555555) ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สงสัยเลยถ้าจะได้รับการโหวดให้เป็นหนังที่ต้องดูก่อนตาย
- Hurt Locker เป็นหนังดีครับ ดู ๆ แล้วมันเป็นหนัง drama มากกว่าจะเป็นหนัง Action
- Slumdog Millionaire ถ้าจะพูดถึงทำเนียบหนังดีที่ต้องดูก่อนตาย ถ้าไม่ได้พูดถึงหนังเรื่องนี้ ก็คงไม่ใช่แน่นอน เรื่องราวของเด็กชายชาวสลัมแห่งเมืองมุมใบ ที่ชนะการแข่งขันเกมส์เศรษฐี แต่ถูกต้องคำถามว่าเขาทำได้อย่างไร ... เป็นหนังดีที่ต้องดูจริง ๆ ครับ
- The Dark Knight : อัศวินยามราตรี หนังภาคต่อของ Batman เรื่องนี้ต้องยอมรับครับว่าเป็น Batman ภาคที่ดีที่สุด โดยเฉพาะนักแสดงสมทบชายผู้ล่วงลับ ฮีตเลดเจอร์ ผมว่าเขาเล่นดีได้อารมณ์กว่าพระเอกตัวจริงซะอีก
- There Will Be Blood เรื่องนี้ได้แต่คุ้นชื่อครับ แต่ยอมรับว่าไม่ได้ดู ...
- Brokeback Mountain หนังของชายสีม่วง ที่ผมรับไม่ได้จริง ๆ แต่ก็ถือว่าเป็นหนังในทำเนียบที่นักวิจารณ์ยอมรับกันจริง ๆ
- Kill Bill Vol.1 : ใบเสร็จสั่งฆ่าเวอร์ชั่น 1 ผมว่าเป็นหนังที่มีมุมมองการถ่ายทอดเนื้อหาที่แปลก แปลกจนไม่เข้าใจอารมณ์เขา .. ดูกี่ทีก็ไม่รู้เรื่อง
- cities of god หนังเรื่องนี้เป็นหนังติดเรตอาร์ครับ แต่อยากแนะนำให้ดูจริง ๆ
- the pianist เป็นหนังที่ผมพยายามดูหลายรอบ แต่มันน่าเบื่อมากจนดูไม่จบสักที!!!
- the Lord of the Ring : Trilogy อีกเรื่องที่ผมดูหลายรอบมากครับ และเป็นอีกเรื่องที่แนะนำว่าต้องดู
- Moulin Rouge : ผมคิดว่าเป็นภาพยนต์เพลงที่ดีที่สุดต่อจาก The Sound of Music ครับ
- Traffic เรื่องนี้ในบ้านเราคงแทบไม่มีใครรู้จัก .. ผมเคยดูแค่ครั้งเดียวครับ
- Crouching Tiger, Hidden Dragon เนื่องจากเป็นคนไม่ค่อยชอบดูหนังแนววิทยายุทธสักเท่าไร เรื่องนี้ผมเลยเฉย ๆ แต่ยอมรับว่า เพลงเพราะมากๆๆ
- Gladiator : เรื่องนี้ผมดูไม่ต่ำกว่า 5 รอบ จนต้องซื้อ BD เก็บอีกเรื่อง
- The sixth sense : เป็นหนังดีอีกเรื่องของบรูช วิลลิส ที่อยากแนะนำ
- The Matrix : ต้องยอมรับครับว่าอิทธิพลของหนังเรื่องนี้มีผลต่อวงการ Hollywood เหมือนกัน โดยเฉพาะเทคนิคการถ่ายภาพที่ตั้งตามชื่อหนังไปเลย ที่ยังคงมีใช้กันถึงทุกวันนี้
- American Beauty : หนังที่บอกได้เลยครับว่าดูรอบเดียวไม่มีทางรู้เรื่องเด็ดขาด ต้องดูหลาย ๆ รอบและต้องดูไปคิดไปด้วยนะครับ
- Fight Club ผมชอบเรียกชื่อหนังเรื่องนี้คลับสบู่ ต้องยอมรับครับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้สองพระเอกอย่าง Edward Norton กะ Brad Pitt ดังระเบิดระเบ่อจริง ๆ
- Magnolia หนังของทอม ครูซ ที่ผมดูไม่รู้เรื่อง ถือว่าเป็นหนังที่ต้องใช้อารมณ์และความรู้สึกมากเหมือนกัน
- Three Kings เรื่องนี้สนุกครับ เรื่องนี้จอร์จ คลูนี่ เด่นมากๆ
- The Thin Red Line เรื่องนี้ ผบทบ.ที่บ้านชอบมาก ๆ ถึงกันสั่งให้ผมไปหาซื้อแผ่นแท้มาให้
- There's something about Mary หลาย ๆ เรื่องที่เข้าทำเนียบมา ผมไม่สงสัย แต่เรื่องนี้ขอบอกว่าสงสัยจริง ๆ ครับ มันเป็นหนังออกแนว dirty joke เล็ก ๆ ที่ดูแล้วหาสาระไม่ค่อยจะได้ แต่ก็ทำให้ทั้ง Cameron Diaz ดังระเบิดระเบ่อจริง ๆ
- Saving Private Ryan ถ้าจะพูดถึงทำเนียบหนังดี ถ้าไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็คงพูดกันคนละเรื่อง เรื่องราวของพี่น้องตระกูล Ryan ที่กระชากอารมณ์คนดูได้จริง ๆ เป็นหนังที่อยากแนะนำให้ดูและเก็บเอาไว้
- Titanic ผลงานของ Jame Cameron ผู้กำกับ Avatar ผมว่านอกจากสตีเวน สปินเบิร์ก เจมส์ถือว่าได้ว่าเป็นผู้กำกับอัจฉริยะจริง ๆ ผลงานเรื่องนี้ดังจนติดอันดับหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ก่อนที่จะโดน Avatar มาล่มแชมป์ แต่ก็เป็นหนังดังเรื่องเดียวที่ผมไม่เคยคิดจะซื้อแผ่นเก็บเอาไว้จริง ๆ ให้ตายเถอะครับ ไม่รู้ทำไม
- L.A. Confidential หนังเกี่ยวกับเจ้าพ่อใน L.A ที่ทำให้นักแสดงแต่ละคนแจ้งเกิด ทั้ง kavin spacy, rusell crowe (จะว่าไปรัซเซลมาดังเอาจริง ๆ ก็ Gladiator นี้แหละครับ) และ Kim basinger เรื่องนี้ผมไปนั่งดูตอนเรียนมหาลัยปีหนึ่ง ..
- The English Patient หนังรางวัลออสการ์ที่ดูกี่ทีก็น่าเบื่อ แถมไม่รู้เรื่องครับ
- Scream หนังแนวเขย่าขวัญจากฮอลิวู๊ดเรื่องแรก ๆ ที่มาขย่าขวัญแฟน ๆชาวไทย จนเรียกคะแนนนิยมไปพอสมควรก่อนจะมีหนังแนวนี้ตามมาอีกเพียบ
- Independence Day หนังแนว Sci - Fi ที่ดูได้หลายรอบครับ แต่ถ้ามาดูกันจริง ๆ ผมว่าโม้มากไปหน่อย
- Fargo เรื่องนี้ป๊าของผมชอบมาก ผมยังไม่เคยได้มีโอกาสได้ดูเลย จนป๊าของผมมาจากไปเสียก่อน
- Clueless หนังวัยรุ่นยุคปี 1995 เป็นเรื่องที่ทำให้ Alicia Silverstone แจ้งเกิด แต่จำไม่ได้แล้วครับ
- Heat หนังแนว Action ที่คอหนัง Action ไม่ควรพลาดครับ เรื่องนี้ผบทบ.ของผมก็ชอบมากเหมือนกัน เป็นเรื่องที่รวมดาราแม่เหล็กทั้ง Al Pacino, Robert De Niro, Val Kilmer เท่ได้ใจจริง ๆ และทำให้นางเอกหน้าใหม่อย่าง Ashley Judd แจ้งเกิด
- Casino เป็นหนังของ Robert De Niro อีกเรื่องที่อยากแนะนำให้ดูครับ
- Toy Story หนังแนวอนิเมชั่นเรื่องแรกของ Pixar จนถึงวันนี้มีมาแล้วสามภาค แต่ภาคสามดูแล้วไม่ประทับจิตเท่ากับภาคแรกจริง ๆ ครับ
- Braveheart เรื่องนี้เมลกิบสันเท่จริงๆ  ทั้งเล่นเอง กำกับเอง .... ได้ใจผมจริง ๆ
- Babe หนังเด็ก ๆ ที่ให้แง่คิดอะไรดี ๆ เยอะมากครับ
- The Shawshank จำได้ว่าเรื่องนี้ฉายตอนผมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ... หนังที่ดูแล้วเครียดจริง ๆ แต่ก็ดีจริง ๆ ครับ แนะนำให้ใครที่ชอบดูหนังแนวดราม่าควรจะต้องดู
- Pulp Fiction เป็นเรื่องที่สงสัยว่าเข้าทำเนียบมาได้อย่างไร ???
- The Lion King การ์ตูนที่ลืมไม่ได้จริง ๆ ครับ
- Forrest Gump หนังอมตะนิรันดร์กาล นักวิจารณ์ลงความเห็นว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดในชีวิตการแสดงของทอม แฮงค์ แต่โดยส่วนตัวให้คะแนนพอ ๆ กับ The Terminal
- Schindler's List ผลงานของผู้กำกับอัจฉริยะแห่ง Hollywood สตีเวน สปิลเบิร์ก หนังที่สร้างจากเรื่องจริงของโศกนาฎกรรมของชาวยิว ที่ถูกนาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ความยาวของหนังสามชม. แต่ต้องดูจริง ๆ ครับ ใครที่ชอบดูหนังถ้าไม่ได้ดูเรื่องนี้ ก็แสดงว่าไม่ใช่นักดูหนังตัวจริง
- The Piano
- Jurassic Park ผลงานของสตีเวน สปิลเบิร์กอีกแล้วครับ หนังที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ SFX ของ Hollywood ด้วยการเอาคอมพิวเตอร์และระบบ Digital มาแทนที่ระบบเดิม ๆ ทำให้ไดโนเสาร์กลับมามีชีวิตเหมือนเดิม ผมว่าพอภาคต่อ ๆ มาก็ธรรมดามากเมื่อเทียบกับภาคแรก
- Philadelphia หนังดีอีกเรื่องที่อยากแนะนำให้ดู ... จะได้รู้จักคำว่า มนุษยธรรม มากขึ้น
- Unforgiven ผลงานที่ดังที่สุดเรื่องหนึ่งของ Clin Eastwood ที่นักดูหนังแทบทุกคนต้องเคยดู
- JFK หนังที่สร้างอ้างอิงจากเรื่องจริง คดีลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนนาดี้
- The Terminator 1 - 2 ต้องยอมรับครับว่าหนังเรื่องนี้สร้างชื่อให้อาร์โนลมาก จนคำว่า คนเหล็ก กลายเป็นสมญานามของเขาไปเลย
- Edward Scissorhands ผลงานของ Tim Burton หนังออกแนวโรคจิตสยองขวัญนิด ๆๆ
- Pretty Women หนังทีทำให้จูเลีย โรเบิร์ต แจ้งเกิดในวงการ Hollywood และได้รับรางวัลออสการ์ และคำว่า ผู้หญิงบานฉ่ำ ก็กลายเป็นสมญานามของเธอในเวลาต่อมา
จริง ๆ ก็มีอีกเยอะครับ (ก็ตั้ง 1001 เรื่อง) แต่หนังจะเริ่มเก่ามากขึ้นเรื่อย ๆ เกรงว่าหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จัก เช่น
- When Harry met Sally
- Batman
- Rain Man
- Die Hard
- Big
- The Naked Gun
- Moonstuck
- Good morning , Vietnam : เรื่องนี้มีนักแสดงคนไทยร่วมแสดงด้วยคนหนึ่ง ใครทายได้บ้างครับ
- Top Gun
- Platoon
- Aliens
- Back to the Future : เรื่องนี้มีสามภาค
- Out of Africa
- The Killing Fields : หนังที่สร้างจากเรื่องจริงในสงครามเวียดนาม
- Ghostbuster
- Amadeus
- Gandhi : อ่านว่า คานธี ... เรื่องจริงของท่านมหาตมะ คานธี เจ้าของนิยาม การต่อสู้แบบ สงบ อหิงสา
- E.T
- Indiana Jones and the Raiders of the Lost Ark
- Star War
- Mad Max
- Kramer VS Kramer
- Grease ภาพยนต์ที่กลายมาเป็นละครบรอดเวย์ชื่อดัง
- Serpico ถ้าพูดถึงหนังเรื่องนี้ก็นึกถึง Al pacino และภาพของชายหนุ่มที่ติดที่ท้ายสิบล้อ
- The Godfather ผมว่าเป็นหนังเจ้าพ่อมาเฟียที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาครับ
- 2001 - A Space Odyssey หนังแนว Sci Fi ที่นักวิจารณ์หนังบอกว่าเป็นหนังไซไฟที่ดีที่สุด
- Doctor Zhivago
- My Fair Lady
- GoldFinger จำได้ว่าเป็นเจมส์บอนด์ตอนแรกที่ได้ดู
- Ben Hur
- Gigi
ต่อจากนี้ก็เป็นหนังเก่าจริง ๆ ยุค 50 - 60 แต่เรื่องที่ผมยกมา เป็นเรื่องที่ยังหาแผ่นดูได้ในปัจจุบันนะครับ ถ้าใครสนใจ

