ให้ความรู้สึกว่า โรงพยาบาลโดนจับเป็นตัวประกันอีกแล้ว Y_Y
เหมือนในหนัง ประมาณว่า ผู้ร้ายปล้นธนาคารกำลังบอกตำรวจว่า ถ้าไม่ส่ง เฮลิคอปเตอร์มาภายใน 30 นาที เราจะฆ่าตัวประกันทีละคนทุกๆ 10นาที....
มันจะประมาณนี้ไหมครับ....
เพิ่มเติมนะครับ...
ผมเข้าใจ ว่าการทำธุรกิจ มันต้องมี ผลประโยชน์ และการเจรจาตกลงกัน แต่ถ้าลูกค้า ที่เชื่อมันในตัว Product รู้สึกว่า กำลังโดนใช้เป็นเครื่องมือทางการต่อรองทางธุรกิจอยู่...
ผมว่า ไม่นานหรอกครับ... ที่ลูกค้าจะมองทางเลือกใหม่ เพราะ บางครั้ง ศักดิ์ศรี มันก็สำคัญ กว่าความสะดวก...
การที่ทำกับโรงพยาบาลแบบนี้ สำหรับผม เหมือนพวกท่านกำลังดูหมิ่นดูแคลนเราเป็นอย่างมาก หาว่าเราไม่มีปัญญาทำด้วยตัวเอง ยังไงๆก็ต้องพึ่งพวกท่านอย่างเดียว... จนถึงขนาดที่ ถ้า เรา ขาดท่าน แล้ว คู่ค้าทางธุรกิจ ก็จะขาดผลประโยชน์มหาศาล... ผมไม่อยากมองอย่างนี้ แต่ตอนนี้ BMS กำลังทำให้ผมมองเองนะครับ..
คือ ประเด็นของผมก็คือ ธุรกิจ มันต้องดำเนินไป.... แต่ไม่ใช่การเอาลูกค้าเป็นตัวประกัน... ไม่งั้น ถ้าลูกค้ารู้สึกเมื่อไร เขาก็จะหมดศรัทธา
เข้าใจผิดแล้วครับ ผมคิดว่าตอนนี้ในฝั่ง รพ. ไม่ได้มีใครถูกบังคับอะไรเลยครับ ทุกคนมีทางเลือกหมด ไม่อย่างงั้นมันคงจะอ่านผล LIS ไม่ได้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แล้วล่ะครับ ถ้าตอนที่ผมประกาศนโยบายนี้แล้ว Lock เลย ณ ตอนนั้น มันก็จะเป็นอย่างที่คุณ ทักบอน บอกมานะครับว่าเราจับ รพ. เป็นตัวประกัน แต่จากสิ่งที่เราทำ คุณทักบอน แน่ใจจริงๆ หรือครับว่าเรากำลังจับ รพ. เป็นตัวประกัน แล้วฆ่าทิ้ง
ทาง BMS ค่อนข้างชัดเจนกับนโยบายนี้ และเราพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะแก้ไขปัญหานี้ ทุกคนทราบว่าเรากำลังทำแบบนั้นอยู่ บนเงื่อนไขที่ค่อนข้างยากเสียด้วยครับ คือต้องไม่กระทบกับ รพ. ทุกคนทราบหมดว่าแนวทางที่เราทำก็เพื่อเลี่ยงปัญหาที่ทุกท่านกำลังพบ ณ ตอนนี้ และผมอยากให้ท่านทราบว่าตอนนี้เรากำลังบีบ LIS และ บริษัทน้ำยา ไม่ใช่ รพ. ให้เร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้ท่าน