High performance

[kookkaija]

 ;Dพอดีได้อ่านกระทู้เก่าๆๆ พูดถึงเรื่องการทำ High performance ครับ ด้วยที่ว่าผมเป็นadminมือใหม่จึงไม่รู้ความหมายของคำนี้ครับรบกวนแนะนำด้วยครับ
1.หมายความว่าอย่างไร
2.มีไว้ทำอะไรครับ
3.แล้วเมนูตรงไหนครับ
ขอบคุณครับ

[doramon]

;Dพอดีได้อ่านกระทู้เก่าๆๆ พูดถึงเรื่องการทำ High performance ครับ ด้วยที่ว่าผมเป็นadminมือใหม่จึงไม่รู้ความหมายของคำนี้ครับรบกวนแนะนำด้วยครับ
1.หมายความว่าอย่างไร
2.มีไว้ทำอะไรครับ
3.แล้วเมนูตรงไหนครับ
ขอบคุณครับ

อันนี้ครับ

[yord]

ตามที่เคยมีประสบการณ์ทำมาแล้ว 1 ครั้งนะครับ
มันคือการทำตารางจาก MyISAM เป็น InnoDB ครับ
ตอบไม่ทัน อ.อ๊อด ครับ

[kookkaija]

มันคือการทำตารางจาก MyISAM เป็น InnoDB ครับ

รบกวนถามต่ออีกนิดนะครับ
จำเป็นต้องทำหรือเปล่าครับถ้าไม่ทำจะเกิดผลเสียอย่างไรบ้างครับ
 ถ้าจำเป็นต้องทำตอนไหนครับ
 :Dขอบคุณอีกครั้งครับที่แนะนำ

[skypec]

ที่รพ.ผม ทำประจำครับ หลังจาก upgrade structure แล้ว ทำ High performance ตลอดครับ

ของผมอยู่ประมาณ 96 %

[yord]

ตามที่ อ.ทั้งหลายบอกไว้ในบอร์ดนี้ก็คือว่า ตารางเป็นแบบ InnoDB จะดีกว่าตรงที่มีความเสถียรกว่า โอกาสเสียน้อยกว่าแบบ MyISAM ครับ ของผมตอนนี้ก็ 94% เป็น InnoDB ครับ

[kookkaija]

 ;Dขอบคุณอ.ทุกท่านที่ให้คำแนะนำครับ ผมขอเก็บกระทู้นี้เข้าคลังกระทู้ผมก่อนนะครับ 

[yord]

 ;Dhttp://hosxp.net/index.php?option=com_smf&Itemid=28&topic=10231.0

[thannawe]

 

[naj]

Database ของ รพ.ดอนตูม เป็น InnoDB อยู่แล้วครับ ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม ยกเว้น  Upgrade Version 

[por]

ISAM (MyISAM) ซึ่งมีความรวดเร็วในการอ่านและเขียนสูง เนื่องจากมีการจัดเก็บไว้ในรูปแบบของแฟ้มข้อมูล ซึ่งรองรับการอ่านข้อมูลพร้อมๆ กันได้ (เหมาะสำหรับ Web Application) แต่อาจจะมีปัญหาเมื่อใช้งานกับระบบที่ต้องมีการอ่าน/เขียน ข้อมูลในตารางเดียวกัน พร้อมๆ กัน

ที่สำคัญ ฐานข้อมูลประเภท MyISAM จะมีปัญหาเรื่อง Index เสีย และ Data Corrupt บ่อยมาก หากใช้งานใน OS ที่เป็น Windows และมีการ Shutdown อย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้ผู้ดูแลระบบต้องมีการซ่อมแซม (repair table bad_table) ตารางทีมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ

InnoDB ข้อดีคือ รองรับการทำ Transaction รองรับการอ่านและเขียน พร้อมๆ กันได้ดีกว่าฐานข้อมูลประเภท MyISAM และยังมีระบบ Auto Data Recovery หากมีการ shutdown โดยไม่เหมาะสม (ไฟดับ)

ซึ่งในการใช้งานผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้ตารางใดเป็นประเภท InnoDB หรือ MyISAM ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม (ว่าจะเลือกความเร็ว หรือ ประสิทธิภาพ)
 

[bbb3]

ISAM (MyISAM) ซึ่งมีความรวดเร็วในการอ่านและเขียนสูง เนื่องจากมีการจัดเก็บไว้ในรูปแบบของแฟ้มข้อมูล ซึ่งรองรับการอ่านข้อมูลพร้อมๆ กันได้ (เหมาะสำหรับ Web Application) แต่อาจจะมีปัญหาเมื่อใช้งานกับระบบที่ต้องมีการอ่าน/เขียน ข้อมูลในตารางเดียวกัน พร้อมๆ กัน

ที่สำคัญ ฐานข้อมูลประเภท MyISAM จะมีปัญหาเรื่อง Index เสีย และ Data Corrupt บ่อยมาก หากใช้งานใน OS ที่เป็น Windows และมีการ Shutdown อย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้ผู้ดูแลระบบต้องมีการซ่อมแซม (repair table bad_table) ตารางทีมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ

InnoDB ข้อดีคือ รองรับการทำ Transaction รองรับการอ่านและเขียน พร้อมๆ กันได้ดีกว่าฐานข้อมูลประเภท MyISAM และยังมีระบบ Auto Data Recovery หากมีการ shutdown โดยไม่เหมาะสม (ไฟดับ)

ซึ่งในการใช้งานผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้ตารางใดเป็นประเภท InnoDB หรือ MyISAM ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม (ว่าจะเลือกความเร็ว หรือ ประสิทธิภาพ)
 

ชัดเจนไปเลยครับ Dr.por....