60
นอกเรื่อง / Linux Shell Scripting Cookbook
« เมื่อ: มีนาคม 21, 2011, 00:22:30 AM »
เห็นว่าเป็นหนังสือดีเลยเอามาแนะนำ ...

http://www.filesonic.com/file/289297341/Packtpub.Linux.Shell.Scripting.Cookbook.Jan.2011.rar

61
นอกเรื่อง / ยาแก้ไอโรค Windows 7 SP1
« เมื่อ: มีนาคม 19, 2011, 23:10:45 PM »
1.เอาเชืัอโรคสายพันธุ์  KB971033 ออก ไปหาแถว ๆ เซลล์ Program and Feature ครับ
2.ยาแก้ไอนะครับ ผ่านการทดสอบทั้งประสิทธิภาพและของแถมแล้ว ผ่าน!!!
http://hotfile.com/dl/110919313/d46058a/Cough_Syrup.rar.html

62
นอกเรื่อง / MS-DOS 5.0 ถึง Windows 7
« เมื่อ: มีนาคม 03, 2011, 23:42:37 PM »
ไปเจอจาก Youtube มาเลยเอามาให้ดู
http://www.youtube.com/watch?v=vPnehDhGa14

63
นอกเรื่อง / พัดลมอะไรเอย ไม่มีใบพัด??!!??
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2011, 21:02:05 PM »
พอดีไปเจอในเว็บ pantipmarket.com เห็นแล้วก็แปลกใจ เลยไปถามอากู่ปรากฏว่ามีตัวตนจริงบนเว็บ มันชื่อว่า air multiplier http://www.dyson.com/fans ราคาที่ประกาศขายเห็นขายอันละ 2990 ไม่รู้มีใครเคยได้เห็นตัวตนจริง ๆ บ้าง ... ใจหนึ่งก็อยากซื้อ แต่ก็กลัวโดนหลอก

64
นอกเรื่อง / Go to VM!!!
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2011, 09:40:52 AM »
เมื่อวานไปงาน Dell HealthCare Forum ซึ่ง Dell เขาร่วมกับ VMWare และ Intel จัดงานนี้ขึ้นเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับธุรกิจ HealthCare ซึ่งในงานนี้มีการมุ่งไปที่เทคโนโลยี Virtual & Cloud ซึ่งปีนี้ Dell จะมุ่งเรื่อง Cloud มากขึ้น สืบเนื่องจากช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ Virtual เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ VMWare จะโปรโมต VMView ซึ่งเป็นการสร้าง Virtual PC ในระบบ Client ให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Desktop ของตัวเองจากที่ไหนในโลกก็ได้ (เขาบอกว่าอย่างนั้น) ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มขึ้น คือ การบริการระบบแบบ Centralize ซึ่งช่วยลดต้นทุนต่าง ๆ ทั้งค่าลงทุนเครื่อง, ค่าไฟ, ค่าบริหารจัดการ, ค่าไลเซนท์ซอฟทแวร์, และค่าความเสี่ยงในระบบ ซึ่งงานนี้ได้รับเกียติจากรองคณบดีฝ่ายสารสนเทศ คณะแพทย์ศิริราชพยาบาล ได้มาบรรยาย และเล่าถึงประสบการณ์ของการรันระบบ VMWare ในศิริราชให้ฟัง ซึ่งขณะนี้ VMWare พยายามขอให้ศิริราชเป็นไซด์ตัวอย่างของการติดตั้งระบบ VM ในโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นไซด์ขนาดใหญ่มาก มี Client มากกว่า 6500 จุด แถมมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 200 เครื่อง (ใหญ่กว่ารพ.ผมสัก 10 เท่า!!!)  ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจครับ งานนี้ ผอ.ลงทุนไปฟังด้วยตัวเอง จบงานแล้วผอ.สนใจมาก เพราะเป็นช่องทางทีช่วยลดต้นทุนการลงทุนด้าน IT ของโรงพยาบาล และผมเองก็สนใจการทำ VM ตอนนี้ผอ.จึงให้ศึกษาความเป็นไปได้และความคุ้มทุนในการนำเอาระบบ VM เข้ามาใช้ในรพ. ใครเคยมีประสบการณ์ในการทำระบบ VM ขอช่วยแสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะครับ อยากทราบประสบการณ์การทำ VM ของหลาย ๆ รพ.

65
ในที่สุด Epson ได้ปล่อยเครื่องพิมพ์ Inkjet แบบต่อแทงค์ออกมาอย่างเป็นทางการ 2 รุ่นคือ L100 และ L200 โดย L100 จะเป็นแบบ printer ธรรมดา แต่ L200 จะเป็นแบบ AIO โดยราคาขายทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 5990 และ 6990 ซึ่งหากมาพิจารณาดูคุณสมบัติแล้วข้อดีคือการติดแทงค์มาจากโรงงาน ไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องเคลียร์ชิปอีก แถมได้รับการประกัน 3 ปี แต่ข้อเสียคือ แทงค์มีขนาดเล็ก (ประมาณ 70ml) และราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าเครื่องพิมพ์ดัดแปลง เพราะถ้าเทียบ คือ รุ่นนี้สเปกพอ ๆ T13 ดังนั้นถ้าเราเอา T13 ไปต่อแทงค์ ราคาน่าจะอยู่ประมาณ 3xxx ซึ่งถูกกว่าหลายตังพอควร แต่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่สนใจ เลยเอามาฝากครับ

66
เอาเลนส์ตัวที่เขาว่าแพงที่สุดในโลกมาให้สมาชิกดูครับ
เลนส์ตัวนี้มีชื่อว่า Canon EF 1200mm f/5.6L USM แค่ชื่อก็คงพอรู้สเปกคราว ๆ แล้วนะครับ น้ำหนักของเลนส์ตัวนี้ประมาณ 16กก. ราคาขายประมาณ 100,000 US$ ข้อจำกัดของเลนส์ตัวนี้ คือ ทาง Canon ไม่ผลิตขายทั่วไป ประมาณว่ามีไม่กี่ตัวในโลก คนที่สั่งซื้อเลนส์ตัวนี้ต้องแจ้งความจำนงและวัตถุประสงค์ของการใช้งาน

67
1.ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2TB คือ ขนาดเริ่มต้น แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่า คือ ปีนี้ SSD น่าจะก้าวลงมาเป็นมาตรฐานใน client pc กลุ่ม hi performance และ ในกลุ่มของ vm server และมีโอกาสที่จะมีขนาดเล็กลงเหลือประมาณ 1 นิ้ว โดยมีขนาดความจุเริ่มต้นประมาณ 80 - 120 GB  หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่ราคาถูกกว่าคือ Hybrid HD ซึ่งเป็นการประสานกันระหว่าง HD กับ SSD ทำให้ได้ความจุที่มากกว่าเมื่อเทียบกับ SSD แต่ได้ความเร็วที่เร็วกว่า Traditional HD ซึ่งแนวคิดของผม ปีนี้คิดว่าจะหันมาซื้อสื่อบันทึกแบบ SSD หรือ HybridHD แทนการซื้อ HD แบบเดิม
2.BroadBrand Internet ระดับ 1 Gb/s อาจไม่ไกลเกินเอื้อมแต่เฉพาะในเมืองนอกนะครับ สำหรับบ้านเราตอนนี้ True ได้เปิดให้บริการ Cable Modem ผ่านเส้นใยแก้วนำแสง ความเร็ว dl 100Mb/s ul 10Mb/s ออกมา ค่าบริการตกประมาณ 4500 บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นพัฒนาการของ BB Internet ในบ้านเรา แต่พื้นที่การให้บริการจะยังค่อนข้างจำกัดมาก แหมแต่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณทลก็ยังไม่กว้างมากเท่าไร (ที่บ้านกะที่รพ.ก็ไม่อยู่ในเขตพท.ให้บริการ น่าเศร้ามากครับไม่งั้นจะเช่าแบบ 20/2 ซะหน่อย เพราะทุกวันนี้เช่า 12/1 ก็ราคาพอ ๆ กันเลย ) และนอกจากนี้อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจคือ VDSL ซึ่งว่ากันว่าจะเข้ามาแทนที่ ADSL ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะจะช่วยขยายความเร็วการเชื่อมต่อ BB Internet ผ่านสายทองแดงไปได้ถึง 52Mb/13Mb ก็คอยติดตามชมกันต่อไปแล้วกันนะครับ
3.เทคโนโลยี 4G สำหรับบ้านเรา 3G เริ่มจะพอเห็นเค้าลางบ้างแล้วนะครับ แต่ก็ยังไม่เป็นรูปธรรมเท่าที่ควร แต่ในอเมริกา เครือข่าย Verizon เริ่มทดสอบเทคโนโลยี 4G อย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับในบ้านเรา CAT เริ่มต้นทำการตลาด 3G อย่างจริงจังด้วยการส่งระบบ CDMA 2000 1xEV-DO ลงในพื้นที่ 52 จังหวัด ยกเว้น กลุ่มจังหวัดพท.สัมปทานของ Hutch 25 จังหวัดภาคกลางและกรุงเทพฯ และนอกจากนี้ TOT เองก็เร่งขยายเครือข่าย 3G ให้กว้างมากขึ้น โดยข่าวแว่วว่า AIS จะมาขอเป็นคนขายให้เหมือน samart ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ใครที่ใช้บริการอยู่แล้วช่วยส่งเสียงหน่อยครับ :D
4.USB 3.0 ตอนนี้เมนบอร์ดคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่เริ่มทยอยใส่ USB 3.0 กันออกมามากขึ้น และ HD Ext. เริ่มมีรุ่นที่เป็น USB 3.0 มากขึ้น ด้วยคุณสมบัติความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลมากกว่า 4Gb/s และใช้พลังงานต่ำกว่า USB 2.0 ก็คงเป็นคำตอบว่า ปีนี้อุปกรณ์ USB ที่จะออกมาใหม่เกือบทั้งหมดคงจะเป็นเวอร์ชั่น 3 กันหมดอย่างแน่นอน
5.LightPeak ชื่อนี้อาจจะยังไม่คุ้น แต่เดียวอีกสักระยะเราคงจะคุ้นเคย เจ้า LightPeak เป็นผลงานของ Intel ที่ต้องการจะพัฒนาสื่อในการรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ เช่น เมนบอร์ดกับฮาร์ดดิสก์ โดยอาศัยเส้นใยแก้วนำแสง โดยสามารถทำความเร็วในการรับส่งได้ถึง 10Gb/s และยังใช้พลังงานต่ำกว่าสายทองแดง โดยหลักการของ LightPeak ก็จะคล้าย ๆ กับการรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์สวิตซ์โดยใช้เส้นใยแก้วนำแสงทั่วไป แต่จะมีขนาดเล็กลงมากๆ และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ยาวถึง 100m ซึ่งผมเองก็เชื่อว่า LightPeak น่าจะลงสู่ตลาดบนภายในช่วงปีนี้แน่นอน เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องความเร็วของสื่อนำสัญญาณที่ใช้สายทองแดงในปัจจุบัน เป็นปัญหาต่อการรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่
6. HDMI จะกลายเป็นมาตรฐานของสื่อการนำข้อมูลภาพ เนื่องด้วยในปัจจุบันข้อมูลที่ใช้ในการแสดงผลภาพเริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้น ภาพ 3D เริ่มเป็นนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น ดังนั้นสื่อกลางรับส่งข้อมูลภาพความเร็วสูงจึงเป็นสิ่งจำเป็น ล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว ทั้ง Intel และ AMD ประกาศภายในปี 2013 จะหยุดการสนับสนุนพอร์ต VGA ซึ่งเป็นพอร์ตที่เราใช้กันมายาวนานมากกว่า 20 ปี และอุปกรณ์ที่จะออกมาภายในปี 2015 จะเชื่อมต่อด้วย HDMI ทั้งหมด ซึ่งผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และภาพทั้งหลายต่างก็ขานรับนโยบายดังกล่าว เพราะมองเห็นถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
7.จอภาพความละเอียด 4MP กำลังจะมา ในขณะที่วันนี้ เราเริ่มหันมานิยมซื้อ LCD หรือ LED ทีวีกันมากขึ้น จนทีวีจอภาพแบบเก่าแทบไม่ต้องได้ขายกันและเริ่มสูญหายไปจากตลาด (สังเกตได้ ตอนนี้เดินไปในห้างหรูหลายแห่งไม่ปรากฏการตั้งโชว์ทีวีหลอดภาพอีกแล้ว) สิ่งหนึ่งที่เริ่มจะกลายเป็นมาตรฐานในคือ รีโซลูชั่นของจอภาพที่ความละเอียด 2 MP (1920 x 1080p60) ส่วนรีโซลูชั่นที่ 1.3 MP จะเหลือแต่รุ่นเล็ก ๆ ไม่เกิน 32 นิ้วราคาถูกเท่านั้น แต่เชื่อไหมครับไม่เกินสิ้นปีนี้ความละเอียด 2MP จะเริ่มตกกระป๋อง เพราะทีวีความละเอียด 4MP (4096×2160p24) กำลังจะมา ถ้าเราสังเกตดี ๆ ตอนนี้เริ่มมีการอ้างเทียบมาตรฐาน HDMI เวอร์ชั่น 1.4 กันแล้ว โดยเฉพาะในจอภาพ, AVR, และเครื่องเล่น BD รุ่นใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งสาย HDMI ขั้นเทพหลาย ๆ ยี่ห้อเริ่มมีการอ้างถึงมาตรฐาน HDMI 1.4 กันแล้ว ถามว่า HDMI 1.4 ต่างจาก 1.3 อย่างไร ตอบสั้น ๆ เลยครับ 1.3 ไม่สนับสนุนการแสดงผลภาพที่ความละเอียด 4MP แต่ 1.4 ออกมาเพื่อ 4MP และถามว่าทำไมต้องจอภาพ 4MP ดีกว่า 2MP มากแค่ไหน ตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ คือ ถ้าความต้องการเรื่องของแสดงผลภาพ 3D คือสิ่งที่เราต้องการต่อไปในอนาคต เทคโนโลยีจอภาพความละเอียด 4MP ก็ออกมาเพื่อรองรับการแสดงผลภาพ 3D โดยที่ผู้ใช้อาจไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตา 3D เหมือนเช่นในปัจจุบัน ตอนนี้เตรียมใจรับได้เลยครับ
8.ตลาด Tablet จะระอุมากกว่านี้ แหมกระทั่งในดินแดนสยามประเทศของเรา ปีนี้จะได้เห็น Tablet ยี่ห้อต่าง ๆ ที่พาเหรดกันออกมามากยิ่งขึ้นทั้งเริ่มตั้งแต่ Apple ซึ่งประกาศจะปล่อย iPad เวอร์ชั่น 2 ออกมาในกลางปีนี้ HP, Dell, Acer, Samsung , Toshiba , Asus, Lenovo, BlackBerry ต่างก็เตรียมตัวส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองออกสู่ท้องตลาด ที่ผมได้จับตัวเป็น ๆ ก็มี Dell Streak ทั้งแบบโทรศัพท์จอ 5", tablet 7", และกำลังรอดู 10" เห็นว่าไม่เกินเดือนมีนามาแน่นอน, Samsung GalaxyTab, Cisco Zeus , iPad แต่ความรู้สึกของผมไม่รู้จะเอามาทำไม เพราะชีวิตของอยู่กับเครื่องคอมตลอดทั้งวัน ผมคิดว่า Tablet น่าจะเหมาะกับใครที่ใช้งานแค่ "Viewer" มากกว่า เพราะเท่าที่ลองใช้แล้ว ไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไร หรืออาจจะเป็นหน้าที่ Input ที่เป็นงานประจำ ไม่สลับซับซ้อนมาก แต่จำเป็นต้องเคลื่อนที่บ่อย ๆ เช่น การเอามาใช้ในหอผู้ป่วยเป็นต้น
9. ตลาด OS ผมคิดว่าตลาด OS สำหรับ PC ยังไงก็ยังคงเป็นของ MS ยิ่งบ้านเราแล้ว ผมยังไม่เห็น Linux มันจะมีที่ท่ากระเตื้องขึ้นมาเลย เกิด ๆ ดับ ๆ ยังไงไม่รู้ เอาเป็นว่ารอดู Windows 8 แล้วกันนะครับ แต่ตลาด Mobile OS นี้ซิน่าสนใจ มีการพยากรณ์ว่าปีนี้น่าจะเป็นของ Android โดยเฉพาะเมื่อ Android 3 ออกมาเมื่อไร งานนี้ Apple มีเหนื่อยครับ ส่วน Windows Phone ก็ยังจะอยู่ในกลุ่มเดิม แหมการเปลี่ยนเป็น Windows Phone 7 อาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็ยังต้านแรงของ Android3 ไม่ได้ ดังนั้นใครสนใจจะพัฒนา App บนโทรศัพท์มือถือ เตรียม Android ไว้ได้เลยครับ
10.ตลาด CPU จะเติบโตขึ้น แต่ปีนี้ยังเชื่อว่ายังน่าจะเป็นปีของ Intel ในกลุ่มตลาด PC และ Server จะเห็นได้ว่า Core i รุ่นที่ 2 ที่ออกมาจะมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น รวมถึงการที่ทั้งสองค่ายจะผนวกเอา GPU ไปไว้ใน Die เดียวกับ CPU เท่ากับแสดงให้เห็นถึงความพยายามของทั้งสองค่ายที่จะผูกขาดตลาดในอนาคต แต่สิ่งที่น่าสนใจในตลาด Processor นี้ผมกลับไปให้น้ำหนักพวก embedded processor หรือ processor พลังงานต่ำ ซึ่งจากที่ได้เคยกลายไปคราวก่อน ฝั่ง ARM ก็ประกาศชน Intel ด้วยการส่ง processor ซึ่งใช้พลังงานต่ำอย่าง Cortex ลงแข่งขันในตลาด tablet และ netbook ซึ่งทาง MS เองก็สนใจแพลตฟอร์มของ ARM อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน และอีกอย่างหากเรามองอนาคตกันดี ๆ ต้องยอมรับว่าสองปีมานี้ ตลาด tablet และ netbook หรือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเริ่มเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ด้วยข้อดีคือ ต้นทุนถูก, ขนาดเล็กน้ำหนักเบาจึงง่ายต่อการพกพา, ใช้งานง่ายมีฟังค์ชั่นไม่สลับซับซ้อน, สามารถตอบความต้องการของผู้ใช้ได้ง่าย จึงต้องยอมรับครับว่าศึกนี้ต้องรอดูอีกหลายยก
11. WiFi 802.11n 108Mb/s จะกลายเป็นมาตรฐานแทนที่ b/g 54Mb/s ซึ่งจะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์พกพาทั้ง Notebook, Netbook, Tablet, Smartphone ที่ออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เริ่มจะติดตั้ง wireless lan มาตรฐาน 802.11n เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จึงคาดว่าปีนี้ n น่าจะต้องเป็นมาตรฐานของ WiFi
12. Social Network จะยังคงร้อนแรงต่อไป จะมีเว็บไซด์ Social Network ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ เป็นดอกเห็ด ผมยังเคยพูดเล่น ๆ กับใครต่อใครว่าอนาคต Social network อาจจะเข้ามาแทนที่การสื่อสานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ จนเราอาจไม่ต้องส่ง e-mail กันอีกแล้ว
13. Cloud Computing จะแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ในหลาย ๆ เรื่องและหลาย ๆ เทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านซอร์ฟแวร์ อย่างเช่นบริการของ social network ในอนาคตเราจะคุ้นเคยกับ SaaS กันมากยิ่งขึ้น องค์กรขนาดเล็กหรือขนาดกลางอาจไม่จำเป็นต้องทำ Data Center เอง ถ้าเทคโนโลยีเครือข่ายก้าวหน้ามากขึ้นกว่าปัจจุบัน
14. จอภาพแบบ OLED; Organic Light Emitting Diode กำลังจะมา ซึ่งด้วยคุณภาพที่บางเฉียบเหมือนกระดาษ และความสามารถในการแสดงภาพมีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ต่ำ ทำให้เทคโนโลยีจอภาพดังกล่าวเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ Samsung ในฐานะเป็นผู้ผลิตจอภาพแบบ OLED รายใหญ่ของโลกพยายามผลักดันตลาดอย่างเต็มที่จะเห็นได้จากจอภาพ AMOLED (Active - Matrix OLED ) ซึ่งตอนนี้เขาพัฒนามาสู่รุ่นที่สองซึ่งต้องชื่อเครื่องหมายการค้าว่า Super AMOLED ซึ่งอยู่ใน Samsung Galaxy S อีกสักระยะ เราคงจะได้เห็นจอภาพ OLED ออกสู่ตลาด consumer อย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งความจริงในปัจจุบันก็เริ่มออกมาแล้ว แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ยังมีราคาแพง เขาจะเน้นทำในจอภาพขนาดใหญ่ ระดับ 50 - 60 นิ้ว ซึ่งถ้าดู ๆ แล้วอะไรก็ดีไปหมดทุกอย่าง เสียอย่างเดียวก็ไอ้ราคาของมันนี้แหละ ทีวีอะไรดาวน์อัสดิสได้สบาย ๆ
15. มีเดียแบบ 3D ที่จะทยอยออกมามากขึ้น เราพูดถึงจอภาพ, สายสัญญาณกันไปแล้ว ถ้าจะไม่พูดถึงซอร์สมีเดีย ก็คงจะไม่ครบองค์ แน่นอนครับ ปีนี้ภาพยนต์ 3 มิติก็ทยอยออกมาฉาย ทั้งในรูปแบบของภาพยนต์ในโรงหนัง และในรูปของแผ่น BD มากยิ่งขึ้น เรียกว่าหนังดัง ๆ มีกันทุกเรื่อง สำหรับปีนี้โปรแกรมหนังฝรั่งดัง ๆ ทั้งหนังใหม่และหนังภาคต่อ ต่างก็จองคิวฉายในระบบ 3D กันแทบทุกเรื่อง ดังนั้นใครที่ชอบการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ และกำลังคิดจะลงทุนกับชุด HT ที่บ้าน อย่าลืมเผื่อ ๆ มาตรฐาน DBTrueHD, DTSMA , HDMI 1.4 และอุปกรณ์อย่าง Bluray Disc และ LED Monitor ไว้ด้วยนะครับ

68
นอกเรื่อง / IE 9 RC : เร็วจนน่าเหลือเชื่อ!!!
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2011, 08:57:47 AM »
มาแล้วครับ IE9 RC เปิดให้ dl ได้ที่ www.microsoft.com อยากให้ลองทดสอบกันดู เพราะเป็นเวอร์ชั่น RC แล้ว มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่น่าสน.. แถมความเร็วในการ render ที่เร็วกว่า IE8 จนเห็นได้ชัด ต้องลองครับ!!

69
นอกเรื่อง / จากใจคนที่กำลังจะใช้ SSB ถึง HosXP
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 01:20:49 AM »
"ทำงานกับ SSB แล้วมีแต่ความเบื่อหน่าย ผมเบื่อ SSB จริง ๆ ครับ" จะว่าไปก็เหมือนสาวไส้ให้กากินนะครับ ... ไม่มีอะไรในกอไผ่เท่ากับอยากบ่นเท่านั้นเองครับ อย่าสนใจเลยครับ เข้าเรื่องดีกว่า
อยากให้ HosXP ก้าวเข้าสู่งานหลังบ้านอย่างจริงจัง คือ ระบบงานการเงิน, บุคลากร, สต๊อก เพราะเท่าที่สังเกตการก้าวเดินจะเป็นการก้าวไปสู่งานบริการเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ส่วนใหญ่มากกว่า โดยการสร้างจุดแข็งในส่วนข้อมูลการบริการมากกว่าการตอบโจทย์คนทั้งโรงพยาบาล อาจเนื่องด้วยเหตุผลว่าคนหลังบ้านอาจจะมี Excel หรือโปรแกรมบัญชีอื่น ๆ อยู่แล้วหรือเปล่า และเท่าที่ทราบ HosXP ก็ไปดึงเอาโปรแกรมบัญชีในลักษณะ 3rd Party เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน แต่ผมก็มองว่ายังไม่ใช่ทางผลลัพธ์ที่น่าสนใจ เพราะคนทำบัญชีต้องเอาตัวเลขจากงานบริการหลาย ๆ จุด มาย้ำรวมกับข้อมูลหลังบ้านทั้งเรื่องสต๊อก, บุคลากร หรือเรื่องหนี้สิน ก่อนที่จะสามารถสรุปยอดงบทางการเงินประจำเดือนหรือสถิติต้นทุนของโรงพยาบาลในแต่รายโรคได้ สิ่งที่ผมคิด คือ อยากให้ HosXP มุ่งเน้นตอบโจทย์คนทั้งโรงพยาบาลก่อนที่จะพูดถึงคำว่า DataCenter ระดับจังหวัด เพราะผมเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้องค์กรเดินหน้าไปได้ คือ ทุนทรัพย์ .. สิ่งที่เราพูดกันวันนี้คือความสำเร็จในการสร้าง DataCenter ระดับจังหวัดเพือพยากรณ์การระบาดของโรคหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานบริการ แต่เราตอบได้หรือไม่ว่าตอนนี้รพท.ในจังหวัดต้องแบกรับต้นทุนผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคต่าง ๆ เท่าไร รพ.ใดมีต้นทุนการรักษาพยาบาลต่อโรคที่สูงกว่า อะไรคือสาเหตุของต้นทุนที่สูง ผมมองเปรียบเทียบ SSB สิ่งที่เขาทำคือการแบ่งทีมเป็นทีมหน้าบ้านกับทีมหลังบ้าน แต่สองทีมจะทำงานร่วมกันเพื่อตอบโจทย์ข้อมูลสถิติแทบทุกเรื่องในรพ. สิ่งที่เขาแสดงให้ดู เขาสามารถตอบโจทย์ข้อมูลกำไรขาดทุนรายวันในผู้ป่วยแต่ละกลุ่มโรคได้โดยอาศัยหลักการทางบัญชี ... สิ่งที่ผมเสนอ เพียงเพื่ออยากเห็นการก้าวเดินของ HosXP เพื่อให้ตอบโจทย์ของคนทั้งรพ.ให้ได้ครบถ้วนอย่างแท้จริงครับ หากใครจะมองเป็นอื่น ผมขอโทษด้วยนะครับ

70
นอกเรื่อง / Windows 7 Tweak
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 15:14:06 PM »
แย่จังฤดูร้อนเริ่มมาเยือนแล้วครับ นี้พึ่งต้นเดือนกุมภาพันธ์เองนะ ทำไมช่วงบ่ายถึงร้อนขนาดนี้ ....Windows 7 Tweak สอนวิธีการแก้ไขส่วนต่าง ๆ ของ Windows 7 ให้สามารถทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใครสนใจก็ลอง dl ไปดูนะครับ

http://rapidshare.com/files/445922899/Windows_7_Tweaks.pdf

71
นอกเรื่อง / โดเมนชื่อไทย "เจ๊จง.ไทย"
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 15:54:54 PM »
เข้าไปดูมาเลยเอามาบอกเผื่อใครสนใจ เช่น อาจารย์อ๊อด.ไทย (ขออนุญาตพาดพิงนะครับ) ผมยืนเรื่องของรพ.ไปกำลังรอการตรวจสอบเอกสารของ THNIC อยู่ ..

http://www.thnic.net/service
http://www.youtube.com/watch?v=ERLrFXZWm2s

72
เป็นข่าวที่น่าสนใจครับ เลยเอามาฝาก

Microsoft has asked Intel to develop a 16-core version of its low-power Atom chip for use in servers, part of a wider effort to reduce power consumption in its massive data centers, a Microsoft executive said Thursday.

There's a "huge opportunity" to improve energy efficiency by using servers based on small, low-power chip designs such as Intel's Atom and Advanced Micro Devices' Bobcat, said Dileep Bhandarkar, a distinguished engineer with Microsoft's Global Foundation Services, which runs the company's data centers.

The small chips use little power because they were designed for use in mobile computers such as netbooks. But they are also more energy-efficient for some server workloads than processors like Intel's powerful Xeon chips, Bhandarkar said in a speech at The Linley Group Data Center Conference in Silicon Valley.

Microsoft's data centers power mostly Web-centric applications like Bing, Hotmail, and Windows Live Messenger, as well as hosted versions of business applications such as Sharepoint and Exchange.

It's no secret that Microsoft and other big data-center operators are experimenting with small, low-power chips. Vendors such as Dell are already selling servers based on Via's Nano processor. Bhandarkar's comments show Microsoft's keen interest in alternative designs and that it has made some specific requests to Intel and AMD.

The processors should also use a more integrated, system-on-chip design, he said. "When you look at these tiny cores, another way of making them work in a very efficient way is [not to] surround them with a whole bunch of south bridges and network controllers. ... Essentially, the tiny cores and systems-on-chip should go together."

Microsoft has enough buying power to pressure vendors into designing equipment that meets its specifications, and Intel is likely to release an Atom chip for servers eventually, said Linley Gwennap, founder and principal analyst at The Linley Group.

"I think Intel is going to have to do it at some point. We're seeing more of the ARM guys going after the server market and just to compete on power performance per watt, Intel is going to have to rely on the Atom CPU," he said.

Bhandarkar said there may be a role at Microsoft for ARM-based servers, but he also said the architecture faces significant hurdles. "If ARM can show us enough value over an x86 solution we might consider that," he said. But there has to be a clear performance benefit.

"Instruction-set transitions are extremely painful," Bhandarkar said. "As a general rule of thumb, you have to have a sustainable improvement per dollar per watt of at least 2x -- some would say 5x -- but it's at least 2x" to make it worthwhile.

"For some apps where you don't have that dependency the number could be smaller," he said. "ARM's an interesting thing to look at and, if nothing else, if it lights a fire under Intel and AMD to deliver more effective x86 solutions, I'm happy."

Microsoft said recently it would port Windows to ARM processors for use in mobile devices such as tablet computers. But that's different from PCs and servers, Bhandarkar argued, which are expected to run a wide range of existing software.

ARM, which is developing a more powerful chip design for servers and switches, is more optimistic. It notes that some servers need to run only a handful of programs, such as the Lamp stack (Linux, Apache, the MySQL database and PHP).

Gwennap too said ARM processors could play a part in data centers. And while they are likely to be used initially by large Internet companies and collocation providers, they may also be used in the enterprise for some applications.

"Clearly software is a big barrier, but some customers are willing to work with that," he said. "It's going to be a longer-term thing, but if ARM can get established in large data centers first and then migrate to enterprise applications, there could be some momentum there."

An Intel spokesman noted that HP sells a home media server with an Atom processor, but Intel has "no announcements to make" regarding Atom chips for data centers, he said.

He also noted that Google and Microsoft have, in the past, argued in favor of more powerful chips. "[A]lthough we're enthusiastic users of multicore systems, and believe that throughput-oriented designs generally beat peak-performance-oriented designs, smaller isn't always better," Google wrote in a research paper last year.

But Bhandarkar said there are diminishing returns in moving to chips with more cores and higher clock speeds, at least for Microsoft. The company looks at performance per watt per dollar when choosing hardware, and the performance gains from beefier chips don't make up for the increase in power use, he said. "So in many of our configurations, we only populate one socket with a quad-core" processor, he said.

Processors are just one part of the energy-efficiency equation for Microsoft, which looks at its data centers holistically. It provides server makers with fairly strict specifications and asks them to compete for its business.

It has installed servers with no fans, for example, moving them to the rack level instead for greater efficiency. It also specifies servers with no CD or DVD drive, fewer DIMM slots and PCI cards, and power supplies rated to the Gold or Platinum standard by the Climate Savers Initiative.

See more like this:intel,microsoft,cpu architecture

ที่มา http://www.pcworld.com/article/218029/microsoft_presses_intel_for_16core_atom_chip.html

73
นอกเรื่อง / Google Chrome OS
« เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 22:33:49 PM »
รอกันมานานครับ ออกมาให้เห็นกันแล้วนะครับ ใครสนใจเข้าไปดูได้ที่ http://www.chromium.org/

74
นอกเรื่อง / หน้านี้เพื่อสาวก Ubuntu
« เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 00:10:39 AM »
Ubuntu Unleashed 2011 Edition

http://hotfile.com/dl/99701846/662dfaa/Sams.Ubuntu.Unleashed.2011.Edition.Dec.2010.rar.html

คงถูกใจสาวก Ubuntu นะครับ

75
นอกเรื่อง / SRS Audio Sanbox
« เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 00:28:44 AM »
โปรแกรมดี ๆ สำหรับการดูหนังฟังเพลงบน NB & PC ครับ

http://www.fileserve.com/file/GgBumtJ

76
นอกเรื่อง / High Availability MySQL Cookbook
« เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 22:54:50 PM »
จัดไปสำหรับคนรัก MySQL  ;D

http://www.filesonic.com/file/50710745/1847199941.rar

77
เล่มแรกชื่อ Illustrated C# 2010 สอนไวยกรณ์พื้นฐานของภาษา C# อ่านแล้วดีมากครับ ผมอ่านเล่มนี้ทำให้เข้าใจพื้นฐานไวยกรณ์ของ C# เลย
เล่มสองชื่อ Beginning Visual C# 2010 ถ้าใครอ่านเล่มแรกแล้วจะผ่านเล่มนี้เร็วมากครับ ก็จะเน้นการประยุกต์เขียนแบบ Visual แล้ว
ลองดูนะครับ สำหรับใครที่อยากหัดเขียน C#

http://hotfile.com/dl/95664816/e43e488/Apress.Illustrated.CSharp.2010.Dec.2010.rar.html
http://www.fileserve.com/file/SjpPseg/Wrox.Beginning.Visual.CSharp.2010.Mar.2010.rar

78
นอกเรื่อง / Magic Quadrant for Endpoint Protection by Gartner
« เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 10:29:28 AM »
พอดีบริษัทส่งมาให้อ่านครับ เห็นว่ามีประโยชน์ ใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ Endpoint Protection ครับ

80
ที่จะได้แสดงความจงรักภักดีต่อพ่อหลวงของเราที่ www.9forking.com

81
พอดีอ่านข่าวมาน่าสนใจเลยเอามาเล่าสู่กันฟัง ... และแล้วยักษ์ใหญ่แห่งวงการ IT อย่าง HP หลังจากที่ซื้อกิจการ 3Com และ H3C เข้ามาในอาณาจักรเป็นที่เรียบร้อย และมีการปรับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และองค์กร จัดตำแหน่งใน portfolio ใหม่จนกลายมาเป็น HP Networking วันนี้ HP สร้างความท้าทายใหม่และความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าด้วยการประกาศเปลี่ยนระบบดาต้าเซ็นเตอร์ของบริษัททั้ง 6 แห่งให้เป็นเขตปลอดผลิตภัณฑ์ของซิสโก้โดยสมบูรณ์ ด้วยการติดตั้งผลิตภัณฑ์ HP Networking และ HP Trippingpoint  และจะดำเนินการทยอยเปลี่ยนในระบบเครือข่ายของ HP ทั่วโลกเพื่อนำเสนอให้ลูกค้าให้เห็นถึงการตอบสนองความต้องการในทุกระดับด้วยเทคโนโลยีแบบเปิดที่ถูกล๊อคมานานนับทศวรรษ .... และแล้วก็ถึงเวลาที่ HP จะเริ่มถอนทุนคืนจากการซื้อ 3Com แล้วครับท่านผู้ชม
Ref : http://www.hp.com/hpinfo/newsroom/press/2010/100927d.html

ในมุมมองแล้วการประกาศความท้าทายครั้งนี้ คือ แผนหนึ่งของ HP ที่ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดอุปกรณ์เครือข่ายหลังจากที่ตกเป็นของซิสโก้มานาน ซึ่งก็เป็นเป้าหมายหลักของ HP ในการควักกระเป๋าประมาณ 2.7 พันล้านเหรียญเข้าซื้อกิจการ 3Com ซึ่งถ้าเรามองกันดี ๆ ที่ผ่านมาถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เครือข่ายของ HP ก็จะเพียงแต่ ProCurve ซึ่งจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ เล็กก็ไม่เล็ก หรือพูดให้ดูดีหน่อยคืออยู่ในระดับ mid-range ดังนั้นการซื้อ 3Com และ H3C มาครั้งนี้ คือ การเติม Porfolio ในเรื่องอุปกรณ์เครือข่ายให้เต็มตั้งแต่ entry จนถึง enterprise เพื่อเขย่าบัลลังฆ์ของซิสโก้ ...

82
นอกเรื่อง / หัดเขียนโปรแกรม DB บน IPaq & IPhone
« เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2010, 09:49:00 AM »
หัดเขียนโปรแกรม DB บน IPaq & IPhone ด้วย Xcode & SQLite ครับ

http://hotfile.com/dl/82269544/e721f42/Professional.iPhone.and.iPad.rar.html

83
นอกเรื่อง / Windows 7 God Mode
« เมื่อ: ตุลาคม 30, 2010, 22:51:55 PM »
ถือว่าเป็น Easter Egg ของ Windows 7 ครับ
- สร้าง  New Folder
- เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ดังกล่าวให้เป็น GodMode.{ED7BA470-8E54-465E-825C-99712043E01C}
- กดโอเค เสร็จแล้วครับ
ลองดูนะครับ

84
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่รพ.เกิดปัญหาเครื่องไคลเอนท์เกือบทั้งหมดถูกไวรัสโจมตีอย่างรุนแรง ส่งผลให้การจราจรในเครือข่ายต้องการเป็นจราจล เนื่องจากมีแพ็คเก็จถูกยิงออกจากเครื่องที่เป็นเหยื่อไปยังเครื่องอื่น ๆ และส่งแพ็คเก็จรบกวนระบบ จนทำให้เครื่องไคลเอนท์ไม่สามารถติดต่อเครื่องแม่ข่ายได้นับตั้งแต่วันจันทร์ ผมพยายามตรวจสอบในระบบของ Trend Micro พบว่าแม้กระทั่งเครื่องแม่ข่ายที่เป็น console ยังโดนยิงจน service ของ Trend Micro ปิดลง (DoS)
เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นในวันอังคาร หลังจากหยุดไปหลายวัน ชาวรพ.เริ่มกลับมาทำงานตามปกติ และคนไข้ก็มากันมาก ผมพยายามใช้ฟังก์ชั่น Breakout เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส แต่กลับกลายเป็นไปส่งผลให้เครื่องไคลเอนท์ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากไวรัสดังกล่าวเน้นยิงเข้าพอร์ตที่สำคัญ เช่น พอร์ต 80 ซึ่ง HIS ที่รพ.ใช้ก็เป็น Web App ซึ่งต้องอาศัยพอร์ต 80 เป็นหลัก ผมเริ่มสังหรณ์ใจแล้วว่างานจะเข้าอีกแล้ว พอจะสรุปได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากไวรัสที่ชื่อ Downad.AD ซึ่งเคยสร้างความเสียหายในรพ.ผมครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนั้นกว่าจะควบคุมได้ก็เหนื่อยไปหลายวันเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมา Trend Micro ไม่สามารถจัดการได้อย่างสิ้นซาก ซึ่งพบเห็นรายงานมาเป็นระยะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะประทุความรุนแรงขึ้นมาอีก
เข้าสู่วันพุธ เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขนาดบางหน่วยงานไม่สามารถเข้าใช้งาน HIS ได้เลย ผมตรวจดูบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ทั้งจำนวนเธรดงาน, cpu utilized, memory utilized, network utilize ก็ดูปกติ เหมือนเครื่องแทบไม่ได้ทำงาน ไม่มีการเชื่อมต่อมาจากเครื่องลูกข่ายเลย ทั้งที่มีคนพยายามเชื่อมต่อมาจากทั้งรพ. ไม่เหมือนกับคราวก่อนที่ซีพียูก็แทบไหม้ ผมพยายามจะสั่ง breakout เครื่องที่เป็นตัวยิงออก (ก็เท่ากับเกือบครึ่งของจำนวนเครื่องทั้งรพ.) แต่ก็ไม่สามารถ ทำได้เพียงการสแกนเครื่องทั้งระบบ แต่ก็ไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้ เริ่มมีเจ้าหน้าที่และคนไข้ไปร้องเรียนผู้อำนวยการจนหน้าห้องต้องโทรมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมตอบได้แค่ว่าไวรัสโจมตีระบบอยู่ กำลังเร่งดำเนินการแก้ไข จนตกบ่ายผมประเมินสถานการณ์แล้ว หากยังคงพึ่ง Trend Micro ต่อคงไม่มีดีไปกว่านี้ เพราะจริง ๆ แล้วปัญหาไวรัสตัวที่เป็นปัญหาก็มีมานาน แต่ที่ผ่านมา Trend Micro ก็ไม่สามารถจัดการไวรัสดังกล่าวแบบถอนรากถอนโคนได้ เมื่อเดือนก่อนผมเองก็พยายามพิจารณาถึงผลได้ผลเสียหากจะต่อ MA กับทาง Trend Micro ต่อ ซึ่งในตอนนั้นก็มองไม่เห็นโซลูชั่นไหนที่จะเหมาะกับรพ. เพราะโจทย์ของผมคือ ถูก, ไม่กินรีซอร์สเครื่องมาก, ติดตั้งง่าย, อัพเดทง่าย ซึ่ง Trend Micro ก็ตอบโจทย์พวกนี้ได้ แต่ไม่ตอบโจทย์ผมมากในเรื่องประสิทธิภาพ ผมจึงตัดสินใจตาม Gogreen (Kaspersky Corporate Distributor) ให้เข้ามาดูปัญหา อาจด้วยความเชื่อมั่นใน Kaspersky และอีกอย่างเครื่องของตัวเองที่ใช้ทั้งที่บ้านและที่โรงพยาบาลทั้ง notebook และ desktop ก็ใช้แต่ KIS มาโดยตลอด ก็ไม่มีปัญหาอะไร บ่อยครั้งที่จะเห็นโปรแกรมเตือนว่ามีการยิงโจมตีจากเครื่องอื่น ๆ ในเครือข่าย ทาง Gogreen รับนัดว่าจะเข้ามาวันนี้ในช่วงเช้า แต่ได้ทำการส่ง Trial Key มาให้ก่อนในช่วงเย็นวันพุธ
วันพฤหัสก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมยังไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ได้ เครือข่ายในรพ.แทบเป็นอัมพาต ผมใช้โปรแกรมติดตามเครือข่ายเพื่อประเมินดูมีการโจมตีหนัก ๆ มาจากโซนไหน โดยประเมินจากปริมาณแพ็คเก็จที่บอร์ดแคสออกมา จะได้เลือกเป็นเป้าหมายแรกในการแก้ไขปัญหา ปรากฏว่าคนใกล้ตัวผมทั้งนั้น ทั้งห้องจ่ายยานอก, ห้องจ่ายยาใน, ห้องบัตร, ห้องแล็บ ซึ่งผมสันนิษฐานจากพฤติกรรมการใช้งาน เครื่องคอมในห้องดังกล่าวเป็นจุดที่มีการใช้งานเยอะ ซึ่งนอกจากใช้ HIS แล้วก็ใช้งานพวก Internet และการ download เกมส์ต่าง ๆ มาลงในเครื่อง บ่ายวันพฤหัสผมพยายามติดตั้ง KAV แต่ก็ไม่สำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากวิธีการติดตั้งระบบของ KAV Corporate Edition และ Home Edition แตกต่างกัน จึงต้องรอจนวันศุกร์ และบรรเทาความเดือนร้อนให้กับหน่วยงานที่มีปัญหารุนแรงมากไปก่อน
วันนี้เจ้าหน้าที่ของ Gogreen มาหาผมประมาณ 10 โมง หลังจากเข้ามา ทางจนท.ของ Gogreen ได้เริ่มต้นทำการติดตั้ง KAV ลงในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของรพ.ที่ผมเตรียมไว้ให้ และได้ทำ script สำหรับ uninstall Trend Micro และ Deployment KAV ลงในเครื่องไคลเอนท์ โดยไล่จากเครื่องที่มีปัญหารุนแรงและเป็นตัวยิงเครื่องอื่นก่อน ผมนั่งช่วยจนท.ของ Gogreen จัดการระบบจนถึงช่วงเย็นประมาณ 5 โมงครึ่ง ในช่วงบ่ายปัญหาเริ่มสงบลง วันนี้ผมได้จัดการ replace Trend Micro ด้วย KAV โดยเลือกเอาเครื่องของหน่วยงานที่สำคัญและมีปัญหาเยอะมากก่อน เสาร์อาทิตย์นี้จะสั่งให้ลูกน้องทยอยไล่เปลี่ยนให้ได้มากที่สุด ช่วงหัวค่ำผมนั่งเล่าเหตุการณ์ให้ผบทบ.ฟัง เธอก็ถามว่าทำไมแค่ซื้อ Antivirus มันต้องใช้เงินหลายแสนเลยหรือเดียวรพ.ก็ถังแตกหรอก ที่อย.ก็ใช้ของก็อปก็เห็นใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อของแท้ให้แพงขนาดนั้นเลย ผมก็ตอบว่าจริง ๆ ผมไม่อยากลงทุนเยอะขนาดนั้นหรอก แต่เรื่องพวกนี้ไม่เคยเจอกับตัวเองไม่รู้ว่ามันวุ่นวายมากแค่ไหน สองสามวันนี้ผมไม่ต้องทำอะไรนอกจากรับโทรศัพท์เรื่องนี้ ผมก็บอกเธอว่าเห็นเธอชอบบ่นว่าเซิร์ฟเวอร์ที่อย.ล่มบ่อย ๆ จนทำงานระบบไม่ได้ ผมก็บอกว่าไอ้ที่ล่มบ่อย ๆ มันไม่ใช่เพราะเซิร์ฟเวอร์เขาไม่ดีหรอก แต่มันล่มเพราะเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยนี้แหละ ด้วยความที่เครื่องที่บ้านไม่เคยเจอปัญหาไวรัสลงจนข้อมูลเสียหายก็ไม่เข้าใจ ผมยังอธิบายต่อว่า ถ้าสักวันหนึ่งไวรัสลงเครื่องที่บ้าน จนไฟล์ภาพเสียหายหมด เขาก็จะเข้าใจดีว่าทำไมหลาย ๆ องค์กรถึงยอดเสียเงินปีหนึ่งว่าเป็นหลักล้านสำหรับค่าลิขสิทธิ์ของพวก antivirus
จบจากเหตุการณ์นี้ผมโทรศัพท์ไปหาพัสดุขอระงับเรื่องจัดซื้อ MA Trend Micro และคงจะดำเนินการจัดซื้อ KAV แทน ..... จบงานนี้ผมได้ประสบการณ์อีกเยอะเลยครับและอยากเอามาเล่าให้สมาชิกฟังเผื่อใครจะได้เจอปัญหาเหมือนกับผม หลายคนคงอาจคิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องลงทุนเยอะก็ไม่เคยเจอปัญหา ก็ถือว่าโชคดีไปครับ แต่ถ้าเจอเข้าสักทีแบบผมที่เจอสองสามวันนี้ ก็จะเข้าใจดีว่ามันแย่แค่ไหน ตอนนี้ผมเองก็มีแผนจะติดตั้งเครื่องมืออีกหลายตัว กำลังพิจารณาทั้ง Network Management , Deployment Management, Patch Management, Inventory Management ใครเคยมีประสบการณ์ขอคำแนะนำด้วยนะครับ

85
นอกเรื่อง / MySQL ebook
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2010, 22:46:01 PM »

86
ตามหัวข้อเลยครับ ใครมีบอกหน่อยครับ หรือหลังไมค์ก็ได้ ทางนี้ต้องการด่วน

87
นอกเรื่อง / MSN Messenger 2011
« เมื่อ: ตุลาคม 20, 2010, 18:34:08 PM »
ฝากข่าวสำหรับสาวก MSN ตอนนี้เขาออกเวอร์ชั่นใหม่แล้วนะครับ ไฉไลมาก มีออพชั่นใหม่เพิ่มขึ้นมาหลายอย่างคือ
Window Live Mesh คือการถ่ายโอนไฟล์หรือการซิงโครนัสไฟล์กันในกลุ่มเพื่อน
Messenger Companion คือการแลกเปลี่ยน link ไปยังเพจต่าง ๆ และให้เพื่อน ๆ ช่วยกันคอมเมนต์ลิงค์นั้น ๆ ได้
Outlook Connector Pack คือโปรแกรมเสริมสำหรับคนที่ใช้ Outlook 2010 ให้สามารถเชื่อมต่อ Outlook เข้ากับตู้จดหมาย hotmail และดึงข้อมูลจาก calendar ใน outlook เพื่อส่งไปเป็นจดหมายเตือนนัดให้เราก็ได้
ดังนั้นถ้าใครผนวก Outlook 2010 + MySpace + Skydrive + MSN Messanger Service + Windows Phone + My Phone Web Service เราก็สามารถใช้ Outlook เป็น PIM ที่ครอบจักรวาลแล้วครับ ลองดูนะครับ

88
หลังจากที่เซ็งชีวิตกับของเกรดจีนแดง ซื้ออันละ 150 ใช้ได้เดือนสองเดือนเจ๊ง อันที่สองพังจากไป เริ่มสำนึกว่าหากยังดื้อดึงใช้ต่อไป คงมีแต่เสียเงินไม่สิ้นสุด ขอตัดใจซื้อของดีใช้ดีกว่า แม้จะเป็นคนเล่นเกมส์น้อย แต่ถ้าพอมีเวลาก็ต้องเล่น ก็เลยตัดใจไม่ถูกอันไหนจะเวิร์ค เลยขอถามขาเกมส์ สูตรไหนน่าสน
1.จอย PS2 ของแท้ + ตัวแปรง เบ็ดเสร็จประมาณ 800 บาท
2.Saitek F580 อันละ 850 บาท
3.Logitech Cordless Rumblepad2 (http://www.logitech.com/en-us/gaming/controllers/devices/287) อันละ 1400
4.Microsoft Wireless X360 for Windows (http://www.microsoft.com/hardware/gaming/ProductDetails.aspx?pid=090) อันละ 1800

89
นอกเรื่อง / Trailer : Need For Speed Hot Pursuite
« เมื่อ: ตุลาคม 15, 2010, 23:14:23 PM »
เอาข่าวของเกมส์ดัง Need For Speed จากค่าย EA มาบอกเล่า เวอร์ชั่นล่าสุด Hot Pursuite E3 Reveal ตื่นเต้นมากครับ โดยเฉพาะเมื่อได้ดู Trailer ของเขา นึกว่าว่าตัวอย่างหนังเสียอีก เลยเอามาให้สมาชิกดู ใครเป็นแฟน NFS เตรียมตัวเลยครับ เตรียมดาวน์โหลด เอย!! เตรียมซื้อแผ่นได้เลยครับ  ;D ;D ;D

Race or Chase 16 * Nov * 2010

90
นอกเรื่อง / ฟอนต์ไทยจาก SIPA
« เมื่อ: ตุลาคม 14, 2010, 18:06:37 PM »
ไม่รู้ว่าได้รับหนังสือจากสป.กันบ้างแล้วยังครับ เรื่องคำสั่งจากสำนักนายกฯที่สั่งให้หน่วยราชการเปลี่ยนฟอนต์ในหนังสือราชการใหม่ ... ลูกน้องบอกสงสัยเขาคงไม่มีอะไรทำ ... เหอะๆๆๆ ผมก็อธิบายว่าเขาคงอยากผลักดัน OpenSource ให้เป็นรูปเป็นร่าง และไม่อยากให้ประเทศไทยยึดติดอยู่กับ Angsana มั้ง ก็คงเหตุผลประมาณนี้แหละ วันนี้ก็เลยเข้าไปหาบนเว็บ แล้วก็จัดแจงแยกไฟล์เอามาฝากสมาชิก ....

http://hotfile.com/dl/75933478/6ebe893/ThaiFont.rar.html

91
เมื่อช่วงหัวค่ำบังเอิญคุยกับเซลล์ของ IBM เรื่องงาน เขาเลยปรึกษาว่าเขามีปัญหาวุ้นในตาเสื่อม ไปหาหมอแล้ว หมอบอกไม่มีทางรักษา .... ก็เลยมาพลิกตำราหลายเล่ม, เข้าไปดูข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต เลยอยากเอามาเล่าให้สมาชิกฟัง ... โรควุ้นในตาเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของส่วนที่เรียกว่าวุ้นตา คนที่เป็นหนัก ๆ มันจะลามไปซึ่งจอประสาทตา ซึ่งอาจถึงทำให้ตาฝาฟางถึงบอดได้ ... แล้วไอ้โรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ประเด็นแรกคือเป็นความเสื่อมซึ่งคนวัยหกสิบขึ้นไปมีโอกาสเป็น, ต่อมาคือสายตาสั้นแล้วไม่ยอมใส่แว่น ต้องเพ็งอะไรเป็นประจำ, การติดเชื่อโรค, การเกิดอุบัติเหตุ, การใช้สายตาเพ็งหรือมองแสงจ้าเป็นประจำ ... คนที่ใช้คอมประจำจะเจอมาก !!!! อาการที่เป็นคือแรก ๆ จะเหมือนเห็นฟองอากาศหรือเส้นริวลอยไปลอยมา หนักเขาเริ่มมีปัญหามองภาพบางจุดเบี้ยว หนักเขาก็เริ่มเกิดภาพมัวเป็นจุด ๆ จนเริ่มเกิดจุดดำบนภาพที่มองเห็น จนถึงบอด การรักษาในปัจจุบันบอกได้คำเดียวครับว่าไม่มี มีแต่การใช้เลเซอร์เพื่อชะลอเท่านั้น ดังนั้นเราต้องรักษาตัวเองด้วยการใช้สายตาอย่างถนอม จึงเป็นเรื่องที่เอาบอกเล่าให้สมาชิกทุกคนฟัง เพราะผมเชื่อว่าสมาชิกในห้องนี้ทุกคนคงเป็นเหมือนกันคือชีวิตนี้อยู่กับคอมมากกว่าอยู่กับเมีย เหอะๆๆ  ;D

92
ขณะนี้อาจมีสมาชิกบางท่าน ได้รับหนังสือคำสั่งแต่งคั้งคณะทำงานพัฒนารพศ./รพท. จากสบส.สป.สธ. ซึ่งใจความสำคัญถึงภารกิจการพัฒนาศูนย์ข้อมูลสำหรับรพศ./รพท. (ขออนุญาตไม่ใช่คำว่า DataCenter นะครับ ผมว่ามันเฟ้อจัง  ;D ;D ;D) ซึงแนวทางที่น่าจะเป็นคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงบริหาร เช่น ข้อมูลการเงิน, ข้อมูลกำลังคน, สรุปสถิติต่าง ๆ ซึ่งรพ.พระนั่งเกล้าอาจจะรับเป็นผู้บริการศูนย์ข้อมูลสำหรับโครงการนี้ ผมจึงได้รับโจทย์จากผอ.ถึงเรื่องของ infra สำหรับการเชื่อมโยงข้อมูลครับ จึงอยากรบกวนขอความเห็นสมาชิกหลาย ๆ ท่านที่อยู่รพท.หรือรพศ.หรือรพช.ก็ได้นะครับ  :) ถึงแนวทางในการเชื่อมต่อข้อมูลซึ่งตอนนี้ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไร แนวทางที่ผมคิดไว้คือ
1.ฐานข้อมูลส่วนกลางที่ผมจะเลือกใช้คือ MS SQL
2.การส่งข้อมูลจะเป็นการ sync ข้อมูลแบบอัตโนมัติ  อาจกำหนดความถี่วันละครั้ง หรือสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง ก็แล้วแต่นโยบายของคณะทำงานครับ
3.การรับส่งข้อมูลจะใช้ผ่านท่อ VPN แบบ IPSec เข้าที่รพ.พระนั่งเกล้า ซึ่งแต่ละรพ.จะได้ Authen Key กันไปไม่ซ้ำกัน ซึ่งการเชื่อมต่อเข้ามานั้น จะได้เฉพาะรพ.ที่ใช้ ip static เท่านั้นครับ เพราะผมต้องเซ็ต ip ที่เชื่อมเข้ามาในเกตเวย์ของผม หลังจากที่เชื่อมเข้ามา จะเปิด port ให้เฉพาะบริการรับส่งข้อมูลเท่านั้น และเปิดให้เข้าถึงแค่ server ที่เก็บข้อมูลเท่านั้น ซึ่งผมอยากให้เป็นลักษณะ server คุยกันเอง ดังนั้นถ้าเป็น MS SQL <> MS SQL ก็จะง่ายกับผมในการเซ็ต
4.การนำข้อมุลไปใช้งานก็ใช้ลักษณะผ่าน web ของชมรมรพท.รพศ. ซึ่งอาจจะอยู่ในรูป dashboard หรือตารางสรุป ซึ่งคงต้องมาคุยกันในรายละเอียดครับ
สมาชิกท่านใดพอจะไอเดียใด ๆ ช่วยแสดงความคิดเห็นมาหน่อยนะครับ

93
นอกเรื่อง / แจกเกมส์ค่าย GameHouse ครับ
« เมื่อ: กันยายน 25, 2010, 09:29:35 AM »
http://www.mediafire.com/?sharekey=2dbbfe42a7313b187172638919447f8b67d665db4e85e3cd

สรรพคุณ สร้างความบันเทิงใจ ช่วยลดอาการ office sick
วิธีใช้ ใช้เมื่อมีอาการ ทุก ๆ 4 - 6 ชม.
ข้อควรระวัง การใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดอาการติด และอาจทำให้เกิดอาการเสียงานเสียการ หรืออาการตกงานได้
อาการอันไม่พึ่งประสงค์ ทำให้เวลาทำงานลดลง, อาจเกิดอาการเครียดเนื่องจากงานไม่เสร็จ
วิธีแก้พิษเบื้องต้น ปิดเครื่องคอม, เดินออกไปสูดลมหายใจนอกห้อง แล้วนึกถึงเสียงด่าของผอ.เวลาระบบล่ม

 ;D ;D ;D

94
นอกเรื่อง / Threat Management Gateway 2010 (ISA Server) vs BlueCoat ProxySG
« เมื่อ: กันยายน 18, 2010, 19:34:54 PM »
ไปเจอมาจาก www.izitcer.com น่าสนใจเลยหยิบมาให้อ่านครับ

TMG 2010 หรือ ISA Server 2010 นั้นเป็นซอฟท์แวร์ประเภท Security Gateway ที่ผมเขียนอย่างนี้ก็เพราะว่า TMG 2010 นั้นไม่ได้เป็นแค่ Proxy เหมือนกับบรรพบุรุษอย่าง Microsoft Proxy Server อีกแล้ว แต่ TMG 2010 ในปัจจุบันมีทั้ง Firewall, VPN, IPS, Anti-Spam, Content Inspection, URL Filtering, Load Balance และอื่นๆอีกมากมาย ด้วยเหตุนี้เองจึงจัดว่า TMG 2010 เป็น Security Gateway ไปเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ หากนำฟีเจอร์ทั้งหมดของ TMG 2010 ไปเปรียบเทียบกับอุปกรณ์หรือซอฟท์แวร์ที่ทำหน้าที่ในด้านนั้นๆเพียงอย่างเดียว อย่างเช่น เปรียบเทียบ IPS ของ TMG 2010 กับ IPS จาก TippingPoint หรือเปรียบเทียบ Antispam ของ TMG 2010 กับ Antispam จาก Ironport (Cisco ซื้อไปแล้ว) ก็คงต้องบอกว่าคงจะสู้ไม่ได้

แต่ข้อดีของ TMG 2010 คือมีให้ใช้แทบจะครบทุกฟีเจอร์ และหากเราไม่ได้ต้องการตั้งค่าใดๆที่ต้องวางระบบแบบพิสดารพันลึกแล้ว TMG 2010 ก็คงจะตอบโจทย์ได้แน่ๆ เพราะในหลายๆครั้ง ผมก็พบว่าการใช้ Appliance ราคาแพงอาจจะไม่ได้จำเป็นเสมอไป เพราะเราอาจจะใช้แค่ฟีเจอร์ไม่กี่อย่าง ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ในบางครั้งก็มีอยู่ใน Appliance ที่ราคาต่ำกว่า หรือในซอฟท์แวร์ OpenSource ด้วยซ้ำไป

สำหรับผู้ที่กังวลในเรื่องของ Security นั้นผมขอบอกซักนิดเลยว่าหากท่านมีการทำ OS Hardening ที่ดีแล้ว การโจมตีต่างๆแทบจะไม่ระคาย OS ของท่านเลย แต่อน่างไรก็ดีการทำ OS Hardening ก็อาจจะต้องใช้ประสบการณ์และความรู้เพิ่มเติมพอสมควร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ต้องพยายามศึกษาและทดลองกันครับ

หลังจากที่ได้มีโอกาสจับ BlueCoat มาซักระยะหนึ่งแล้ว ผมก็นึกอยากเขียนบทความเปรียบเทียบนี้ขึ้นมาทันทีเลย เพราะจะว่าไปแล้วมีหลายๆท่านสงสัยเกี่ยวกับทั้งสองตัวนี้เหมือนกัน พี่ๆเซลล์ในบริษัทผมเองก็เคยสงสัยว่าทั้งสองตัวนี้จะเสนออะไรให้ลูกค้าดี หรือจะสู้กับอีกฝ่ายยังไงดี วันนี้เลยขอเล่าให้ฟังสักเล็กน้อยครับ เริ่มกันเลยดีกว่าครับ

1.TMG 2010 (ISA) เป็นซอฟท์แวร์ด้าน Security ที่มีฟีเจอร์ Proxy มาให้ด้วย ซึ่งจุดนี้หากผู้อ่านทำงานด้านนี้มานานก็น่าจะพอนึกออกว่าจริงๆแล้ว TMG หรือ ISA พัฒนามาจาก Microsoft Proxy Server ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทำอะไร  แต่ต่อมาไมโครซอฟท์ปรับปรุงซะจนกลายเป็น Security Software ไปซะแล้ว ยิ่งใน TMG 2010 มีอะไรต่อมิอะไรเพิ่มขึ้นอีกมากจนเรียกได้ว่าเป็น UTM (Unified Threat Management) คือกันได้ทุกอย่างแล้ว
2.BlueCoat จริงๆแล้วมีด้วยกันหลายซีรีย์ สำหรับในส่วนของพร็อกซีจะเรียกว่า ProxySG ซึ่งเป็นฮาร์โแวร์ที่ทำงานด้าน Proxy แบบแท้ๆ แต่ก็แอบมีฟีเจอร์ดีๆที่เกี่ยวกับ Security อยู่เหมือนกันเช่น URL Filtering, Antivirus ซึ่งในส่วนของ Antivirus จะต้องซื้อฮาร์ดแวร์ในซีรีย์ AV เข้ามาอีกด้วยจึงจะใช้ได้
3.เปรียบ เทียบกันในด้าน Proxy แล้ว ผมเห็นว่า BlueCoat ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะรองรับโปรโตคอลได้หลากหลายมาก (ขนาด CIFS ยังมีให้เซตเลย) การปรับแต่ง Policy ก็ทำได้อย่างหลากหลาย คอนเซปต์การใช้งาน Policy ในรูปแบบ Layer and Rule ก็ถือว่าน่าสนใจดี เรียกว่าในส่วนของ Proxy เลือก BlueCoat ได้เลย
4.ในส่วนของ URL Filteringตรงนี้ TMG 2010 เพิ่มจะเริ่มพัฒนาฐานข้อมูลของตนเอง ดังนั้นความถูกต้องและแม่นยำ รวมทั้งความครบถ้วจะเป็นรองค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามหากเรามีการใช้ Websense ร่วมด้วยแล้ว จุดอ่อนที่ว่าก็แทบจะไม่เป็นจุดอ่อนเลย เพราะ Websense ก็มีฐานข้อมูลใหญ่พอๆกับ BlueCoat และจริงๆแล้ว Websense ก็ใช้กับ BlueCoat ได้เหมือนกัน
5.การรองรับกับอุปกรณ์อื่น ตรงจุดนี้ BlueCoat ดีกว่า เพราะมี ICAP Protocol ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆได้มากมาย เช่น Facetime นอกจากนี้รองรับ WCCP ทำให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Redirection Device ได้อีกด้วย
6.TMG 2010 มีฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัยมากมาย เช่น Firewall, IPS, Web Content Inspection, Antispam, SSL Inspection ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถใช้ได้เลยโดยไม่ต้องซื้อฮาร์โแวร์หรือ license เพิ่มเติม ในขณะที่ BlueCoat ต้องซื้อ ProxyAV มาเพิ่ม
7.TMG 2010 มี VPN  ให้ในตัว ในขณะที่ BlueCoat ต้องซื้อ ProxyRA
8.TMG 2010 มี Link Load Balance ให้ด้วย แม้จะทำได้แค่ 2 ลิงค์ แต่ก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจทีเดียว เพราะโดยปกติ Load Balance ที่ใช้งานได้สเถียรๆอย่าง F5 หรือ LinkProof มีราคาค่อนข้างสูงทีเดียว
9.TMG 2010 เป็นซอฟท์แวร์ จึงมีความยืดหยุ่นมากกว่า คือสามารถเปลี่ยนไปใช้ฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่าเดิมได้หากผู้ใช้มากขึ้น ส่วน BlueCoat อาจจะต้องซื้อใหม่ยกชุด (ซึ่งแพงพอสมควร)
จากที่สรุป มาให้เห็นนี้ก็พอจะเห็นกันแล้วนะครับว่า หากเราต้องการ Proxy เพียงอย่างเดียว คงต้องเลือก BlueCoat ไป แต่หากต้องการอะไรซักอย่างที่มีให้ครบทุกอย่าง Microsoft Forefront Threat Management Gateway 2010 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวครับ



95
นอกเรื่อง / Microsoft Office 2010 Thai Edition
« เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 09:46:34 AM »
พึ่งได้มาสด ๆ ร้อน ๆ ครับ เลยมาให้สมาชิกดู คิดว่าหลายคนคงได้มาแล้ว ตัวนี้เป็น Thai Edition คือมีเมนูไทยและระบบตรวจสอบคำภาษาไทย ซึ่งถ้าใครได้ใช้ Office 2010 ก่อนหน้านี้ที่เป็นภาษาอังกฤษ เมื่อเทียบกันแล้วไม่มีความแตกต่างใดมากครับ ยกเว้น เรื่องของเมนู, การตัดคำ, การตรวจสอบตัวสะกด หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับภาษา ลองดูจากภาพตัวอย่างนะครับ ...

96
นอกเรื่อง / Delphi Prism
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 00:06:43 AM »
ตัดย่อหน้าแนะนำโปรแกรมมายั่วน้ำลายใครหลายคน แต่โพสส่วนที่เหลือไม่ได้เพราะอาจโดนเซ็นเซอร์  ;D ;D ;D

Delphi Prism - a tool that allows developers who use Delphi, and developers using. NET, to create applications. NET.

Year: 2010
Version: 4.0.23.741
Developer: Emcarcadero Technologies
Platform:. NET
Compatibility with Vista: complete
System Requirements: Hardware Requirements
Computer with a 1.6GHz or faster processor,
1024 MB RAM (1.5 GB if running in a virtual machine),
3 GB of available hard-disk space, 5400 RPM hard drive,
DirectX 9 capable video card running at 1024 x 768 or higher-resolution display
Operating system:
Windows XP (x86) with Service Pack 3
Windows Server 2003 Service Pack 1 or above
Windows Server 2003 R2 (x86 and x64)
Windows Vista (x86 & x64) with Service Pack 2
Windows Server 2008 (x86 and x64) with Service Pack 2
Windows Server 2008 R2 (x64)
Windows 7 (x86 and x64)
Integration with Visual Studio:
Sets a single (set VS2008 Shell) or is integrated into Visual Studio 2008 or Visual Studio 2010
Support intergatsii in MonoDevelop IDE (MonoDevelop can be installed with 2 in the set).
Language: English only
Tabletka: Present
Size: 1.66 GB
Developers in Delphi can use familiar syntactic constructions, and developers. NET - use the powerful language constructs not available in other programming languages. NET.Kompaniya Embarcadero Technologies has released a new version of Delphi for. Net - Delphi Prism 2011. The new version of Delphi Prism is an extension of Visual Studio 2010. According to the developers, this product provides the possibility of aspect-oriented programming and parallel programming, which are not implemented in any other programming language for. Net.

Extras. Information:
Delphi Prism 2011 is also fully integrated with Visual Studio 2010.

97
นอกเรื่อง / Microsoft Security Essential
« เมื่อ: สิงหาคม 17, 2010, 00:10:58 AM »
http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?displaylang=en&FamilyID=e1605e70-9649-4a87-8532-33d813687a7f#filelist

Antivirus เวอร์ชั่น Free จากค่าย MS ได้ทดลองใช้แล้วก็ถือว่าใช้ได้ระดับหนึ่งครับ เลยเอาแนะนำ .. แต่อย่าคาดหวังมากนะครับ โดยภาพรวม ยังอาจสู้ antivirus เจ้าอื่นไม่ได้ แต่ดีที่ "ฟรี" ครับ

98
โพสหัวให้ดูเวอร์ ๆ หน่อยครับ

http://www.youtube.com/watch?v=IGAseOSIp3c&feature=related


99
นอกเรื่อง / RC Plan ... เพราะมันไม่ใช่ของเล่น
« เมื่อ: สิงหาคม 12, 2010, 01:42:41 AM »
ว่าง ๆ เข้าไปใน youtube ไปดูเรื่องของเครื่องบินวิทยุบังคับ ดูของคนไทยเป็นเครื่องบินใบบัดก็ดูน่าสนใจครับ ไปดูของฝรั่ง เขาเล่นเครื่องยนต์เจ็ต ขอย้ำครับ มันคือ เครื่องยนต์เจ็ตเหมือนในเครื่องบินจริง ๆ แต่ถูกย่อส่วนมาเป็นเครื่องบินวิทยุบังคับ ลองดูครับ

ลำนี้ใหญ่จริง ๆ ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=c5FjTcctkC4&feature=related

เห็นภาพแรกนึกว่าคองคอร์ทลำจริงครับ
http://www.youtube.com/watch?v=52CVrcCydig&feature=related

ลองดู Airbus A340 ลำนี้ครับ พับเก็บล้อได้เหมือนเครื่องบินจริงทุกอย่าง ดูแล้วอยากได้จริง ๆ
http://www.youtube.com/watch?v=urtrGa3R8O0&feature=related

คราวนี้มาดู Antonov 225 เครื่องบินที่ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องบินขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก โมเดลขนาด 1:25
http://www.youtube.com/watch?v=dyWXlTwwvRM

ลองดูลำเล็ก ๆ นะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=-WsZuVkt06g&feature=related

ลำนี้เลียนแบบ EuroFight Typhoon ผมว่าสวยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=rRGZBa2TWAM&feature=related

ลำนี้ F22 - Raptor แหล่มมาก
http://www.youtube.com/watch?v=wGr0IIe0Rt0

F14 - Tomcat แหล่มจริง ๆ
http://www.youtube.com/watch?v=GrEdE2N3bVc&feature=related

F16 ขนาด 1:6 เหมือนของจริงมาก
http://www.youtube.com/watch?v=GrEdE2N3bVc&feature=related

Gripen ที่กำลังตกเป็นข่าวฉาวของกองทัพ
http://www.youtube.com/watch?v=UMOogeFDxf4

ลองดู B-2 Stealth Bomber Plan ครับ เป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้านะครับ ไม่ใช่ jet แต่สวยมากจริง ๆ
http://www.youtube.com/watch?v=AG5VK8l9nfg

คราวนี้ลองดู SR71 Blackbird ลำใหญ่มาก
http://www.youtube.com/watch?v=SDbQ5xvsrIU

เครื่องบินทิ้งระเบิดในตำนาน B52
http://www.youtube.com/watch?v=fbITzCI2AU0

F5-tiger
http://www.youtube.com/watch?v=tXxZXQ9_Yoc

Mirage 2000 ลำนี้แหล่มมากครับ
http://www.youtube.com/watch?v=keMUjgf7mkc&feature=related

ลองดู Boing 747 ลำนี้สุดยอดจริง ๆ
http://www.youtube.com/watch?v=Jfkyp89LLTE

หน้าตาเครื่องยนต์ jet ที่พวกเขาเล่นกัน
http://www.youtube.com/watch?v=zN9Rx5DmSHk

ต่อมา F18 ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=-kl5TrdqETM&feature=related

ภาพถ่ายจากกล้องที่ติดในเครื่องบินครับ
http://www.youtube.com/watch?v=JZ1YNpGgHOk&feature=related

ปิดท้ายแบบฮา ๆ หน่อยนะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=sUDuPWRiRug&feature=related

มีให้ดูกันแบบไม่เบื่อจริง ๆ ครับ คงถูกใจใครหลายคนที่ชอบเครื่องบิน ไม่รู้ว่าพี่เบิกสนใจจะซื้อมาบินซักล่ำไหมครับ :)

100
นอกเรื่อง / วันนี้เกือบซวย
« เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 00:48:08 AM »
     วันก่อนพี่อุดมโชคซวยไปที วันนี้ผมเกือบซวย ... เหตุของเหตุ คือ ตั้งใจจะจัดระเบียบ กระชับพื้นที่การใช้อินเตอร์เน็ตของคนในโรงพยาบาลใหม่ เลยกะจะเอาอุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีใช้อยู่เดิม ซึ่งซื้อมาแต่ไม่ได้ใช้ให้คุ้มค่า มาปรับจูนใหม่ เพื่อรีดความสามารถ
     วันนี้เลยเริ่มจาก DrayTek Vigor3300V เป็นชิ้นแรก ... แค่ชิ้นแรกก็ได้เรื่อง ตอนแรกกะจะเอามาอัพเกรดเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นใหม่ให้ไฉไลมากขึ้น เพราะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา เช่น port mirroring , physical dmz หลังจากที่อัพเกรดผ่านหน้าเว็บของอุปกรณ์ ... ขั้นตอนการอัพเกรดตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด ... ปกติทุกอย่าง แต่มันมันปกติก็ไอ้ตอนที่รีบูตเครื่องกลับมา แทบช๊อคครับพี่น้อง เครื่องแน่นิ่งไม่ทำงานขึ้นแต่ไฟ power อ้าวซวยหมาแล้วกูงานนี้ จะทำไงดี ยี่ห้อนี้กูจะไปหาใครช่วยละ ถ้าเป็น cisco ก็ว่าไปอย่าง ... โชคดีที่ยังมีอินเตอร์เน็ตอีกวงจร ผ่าน TrueWiFi เลยไปถามอากู่ ว่า Draytek TH อยู่ที่ไหน ก็ได้ความว่า เบอร์ DrayTek TH 022497910, 022498973 จึงรีบจัดแจงโทรไปหาฝ่ายเทคนิค .. ได้ความว่า การอัพเกรดอุปกรณ์ของ DrayTek ไม่แนะนำให้อัพเกรดผ่านหน้าเว็บ แนะนำให้ทำผ่านสาย console มากกว่า ... โอวแม่เจ้า คิดในใจ ... ถ้าไม่แนะนำ แล้วทำเมนูมาทำหาสวรรค์วิมานอะไร ... อัพเกรดอุปกรณ์มาก็หลายตัว พึ่งเคยเจอตัวนี้แหละ ที่บอกว่าไม่แนะนำ ...
     เหอออ แล้วเอาไงละที่นี้ ... จนท.เขาเลยแนะนำให้ให้เอาสาย console มาเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วจัดการใหม่หมด ผมจึงรีบจัดแจงหาสาย console โชคดีไปเจอสายที่มาพร้อมกับ router 3com ที่กระทรวงแจกมาให้ ... ว่าแล้วพูดถึง router 3com นี้ก็เหมือนกัน ไม่รู้แจกมาทำอนุเสาวรีย์อะไร ก่อนจะแจกเคยมาถามบ้างไหมว่าอยากได้หรือเปล่า ตัวไม่ใช่บาทสองบาท กลัวแต่จะไม่ได้ใช้เงิน ผมได้รับแจกมาเกือบปีแล้ว ยังตั้งเป็นอนุเสาวรีย์อยู่ในห้องเลย ของเดิมมี cisco 800 ซึ่งใช้งานอยู่ดี ๆ ส่วนของใหม่ที่กำลังจะเช่า เขาก็ให้ router ของ cisco มาพร้อมกันอยู่แล้ว ... เลยไม่รู้จะเอาทำอะไร สู้ให้เป็นอย่างอื่น เช่น เครื่องคอมสักชุดยังจะได้ใช้งาน .... ต่อครับ พอผมเชื่อมเจ้า 3300 เข้ากับเครื่องคอมผ่านสาย console ได้แล้ว เจ้าหน้าที่เขาก็แนะนำให้ใช้ hyperterminal เข้ากับอุปกรณ์เพื่อจะอัพเกรดโปรแกรมใหม่ .. คราวนี้ซวยอีก เครื่องในห้องทำงานก็เปลี่ยนเป็น windows 7 แล้ว มันก็ไม่มีแล้วซิ เลยต้องไปหามาอีก โชคดีเปิด NB มี VM Image ของ Windows XP อยู่เลยเปิดขึ้นมาแล้วคัดลอกใส่ Windows 7 ก็ใช้งานได้เลย ใครที่ต้องการใช้งานก็ทำดังนี้

1.เข้าไป coppy ไฟล์ที่ชื่อ hypertrm.exe อยู่ที่ C:\Program Files\Windows NT ในเครื่อง Windows XP ไปวางใน C:\Program Files\Windows NT ในเครื่อง Windows Vista หรือ Windows 7
2.เข้าไป coppy ไฟล์ที่ชื่อ hypertrm.dll อยู่ที่ C:\Windows\System32 ในเครื่อง Windows XP ไปวางใน C:\Windows\System32 ในเครื่อง Windows Vista หรือ Windows 7
3.ทำ Shotcut เรียกใช้งาน hypertrm.exe ให้คลิกง่ายๆตามตำแหน่งที่ต้องการ

     เข้าเรื่องต่อ .. หลังจากที่ทำตามคำแนะนำของจนท.ทุกทางเสร็จแล้ว ปรากฏว่า 3300 เจ้ากรรมก็ยังไม่ยอมทำงาน เชื่อมเข้าตัวอุปกรณ์ได้ แต่อุปกรณ์ไม่ทำงาน ... จะอัพเกรดเฟิร์มแวร์ใหม่อีกรอบก็ไม่ได้ เพราะการเชื่อมต่อผ่านสายแลนทำไม่ได้ ทำได้แต่การใช้ผ่านสาย console เท่านั้น ซึ่งการอัพเกรดก็ต้องใช้ผ่านสาย lan ร่วมด้วย ทำไงละที่นี้ เลยสอบถามกับจนท.ว่าผมจะต้องทำอย่างไร  เลยได้คำแนะนำว่า ส่งเครื่องมาที่บริษัท แล้วจะส่งไปที่โรงงานที่เมืองนอก ให้เขาเขียนรอมให้ใหม่ ... ใช้เวลาประมาณสองเดือน ...ตายแล้วกูสองเดือนเลยหรือ
    หลังจากที่วางสายสักพัก และนั่งทำใจ เลยค่อย ๆ เปิดเข้าไปใน hyperterminal แล้วไล่เปิดเมนูทุกเมนูเพื่อจัดการ config ระบบใหม่ทั้งหมดเอง ปรากฏว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้ เหตุผลเป็นเพราะ lan port ไม่ถูกเซ็ต จึงทำให้ไม่สามารถติดต่อกับอุปกรณ์ผ่าน lan port ได้ .... ดีใจมาก เลยโทรกลับไปคุยกับจทน.คนเดิม เขาก็ตอบว่ามีแบบนี้ด้วยหรือไม่เคยเจอเลย ... อ้าวคุณเป็นจนท.เทคนิคสนับสนุนลูกค้านะ แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้อุปกรณ์มันก็กลับมาทำงานเหมือนเดิมแล้ว ก็เลยเอาเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้สมาชิกฟัง
ปล.อาทิตย์หน้าจะอัพเกรด Fortigate ยังคิด ๆ อยู่ว่าจะทำดีไหม ถ้าจะทำคงต้องทำผ่าน console ดีกว่าเพื่อความปลอดภัย ไม่งั้นเป็นอะไรขึ้นมาซวยแย่เลย ตัวหนึ่งหลายแสนอยู่ด้วย เดี่ยวจะไม่มีปัญหาจ่ายให้รพ.

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 6